พาเที่ยวงาน Tokyo Game Show 2014

by KnightBaron
24 September 2014 - 18:16

กลับมาอีกครั้งกับงานเกมที่ใหญ่ที่สุดประจำปีของญี่ปุ่นนั่นคืองาน Tokyo Game Show 2014 โดยในปีนี้นั้นงานจัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 - 21 กันยายนที่ผ่านมา ณ Makuhari Messe (เป็นลานจัดงานอเนกประสงค์ คล้ายๆ กับ Impact Arena บ้านเรา) งานแบ่งเป็น 2 ช่วงโดยวันที่ 18 - 19 จะเป็น Business Day ที่เปิดให้เฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวงการเกมรวมถึงสื่อมวลชนเข้าร่วม และวันที่ 20 - 21 เป็น Public Day ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมได้ด้วยครับ สำหรับตัวผม (และเพื่อนอีกคนคือ @Axess_kun ที่ลากไปเป็นช่างภาพจำเป็น) มีโอกาสได้ไปร่วมงานนี้ในวันที่ 19 ซึ่งเป็น Business Day ในฐานะตัวแทนจาก Blognone (ต้องขอขอบคุณพี่ @lew และพี่ @mk เป็นอย่างสูง) และเก็บบรรยากาศมาเขียนเป็นบทความนี้ครับ

คำเตือน: รูปเยอะมากครับ

Tokyo Game Show 2014

เมื่อ 3 ปีก่อน ผมมีโอกาสไปร่วมงาน Tokyo Game Show 2011 แต่ไปในฐานะผู้ร่วมงานธรรมดาในวัน Public Day ครับ การไปร่วมงานในวัน Business Day นั้น บรรยากาศจะแตกต่างจากวัน Public Day อยู่บ้าง หลักๆ เลยคือไม่มีคิว ไม่ต้องไปต่อสู้กับเกมเมอร์ชาวญี่ปุ่น (และต่างชาติ) ผู้หิวกระหายดังฝูงซอมบี้ครับ ถึงแม้ว่าวัน Business Day นั้นจะไม่มี Cosplay ให้ดูสักเท่าไหร่ (ไม่นับ Pretty ตามบูทที่มีทุกวัน) แต่ก็นับว่าสบายกว่ากันมากครับ ภายในงานช่วงเข้าก็โล่งสบาย เดินกันได้ตัวปลิว แตกต่างจาก Public Day ลิบลับครับ

ไปถึงงานก็ต่อคิวลงทะเบียนสื่อ รอคิวสัก 10-20 นาที จากนั้นก็เดินตัวปลิวเข้างานได้เลย :D

ภายในงาน นอกจากจะมีส่วนจัดแสดงเกมซึ่งเป็นไฮไลท์ของงานแล้ว ยังมีโซนติดต่อธุรกิจอีกด้วย ซึ่งในปีนี้ทาง Google ก็ได้ไปออกบูทเป็นครั้งแรก แต่เนื่องจากมาแบบธุรกิจ จึงไม่มีอะไรมาแสดงมากมายครับ มีเพียง Google Cardboard และ Google TV เท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นห้องประชุมสำหรับติดต่องาน ซึ่งปิดไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปวุ่นวายครับ

Koei Tecmo

สำหรับส่วนจัดแสดงเกมนั้น บูทแรกที่ผมได้ไปเยี่ยมชมคือบูท Koei Techmo และได้ลองเล่น Dead or Alive 5 Last Round, Ar Nosurge Plus และ Ciel Nosurge Offline (เลือกเล่นเกมตามรสนิยมของผมเองครับ ฮา) ซึ่งทุกเกมก็แทบจะเล่นได้ทันที ไม่ต้องต่อคิวอะไร (จริงๆ ต้องบอกว่าจะเดินผ่านไป แล้วโดนพนักงานเรียกให้มาลองเล่นด้วยซ้ำ) ส่วนเกมอื่นๆ ที่ผมคิดว่าน่าสนใจก็มี Zelda Musou (Hyrule Warriors ในภาษาอังกฤษ) แต่ไม่ได้ไปลองเล่นครับ

