เราเคยมีข่าวว่าซัมซุงจะทำสมาร์ทโฟนที่หน้าจอนั้นลากไปถึงขอบจากการทำหน้าจอ OLED ออกมาอยู่พักนึงแล้วก็เงียบไป (แล้วกลายเป็น Samsung Galaxy Round แทน) แต่ล่าสุดซัมซุงได้รื้อฟื้นมันกลับมาสู่ตลาดอีกครั้งในฐานะสมาชิกใหม่ของตระกูล Note นั่นก็คือ Samsung Galaxy Note Edge นั่นเอง
Galaxy Note Edge มีจุดเด่นใหญ่ๆ 1 จุด นอกจากจุดเด่นที่ตีคู่มากับ Galaxy Note 4 นั่นก็คือขอบของจอจะโค้งลงไปหาด้านหลัง และมันสามารถแสดงผลได้ ซึ่งซัมซุงเรียกมันว่า Bent Display จุดเด่นของ Bent Display ก็คือสามารถแสดงผลเดี่ยวๆ ได้ ในขณะที่หน้าจอหลักยังปิดอยู่ ทำให้เราไม่พลาดเตือนการแจ้งเตือนสำคัญๆ ไป อีกทั้งมันยังสามารถแสดงผลเป็นถาดเครื่องมือเวลาที่ใช้งานแอปต่างๆ ของซัมซุงเองได้ด้วย
สำหรับสเปคของ Note Edge เรียกได้ว่าไม่หนีจาก Galaxy Note 4 มากนัก รายละเอียดมีดังนี้ครับ
* หน่วยประมวลผลควอดคอร์ความเร็ว 2.7 GHz ไม่ระบุรุ่น มีแรม 3 GB
* หน้าจอหลักเป็นแบบ Super AMOLED ขนาด 5.6 นิ้ว (เล็กกว่า Note 4) ความละเอียด Quad HD หน้าจอข้างความละเอียด 160 เส้น เป็นแบบ OLED (ดังนั้นความละเอียดจอจะเท่ากับ 2560*1440 + 160)
* หน้าจอรองรับแรงกดได้ถึง 2048 ระดับ
* กล้องหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมฟังก์ชัน Smart OIS (ยังไม่ยืนยันว่าเป็น ISOCELL แบบ Galaxy S5 หรือไม่)
* กล้องหน้าความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล ค่ารับแสงที่ f/1.9
* รอบรับ Wi-Fi a/b/g/n/ac พร้อมตัวรับสัญญาณสองตัว (MIMO), Bluetooth 4.0, NFC และ LTE Cat-6 (ทำความเร็วได้สูงสุด 300 Mbps)
* เซ็นเซอร์เพื่อสุขภาพพร้อมซอฟต์แวร์ชุด S Health 3.5
* มีเซ็นเซอร์วัดระดับต่างๆ ได้แก่ Gesture, Accelerometer, Geo-magnetic, Gyroscope, RGB,IR-LED Proximity, Barometer, Hall Sensor, UV และ SpO2 (มีในบางประเทศ)
* มี IR Blaster สำหรับใช้ทำรีโมทคอนโทรล
* มีตัวอ่านลายนิ้วมือ
* หน่วยความจำในตัว 32/64 GB ใส่ microSD เพิ่มได้อีก 64 GB
* แบตเตอรี่ 3000 mAh รองรับ Quick Charge 2.0
Galaxy Note Edge จะมีให้เลือกเล่นทั้งหมดสองสี คือสี Charcoal Black และ Frost White โดยยังไม่มีการระบุว่าทำตลาดครบทุกประเทศหรือไม่ครับ
ที่มา - Android Central, Engadget