ในที่ประชุมคณะกรรมการ กสท. ในวันนี้ (22 กันยายน) ได้มีการลงมติในกรณีที่ ช่อง 3 และ ช่อง 7 ได้ยื่นข้อเสนอในการขอลดค่าธรรมเนียมดิจิทัลทีวี 4% ออกไปก่อนจนกว่าจะหมดสัมปทาน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับสถานีโทรทัศน์ที่ต้องออกอากาศคู่ขนานและต้องแบกรับต้นทุนสองทาง แต่เนื่องจากยังมีข้อเหลื่อมล้ำเรื่องการแข่งขัน มตินี้จึงยังไม่ได้นำมาพิจารณา จนกระทั่งในวันนี้ คณะกรรมการ กสท. ได้ยกมติดังกล่าวขึ้นมาพิจารณากันใหม่ และได้ลงมติเป็นเอกฉันท์ดังนี้
- ลดค่าธรรมเนียม 4% ให้กับสถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศคู่ขนานในระบบดิจิทัลก่อนวันที่ 10 ตุลาคม 2557 เป็นระยะเวลา 5 ปี (ปัจจุบัน คือ ช่อง 9/MCOT HD และ ช่อง 7/ช่อง 7 HD)
- ลดค่าธรรมเนียม 2% ให้กับสถานีโทรทัศน์ในระบบดิจิทัลรายใหม่ทั้งหมด 22 ช่องเป็นระยะเวลา 5 ปี
ทั้งนี้ สำหรับช่อง 3 ถ้าออกอากาศคู่ขนานก่อนวันที่ 10 ตุลาคม ก็จะได้เงื่อนไขข้อที่ 1 โดยอัตโนมัติ แต่ถ้าไม่ดำเนินการภายในวันที่ คณะกรรมการ กสท. ได้กำหนด ก็จะเข้าเงื่อนไขข้อที่ 2 แทน
นอกจากนี้ คณะกรรมการ กสท. ยังมีการลงมติเพิ่มเติมในอีก 3 เรื่องที่ได้นำมาประชุมในที่นี้ด้วย ดังต่อไปนี้ครับ
- ให้ส่งเอกสารเตือน บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในกรณีที่โครงข่ายดิจิทัลทีวีของ อสมท ล่ม 2 ครั้ง จนทำให้ ไทยรัฐทีวี, วอยซ์ทีวี และสปริงนิวส์ ได้รับความเสียหาย ซึ่งถ้าเกิดมีครั้งที่ 3 เกิดขึ้น สำนักงาน กสทช. จะคิดค่าปรับเป็นเงิน 20,000 บาท และสั่งพักใช้ใบอนุญาตวางโครงข่ายทันที
- ให้สำนักงาน กสทช. จัดทำหนังสือถึงกระทรวงการคลัง เพื่อขอพิจารณาในการเลื่อนการส่งเงินค่าประมูลดิจิทัลทีวีรอบที่ 2 ออกไปอีก 1 ปีทุกราย
- ให้ผู้มีอำนาจควบคุมสูงสุดของ บจก.บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนท์ และ บจก.บีอีซี-มัลติมีเดีย เข้าหารือกับคณะกรรมการ กสท. ในวันพรุ่งนี้ เพื่อถามความเห็นว่า บจก.บางกอกเอ็นเตอร์เทนเมนท์ และ บจก.บีอีซี-มัลติมีเดีย มีผู้บริหารสูงสุดคือ บมจ.บีอีซีเวิลด์ ที่นายประวิทย์ มาลีนนท์ เป็นผู้มีอำนาจควบคุมใช่หรือไม่ (ดูเอกสารประกอบ) เนื่องจากคณะกรรมการ กสท. ได้พิจารณาในเรื่องนี้แล้วพบว่า นิติบุคคลทั้งสอง มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ บีอีซีเวิลด์ และผู้บริหารสถานีทั้งสอง ก็คือ บีอีซีเวิลด์ แต่ในขณะที่คุณประวิทย์อ้างมาตลอดว่าไม่สามารถออกคู่ขนานกันได้ เนื่องจากตามกฎหมายถือว่าเป็นคนละนิติบุคคล ซึ่งถ้าให้คำตอบว่าใช่ ช่อง 3 จะสามารถออกอากาศคู่ขนานได้อัตโนมัติโดยไม่ผิดข้อกฎหมาย แต่ถ้าคำตอบคือไม่ กสทช. ก็จะพิจารณาบทลงโทษต่อไปซึ่งอาจจะถึงขั้นขอเพิกถอนใบอนุญาตได้
ที่มา - @Supinya, @Reporter_JS13, @Pakapong_Report