DMM Games

บูทถัดมาที่น่าสนใจคือบูท DMM Games ซึ่งเป็นค่ายเกมมือถือชื่อดังของญี่ปุ่น เจ้าของเกม Kantai Collection ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเกมที่ดังที่สุดในญี่ปุ่นขณะนี้ครับ ที่บูทนี้ไม่ค่อยมีอะไรมาก นอกจากจัดแสดงเกม และสินค้าจากเกมต่างๆ ของค่าย (แต่ก็ไม่มีเกมไหนได้รับความสนใจเทียบเท่า Kantai Collection)

Virtual Concert โดย Mascot Character ของ GREE ที่ไม่มีใครสนใจดู น่าสงสารจริงๆ

Oculus

ถัดมาเป็นบูท Oculus ครับ บูทนี้ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก ไม่สามารถต่อคิวเล่นได้ทันที แต่ต้องไปที่บูทก่อนเพื่อรับ "บัตรคิว" โดยในบัตรจะระบุเวลาที่เราจะสามารถมา "ต่อคิว" จริงๆ ได้อีกที (งงไหมครับ?) สำหรับคราวนี้มี Oculus Rift DK2 มาให้ทดสอบ โดยมีเดโมให้ลองเล่น 2 ตัวแบบสุ่ม ตัวแรกคือ Unity-chan Live Concert ส่วนอีกตัวเป็นเกม Space Flight Simulation ที่ผมไม่รู้จักชื่อครับ เดโมที่ผมได้ลองเล่นคืออันหลัง (แต่ที่อยากเล่นคืออันแรก...) ภายในเกมเราสามารถมองห้องนักบินได้รอบ 360 องศา ระหว่างต่อสู้ใช้การมองตามเป้าหมายเพื่อล็อคเป้ามิสไซล์ ผมสามารถบินฉวัดเฉวียนได้โดยไม่มีอาการเวียนหัวแต่อย่างใด ระหว่างเล่นก็ไม่พบภาพเบลอ ประสบการณ์โดยรวมถือว่าสนุกมากครับ

ที่บูท Bushirode มีบิ๊กไบค์ Evangelion มาโชว์ด้วย!

Microsoft

บูทต่อไปคือ XBOX จากทาง Microsoft ซึ่งไม่ค่อยมีอะไรมาก นอกจากโชว์ตัวเครื่อง และนำเกมต่างๆ มาให้ลองเล่นครับ บูทค่อนข้างใหญ่ แต่ไม่ได้รับความสนใจมากนัก (เทียบกับบูทใหญ่อื่นๆ ) สะท้อนความนิยม XBOX ONE ที่ญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี ที่น่าสนใจคือมี Mighty No. 9 ให้ลองเล่นด้วย! (เข้าใจว่าน่าจะเป็นตัว Backer Beta)

Bandai Namco

ต่อมาเป็นบูท Bandai Namco Games ซึ่งก็มีเกมมาให้ลองเล่นมากมายเช่นกัน โชคดี ผมไปถึงช่วงที่กำลังแถลงข่าวเปิดตัวเกม Sword Art Online ภาคสามพอดีครับ ที่บูทนี้ก็มีเกมดังๆ มาให้ลองเล่นมากมาย แต่ที่โปรโมตเป็นพิเศษคือ Gundam Breaker 2, Dragon Ball Xenoverse, God Eater 2: Rage Burst และ Tales of Zestiria ครับ

แน่นอนว่าแฟนเดนตายเกมซีรีส์ Tales อย่างผมคงพลาดที่จะลองเล่น Tales ภาคใหม่ไม่ได้ ถึงแม้วันนี้จะเป็น Business Day แต่คิวรอเล่นเกมนี้ก็ค่อนข้าวยาวเล็กน้อยครับ (อาจเป็นเพราะแต่ละคนได้เวลาเล่นค่อนข้างนานด้วย) นอกจากนี้เกมอื่นๆ ที่ผมได้ลองเล่นก็มี Hanayamata: Yosakoi LIVE! ซึ่งพาร์ท Visual Novel ทำมาได้โอเค แต่พาร์ท Music Game นี่ค่อนข้างจืดชืด ถ้าไม่ใช่แฟนการ์ตูนคงไม่น่าสนใจสักเท่าไหร่ครับ (แต่ในฐานะแฟนอวย เล่นบทคุณพี่ทามิแล้วจะละลาย) ส่วน God Eater 2 นั้นส่งเพื่อนไปลองเล่นแทนครับ

