คล้อยหลังจากการเปิดตัว Galaxy Note 4 ที่ประเทศเยอรมนีเมื่อวันที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมาไม่นาน วันนี้ (16 กันยายน 2557) Samsung ประเทศไทย ได้จัดงานแนะนำ Galaxy Note 4 อย่างเป็นทางการต่อสาธารณะ ซึ่ง Blognone ก็มีโอกาสได้ไปลองเล่นมาแล้ว (รีวิวของจริงคงตามมาทีหลัง) รวมถึงฝาหลังสุดระยิบระยับ ของ Galaxy S5 จาก Swarovski ด้วย (ทั้งบริษัทสาขาไทยมีสองอันเท่านั้น ไม่มีวางจำหน่าย)
ทั้งนี้ ต้องแจ้งก่อนว่าเครื่อง Galaxy Note 4 ที่ Samsung เอามาให้ลองเล่นนี้ เป็นตัวต้นแบบ (prototype) และใช้หน่วยประมวลเป็น Qualcomm Snapdragon แทนที่จะเป็น Samsung Exynos ซึ่งเป็นรุ่นที่วางจำหน่ายจริงในไทย ดังนั้นพรีวิวลองเล่นนี้อาจจะไม่สอดคล้องกับตัวที่จำหน่ายจริง ครับ สเปคอ่านเอาจากข่าวเก่า เรามาเริ่มดูตัวเครื่องกันเลยครับ
คำเตือน ภาพเยอะและละเอียดมาก โปรดใช้วิจารณญาณในการเปิดบนอุปกรณ์พกพาของท่าน
สิ่งแรกที่สังเกตได้เวลามองจากด้านหน้า จะพบว่า Galaxy Note 4 ยังคง "ภาษาการออกแบบ" (design language) ของ Samsung เอาไว้เป็นเอกลักษณ์ ความคล้ายคลึงก็เหมือนกับ Galaxy S5 เอาไปรีดทำให้ใหญ่ขึ้น
ด้านหลังก็ยังคงแนวทางเดิมจาก Galaxy Note 3 ที่ใช้ฝาหลังหนังเทียม (ผมพยายามถามผู้บริหารว่าทำไมไม่ทำหนังแท้ ทั้งที่ยี่ห้ออื่นอย่าง Porsche Design ทำได้ ซึ่งก็เลี่ยงไปตอบในด้านความทนทานแทน ก็พอจะเข้าใจได้) ลักษณะเหมือนกับ Galaxy S5 ทุกประการ (กล้องก็ยื่นออกมาชัดเจน)
สิ่งที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนสำหรับ Galaxy Note 4 คือการเปลี่ยน "ขอบ" ตัวเครื่องที่เป็นโครงหลักของเครื่อง (frame) กลายเป็นโลหะ แบบเดียวกับ Galaxy Alpha หรือ Nokia Lumia 930 เพื่อความรู้สึกที่ "หรูหราขึ้น" ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่ามัน "แข็งแรงขึ้น" มากกว่าที่จะ "หรูหราขึ้น" (การให้น้ำหนักบนมือยัง "เบาเกินไป" ไม่ต่างจาก Galaxy Note 3) แล้วพ่นสีของเครื่องทับอีกทีหนึ่ง แทนที่จะเป็นโลหะเปลือย หรือใช้เทคนิค Anodized/PVD ในการทำสี
เวลาหันมองหน้าจอ ด้านซ้ายของเครื่องจะเป็นปุ่มปรับเพิ่ม-ลดเสียง ส่วนด้านขวาจะเป็นปุ่มเปิด-ปิดหน้าจอ
ด้านบนเครื่องจะมีพอร์ตต่างๆ ครับ จากซ้ายไปขวา: พอร์ต (?) ช่องสำหรับสัญญาณ Infrared (แบบเดียวกับ IR Blaster ของ HTC), ไมโครโฟน และช่องสำหรับเสียบหูฟัง
ส่วนด้านล่างก็จะเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคย จากซ้ายไปขวา: ไมโครโฟน, ช่องเสียบ Micro USB (น่าจะ 2.0), ไมโครโฟน (อีกตัว) และช่องใส่ปากกา S-Pen
เวลาถืออยู่ในมือ ต้องยอมรับว่าขนาดค่อนข้างใหญ่ และเนื่องจากเป็นคนที่มือเล็ก ทำให้เวลาถือค่อนข้างเมื่อยง่ายมาก มีเสียวหลุดหรือหล่นได้ (อาการเดียวกับในรีวิว Find 7)
แกะฝาหลังของเครื่องเพื่อดูด้านในครับ
จับ S-Pen ออกมาวางคู่กับเครื่อง
