ในบรรดาอุปกรณ์สายนาฬิกาที่ใช้ Android Wear ทั้งหลาย Moto 360 จากค่าย Motorola ถือเป็นค่ายที่วางจำหน่ายช้าที่สุด แม้จะวางขายช้า แต่ก็ขายหมดอย่างรวดเร็ว และเนื่องจากมีมิตรสหายท่านหนึ่งที่ผมรู้จัก ได้ Moto 360 มา ผมเลยไม่รอช้า ถือโอกาสลองเล่น Moto 360 คร่าวๆ มาให้ท่านผู้อ่านได้พิจารณากันครับ (ขอบพระคุณมิตรสหายท่านนั้นมา ณ ที่นี้ด้วย)
คำเตือน ภาพเยอะมาก โปรดระมัดระวัง
สิ่งแรกที่ผมเห็นแล้วยอมรับว่าค่อนข้างตกใจ คือ "ขนาด" ของนาฬิกา ที่ค่อนข้างใหญ่กว่าปกติไปมากพอสมควร เพราะนาฬิกาที่เราเห็นกันทั่วไปสำหรับผู้ชาย มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ประมาณ 38-42 มิลลิเมตร แต่ Moto 360 กลับมีขนาดใหญ่มาก เพราะมีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 46 มิลลิเมตร ขณะที่ Orient มีเส้นผ่าศูนย์กลางที่ 42 มิลลิเมตรเท่านั้น
ทั้งนี้ แถบดำด้านล่างของหน้าจอ เป็นแหล่งรวมเซนเซอร์ต่างๆ ดังนั้นคนที่ซื้ออาจจะต้องทำใจเรื่องขอบดำด้านล่างของนาฬิกาครับ
ภาพด้านล่าง: เทียบขนาดนาฬิกา (ซ้ายไปขวา: Sony SmartWatch 2, Moto 360, Orient EM7J-C1-A Automatic)
ด้านหลังของเครื่อง เป็นที่รวมเซ็นเซอร์ต่างๆ
ด้านซ้ายของนาฬิกา เป็นช่องสำหรับไมโครโฟน (ผมคิดว่าเครื่องควรทำได้บางกว่านี้นะ)
ด้านขวาเป็นเม็ดมะยม (จริงๆ ควรเรียกว่าปุ่มมากกว่า แต่ด้วยบริบทก็ขอเรียกเม็ดมะยมไป)
แอนิเมชันตอนเปิดเครื่องครับ แลดูคงความเป็น Motorola ไว้ได้ดี
สำหรับความสามารถของ Moto 360 ก็เหมือน Smart watch ที่ใช้ Android Wear ทั่วไป กล่าวคือ ไว้แสดงการแจ้งเตือนต่างๆ (อย่างในภาพเช่น Instagram) รวมถึงเป็น Google Now บนข้อมือ เอาไว้เรียกใช้งานได้ด้วยในเวลาเดียวกัน ที่อาจจะมากกว่า Smart watch ในรุ่นก่อนหน้า คือสามารถเป็นตัวนับก้าวเดิน (pedometer) และตัวตรวจการเต้นของหัวใจได้เช่นกัน (ผมลองแล้วก็แม่นระดับหนึ่ง)
ที่ผมชอบคือ สามารถใช้นิ้วปาดจากด้านบน สั่งให้เครื่องเงียบเสียงได้ (silent) ซึ่งถือว่าดีมากและสะดวกในสถานการณ์ที่มีประชุม ซึ่งในโหมดนี้ ก็จะเห็นแบตเตอรี่ที่เหลือของเครื่อง และวันที่
เรื่องของการใช้งานเป็น Google Now ก็ทำทุกอย่างแบบที่ Google Now เป็น คือรอรับคำสั่งเสียง แล้วก็ประมวลผลข้อมูลให้ คงไม่มีอะไรบอกเล่าได้ดีไปกว่าวิดีโอด้านล่างครับ (เสียงกดกริ่งเป็นเสียงจากทางร้านครับ)
โดยภาพรวม Moto 360 ไม่ได้มีความแตกต่างจาก Smart watch ที่มีมาก่อนหน้าในตลาดเท่าใดนักในเชิงคุณสมบัติ กล่าวคือ ทำหน้าที่ในฐานะเป็น "จอที่สอง" สำหรับโทรศัพท์มือถือ ความแตกต่างอย่างชัดเจนจาก Smart Watch ก่อนหน้าคือการใช้ Android Wear ที่ผูกแน่นกับบริการของ Google และตัวเครื่องที่ออกมาทรงกลม แทนที่จะเป็นทรงสี่เหลี่ยมนั่นเอง เรื่องของน้ำหนักถือว่าก็ใกล้เคียงกับนาฬิกาปกติที่ผมใช้อยู่
ผมยังไม่ค่อยแน่ใจว่า แนวทางในการป้อนข้อมูลของ Android Wear ที่ใช้เสียง จะใช้ได้ดีแค่ไหนในความเป็นจริง (สมมติว่าในสถานการณ์เสียงดังแล้วต้องการสั่งการนะครับ ไม่นับความเป็นส่วนตัวอีก) แต่ถือว่าโดยภาพรวมเท่าที่เล่นแล้วก็ถือว่าใช้ได้อยู่
ทั้งหมดทั้งปวง คงต้องรอเครื่องรีวิวอย่างเป็นทางการอีกทีหนึ่ง ถึงจะรีวิวอย่างจริงจังได้ครับ