ใกล้ๆ กันมีบูทที่แนวที่สุดของงานคือ OneeChambara Z2 Chaos ครับ แต่ผมไม่ได้ไปลองเล่นนะ

Sony

สำหรับ PlayStation นั้นปีนี้ก็จัดเต็มเช่นเคยครับ มีเกมมาให้ลองเล่นเยอะมาก (แต่หลายเกมก็หาเล่นที่บูทของ Publisher ได้ ไม่ต้องรอนานด้วย) เกมเด่นๆ ในปีนี้คือ Destiny และ Bloodborne ครับ (มันคือตระกูล Demon's Souls / Dark Souls เกมใหม่ครับ)

แต่เกมที่คิวยาวที่สุดดันเป็น The Evil Within (Psycho Break ในภาษาญี่ปุ่น) ที่เมื่อผมไปถึงช่วงบ่ายๆ นิดๆ ก็พบว่าโควต้าเต็มสำหรับทั้งวัน ไม่รับคนต่อคิวเล่นเพิ่มอีกแล้ว นอกจากเกมแล้ว Sony ยังเอา Project Morpheus มาให้เฉพาะสื่อทดสอบอีกด้วย น่าเสียดายมากที่ผมมาทราบทีหลัง เลยไม่ได้ไปลองกับเขา

SEGA

ถัดไปเป็นบูท SEGA ครับ รอบๆ บูทไม่มีอะไรน่าจดจำเป็นพิเศษ นอกจากเกม Ryu Ga Gotoku Zero (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Yakuza Zero) ที่ดึงดารา AV 9 คนมาใส่ในเกม และทั้ง 9 คนก็มาร่วมงานเปิดตัว ให้ถ่ายภาพกันได้หนำใจอีกด้วย! ผมเองก็เพิ่งมาทราบหลังจากที่กลับมาแล้วว่าสาวๆ ที่ถ่ายมานั้นน่ะ ดารา AV ทั้งนั้น :D

Capcom

ทาง Capcom หลักๆ ก็มี Monster Hunter 4G และ Biohazard Revelations 2 มาให้ลองเล่น แต่เนื่องจากไม่ใช่แฟนทั้งสองซีรีส์ จึงไม่ได้เข้าไปลองครับ

Square Enix

สำหรับ Square Enix ก็ไม่น้อยหน้าครับ ขนเกมดังๆ มาให้ลองเล่นกันมากมาย โดยเกมที่เด่นๆ ที่เอามาให้ลองเล่นก็มี Final Fantasy Type-0 HD, Bravely Second และ KINGDOM HEARTS HD II.5 REMIX นอกจากมียังมี Trailer และ Gameplay Video ล่าสุดจาก Final Fantasy XV มาเปิดตัวอีกด้วยครับ (ว่าแต่ Final Fantasy ภาคใหม่นี่ทำไมมันเต็มไปด้วยหนุ่มๆ บอยแบนด์!)

ในบูทเดียวกันแบ่งส่วนนึงให้ Bethesda Softworks สำหรับเกม The Evil Within โดยเฉพาะ ซึ่งเกมนี้ได้รับความสนใจเป็นอย่างสูง (น่าจะที่สุดแล้ว) ในหมู่สื่อมวลชน ผมเองต้องไปต่อคิวเกือบ 2 ชั่วโมง กว่าจะได้ลองเล่น ซึ่งก็คุ้มค่าแก่การรอคอยครับ เกมนี้เรียกตัวเองได้เต็มปากว่าเป็น Spiritual Successor ของเกมตระกูล Biohazard (ที่ปัจจุบันออกไปทาง Action มากกว่า Survival Horror แล้ว) ระหว่างต่อคิว ในบูทก็เปิด Trailer โชว์ฉากตายแบบสยดสยองต่างๆ ในเกมให้ดูวนไปวนมา