เรื่องของหน้าจอ หน้าจอออกมาสวย เดินตามรอย Galaxy Tab S หรือแม้แต่ Galaxy S5 และละเอียดมาก (ความละเอียดระดับ QHD) แต่ถามว่ารู้สึกอย่างไรกับหน้าจอ คงต้องบอกว่าไม่ต่างจากคู่แข่ง (Oppo Find 7 หรือ LG G3 ก็มีออกมาแล้ว)
โดยรวมถือว่าไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นมาก สำหรับคนที่ใช้หรือเคยลองใช้ Galaxy Note 3 มาก่อน เพราะคราวนี้เป็นการพัฒนาให้ "ดีขึ้นกว่าเดิม" มากกว่าที่จะเป็นการก้าวกระโดดแบบ Galaxy Note รุ่นแรกมา Galaxy Note II ส่วนมากจะหนักไปทางด้านซอฟต์แวร์ที่มีลูกเล่นแปลกๆ มากขึ้นครับ
เรื่องของ S-Pen สำหรับคนมือหนักอย่างผม ยอมรับว่าเป็นอะไรที่รู้สึก "อึดอัด" พอสมควร เพราะปากกาให้มาค่อนข้างเล็กและไม่ยาว เวลาจับไม่ดีทีไรพาลจะเป็นการกดปุ่มบนปากกาไปทุกที ซึ่งทางออกอันเดียวคือต้องไปซื้อรุ่นที่เป็นของ Montblanc (และแน่นอนว่าต้องตามมาด้วยราคาที่สูงเอาเรื่องครับ) โดยผมสอบถามกับทาง Samsung ก็ระบุว่ากำลังทำงานและประสานงานร่วมกับทาง Montblanc และตัวแทนจำหน่ายในเมืองไทย (DKSH) ให้เอามาวางจำหน่ายพร้อมๆ กันครับ (เป็นนิมิตหมายที่ดี)
สำหรับรุ่นที่มาจำหน่ายในไทย จะใช้หน่วยประมวลกลางเป็น Samsung Exynos โดยรองรับ LTE ในบ้านเราแน่นอน ทาง Samsung ประเทศไทยระบุว่าสำหรับรุ่นที่ใช้ Qualcomm Snapdragon ที่ไม่เอามาจำหน่าย เพราะเป็นรุ่นที่สนับสนุน LTE Cat. 6 และเกรงว่าจะมีปัญหากับระบบเครือข่ายในบ้านเรา จึงต้องการนำรุ่นที่ใช้กับเครือข่ายอย่างมีความเสถียรเข้ามาจำหน่าย และจะวางจำหน่ายทุกสีครับ (สีขาว, สีชมพู, สีทอง (ไม่ใช่ทองคำแท้) และสีดำ)
วางจำหน่ายช่วงเดือนตุลาคมนี้ (ถือว่าเร็วมาก) ส่วนราคาก็ยังไม่ระบุครับ
งานนี้นอกจากจะมี Galaxy Note 4 มาแสดงให้แล้ว ยังมีฝาหลัง Swarovski For Samsung สำหรับ Galaxy S5 มาอยู่ในงานโดยบังเอิญด้วย เลยไม่พลาดโอกาสยืมมาลองจับด้วย ซึ่งจากการสอบถาม ทราบว่าในไทยมีเพียงแค่สองฝาเท่านั้น และไม่มีแผนวางจำหน่ายแต่อย่างใด (สำหรับคุณสุภาพสตรีที่อยากวิบวับ คงต้องสั่งจากเมืองนอก)
ต้องบอกว่า แรกเห็นนั้นมันไม่ได้ "ระยิบระยับ" อะไรปานนั้น (แม้ว่าจะทำให้เครื่องดูโดดเด่นขึ้นมา) และเมื่อสัมผัสอย่างละเอียดแล้ว ก็พบว่าค่อนข้างเนียนต่อเนื่อง ถือว่าทำออกมาได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม ก็ทำให้ฝาเครื่อง "หนา" ขึ้นมามากโขอยู่
สิ่งที่น่ากังวลคือ เมื่อใช้ไปได้ระยะหนึ่ง คริสตัลของ Swarovski เหล่านี้จะ "ร่วง" ลงมาหรือไม่ เพราะแม้ว่าจะรู้สึกว่าติดแน่น แต่ก็ไม่มีอะไรยืนยันได้ ในสภาพที่ตัวคริสตัลค่อนข้างยื่นออกมาจากตัวฝาค่อนข้างเยอะ ทางเลี่ยงอันหนึ่งอาจจะต้องไปหาเคสใสมาใส่ (ซึ่งพอหนาแล้ว ก็ไม่น่าจะมีนะ)
แต่ข่าวดีสำหรับสุภาพสตรีก็คือ สำหรับ Galaxy Note 4 ทาง Samsung ประเทศไทย กำลังพยายามทำงานร่วมกับผู้นำเข้า Swarovski เอามาวางจำหน่ายในเมืองไทยแบบเดียวกับทาง Montblanc เช่นกันครับ
ป.ล. ภาพทั้งหมดดูได้ที่นี่ครับ