หลังจากรอนานแทบตายแล้ว สุดท้ายเวลาเล่นกลายเป็นว่าผมต้องคอยภาวนาให้เวลาหมดไวๆ เพราะเกมสยองเหลือเกิน (จริงๆ ผมก็ไม่ค่อยถูกโรคกับเกมแนวนี้เท่าไหร่นะ ยังไม่เคยเล่น Biohazard จบสักภาค แต่ไหงมาต่อคิวเล่นเกมนี้ได้ก็ไม่รู้) เกมนี้เรามีกระสุนติดตัวไม่กี่นัด แต่โดนซอมบี้กัดไม่กี่ทีก็จบเห่ ตัวเกมเน้นให้เราแก้ปริศนา พยายามเข้าใจเนื้อเรื่อง (ที่หลอนมาก) และเอาชีวิตรอดไปให้ได้ครับ ผมพยายามจะเข้าไปบู๊กับซอมบี้ก็พบว่าต่อยยังไงมันก็ไม่ล้ม ยิ่งถ้าโดนล้อมหน้าหลังนี่แทบจะวางจอย รอตายแล้วโหลดเกมใหม่ (ซึ่งนานมาก แต่ให้อภัยได้เพราะยังเป็น Beta อยู่) ได้เลย ไปๆ มาๆ จากที่ภาวนาให้เวลาหมดไวๆ กลายเป็นเล่นจนลืมเวลา ทางทีมงานก็ใจดี ให้ผมเล่นซะจุใจ รวมๆ แล้วเกือบครึ่งชั่วโมง กว่าจะได้ออกมาก็เกือบงานเลิกพอดีครับ

Konami

ในระหว่างที่ผมต่อคิว The Evil Within อยู่นั้น ก็ส่งเพื่อนที่มาด้วยกันไปสำรวจบูท Konami ตามรีเควสจากพี่ @mk ครับ ซึ่งบูทนี้ก็มีแต่ Metal Gear Solid V: The Phantom Pain ล้วนๆ ช่วงที่ไปมี Talk Show จากคุณ Hideo Kojima ด้วยครับ โดยแกมาอธิบายฟีเจอร์ของเกมภาคใหม่นี้ เป็น Session ที่มีคนให้ความสนใจอย่างล้นหลามครับ แถมด้วยความเป็นสื่อ เพื่อนผมสามารถลุยเข้าไปถ่ายภาพใกล้ๆ ได้อีกต่างหาก (น่าเสียดายที่ไม่สามารถขอถ่ายภาพคู่มากได้ ฮา)

อื่นๆ

นอกจากบูทจากค่ายเกมใหญ่ๆ แล้ว ก็ยังมีบูทฝั่งเกมอินดี้ ร่วมถึงค่ายเกมเล็กๆ (มีจากประเทศไทยด้วย!) ซึ่งในงานจัดพื้นที่ให้กลุ่มนี้ไม่น้อย แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ความสนใจมากนักครับ นอกจากนี้ยังมีโซนขายของสะสมจากค่ายเกมต่างๆ (มาวัน Business Day สามารถซื้อได้ทุกอย่าง ไม่ต้องต่อคิวอีกต่างหาก!)

อันนี้เข้าใจว่าเป็นเกมจีบหนุ่มครับ (แต่เอาสาวๆ แต่งหล่อมาฟัดกันให้ดู :D)

สารพัด Badge เบ่งที่ได้มาครับ :D

ปิดท้าย

และทั้งหมดนั่นก็คือประสบการณ์จากงาน Tokyo Game Show 2014 ของผมครับ โดยรวมงานปีนี้มีเกมน่าสนใจเปิดตัวมากมาย น่าเสียดายที่ถ้าผมเตรียมทีมมาเยอะกว่านี้ และทำการบ้านมาดีกว่านี้ น่าจะได้ลองอะไรๆ มากขึ้น (เช่นรู้ว่าตรงไหนมีอะไร ต้องไปต่อคิวอะไรก่อน) หวังว่าปีหน้าทาง Blognone จะให้โอกาส ส่งผมไปแก้ตัวรอบหน้านะครับ สุดท้ายนี้เช่นเคยครับ ขอปิดท้ายด้วยภาพงามๆ เป็นของฝาก (หรืออาหารจานหลัก?) ครับ สำหรับภาพทั้งหมดสามารถเข้าไปดูได้ที่ Flickr ของผม นะครับ

Blognone Jobs Premium