เหมือนจะดีพอ แต่ไม่พอดี: รีวิว ThinkPad 8

by nrad6949
27 September 2014 - 12:18

หลังจากเปิดตัวไปตั้งแต่ต้นปีสำหรับแท็บเล็ต Lenovo ThinkPad 8 และวางจำหน่ายในไทยได้มาสักระยะหนึ่งแล้ว ทาง Lenovo ก็ส่งมาให้ทาง Blognone ได้รีวิวแท็บเล็ตระดับองค์กร (Enterprise-grade) ตัวนี้ครับ

สำหรับเครื่องที่ได้รับมา มีหน่วยความจำที่ 64 GB (เหลือใช้จริงประมาณ 50 GB), แรม 4 GB และมาพร้อมกับ 3G/LTE ในตัว ซึ่งถือเป็นรุ่นที่หาได้ตามร้านตัวแทนจำหน่ายของทาง Lenovo โดยมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 19,900 บาท ส่วนสเปคอื่นอ่านเอาจากข่าวเก่านะครับ เข้าเรื่องเลยดีกว่าครับ

ตัวเครื่อง

ThinkPad 8 ถือเป็นแท็บเล็ตขนาด 8 นิ้ว ที่เกินมานิดหน่อย (ในสเปคจริงๆ คือมีหน้าจอขนาด 8.3 นิ้ว) โดยถูกวางตัวให้เป็นแท็บเล็ตระดับองค์กร ซึ่งต้องถือว่าสมกับความเป็นแท็บเล็ตองค์กรจริงๆ เพราะแรกสัมผัสรู้สึกได้ถึงความหนักและความแน่นของเครื่อง (ตามสเปคคือหนัก 439 กรัม) ไม่มีกดแล้วยวบยาบ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยน้ำหนักที่ถือว่าค่อนข้างมากกว่าแท็บเล็ตขนาด 8 นิ้วโดยทั่วไป

แต่ถึงจะหนักและแน่นอย่างนี้ ถ้าลองเอามาดัดเบาๆ แบบที่เจอใน iPhone 6 Plus ก็มีงอนะครับ ผมดัดเล่นออกแรงแค่เบาๆ ก็งอ (flex) แล้ว แต่ด้วยความที่ตัวเครื่องเป็นพลาสติก การงอดังกล่าวก็เป็นไปด้วยคุณสมบัติของพลาสติกที่ยืดหยุ่นได้ เลยเด้งกลับมาเหมือนเดิมครับ (ไม่กล้าดัดไปมากกว่านี้ กลัวทำพัง)

ด้านหลังของแท็บเล็ตยังคงดีไซน์และสัมผัสการออกแบบเหมือนกับ ThinkPad เดิมๆ ที่เป็นพลาสติกพ่นยาง ไม่รู้สึกลื่น จับกระชับมือ ต้องบอกว่าสัมผัสดีมากๆ

โลโก้ของ ThinkPad ที่บริเวณหัวตัว i จะเป็นจุดสีแดง เวลาเปิดใช้เครื่องจะปรากฏออกมาเป็นไฟครับ (คงทดแทนตุ่มแดงๆ ที่มีบนแป้นพิมพ์ไม่ได้ในเชิงความรู้สึก แต่ก็พอจะกล้อมแกล้มไปได้ว่ายังมีจุดแดงๆ)

กล้องหลังที่สเปคระบุว่าเป็น 8 เมกะพิกเซล พร้อมแฟลช

ด้านบนของเครื่องไม่มีอะไรอยู่เลยครับ ส่วนด้านขวามือของเครื่อง (ถ้ามองจากหน้าจอ) มีปุ่มเปิด/ปิด หน้าจอ ปุ่มปรับเสียง และพอร์ต Micro USB 3.0

ด้านล่างหลังเครื่องเป็นลำโพง (ไม่แน่ใจว่าสเตอริโอหรือไม่) และช่องเสียบหูฟัง

ด้านซ้ายเป็นช่องเสียบ Micro HDMI และช่องที่มีฝาปิดเป็นที่เสียบ micro SD และซิมการ์ด

ขนาดเมื่อเอาไปใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง คือใส่ลงนะครับ แต่แน่นอนว่าต้องล้นกระเป๋ามามากพอดู

การใช้งานจริง

ตัวซอฟต์แวร์ภายในเป็น Windows 8.1 Pro บนหน้าจอที่ความละเอียดเกิน Full HD (1920x1200) ทำให้ภาพหน้าจอที่ออกมาสวยมาก ความสว่าง รวมไปถึงมุมของหน้าจอ ถือว่ายอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำงานใน Modern UI/Metro UI และการตั้งค่าแรกเริ่มในส่วนของหน้าจอเดสก์ท็อป ถือว่าใช้งานได้ดีกับหน้าจอที่ละเอียดขนาดนี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อผมปรับค่าในเดสก์ท็อป ให้ใช้ความละเอียดหน้าจอเต็มที่ ไม่ขยาย ผลที่ได้ก็เป็นดังภาพข้างล่าง คือมันเล็กมาก จนจิ้มอะไรไม่ถูก ผมต้องปรับให้มันใหญ่ขึ้นเล็กน้อย ถึงจะเริ่มอยู่ในข่ายพอทำงานได้ครับ และค่าเริ่มต้นของตัวแท็บเล็ตเอง ก็ใหญ่เกินไปที่ผมจะทำงานตามปกติได้ (แต่อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลนะครับ)

สิ่งหนึ่งที่ผมชอบ คือการที่แท็บเล็ตขนาด 8 นิ้ว สามารถทำงานเป็นตัวอ่านหนังสือสำหรับขนาดพวกพ็อกเกตบุ๊กได้เป็นอย่างดี ตัวหนังสือและความคมชัดของเครื่องนี้ที่ให้ ก็ทำให้การอ่านหนังสือประเภทนี้สบายตา ไม่ต้องเพ่งมาก แบบภาพด้านล่าง

ในการใช้งานจริง ผมพบว่าถ้าคุณเดินถือแท็บเล็ตไปและคาดหวังว่าจะเปิดเอกสารอ่านอะไรเป็นเรื่องเป็นราว เข้าเว็บ ถือว่าเข้าท่า เพียงแต่ว่าถ้าเข้าโหมดเดสก์ท๊อปเมื่อไหร่ ผมพบว่าผมต้องแสวงหาแป้นพิมพ์และเมาส์ เพราะการทำงานอยู่ในระดับที่อิหลักอิเหลื่อมาก ถ้าคิดจะใช้เป็นแท็บเล็ตอย่างเดียว (แป้นพิมพ์ปาเข้าไปครึ่งหน้าจอแล้วเมื่อจอทำงานในแนวนอน) ซึ่งในส่วนนี้ก็คงจะต้องบอกว่าเป็นเพราะตัวระบบปฏิบัติการ อีกทั้งเมื่อตั้งค่าหน้าจอที่ละเอียดมาก เพื่อให้เห็นเอกสารขนาดจริง ก็จะพบว่าเล็กเกินไป พอตั้งค่ามาตรฐานก็จะใหญ่เกินไป ทำให้เวลาทำงานแบบไม่ได้นั่งโต๊ะค่อนข้างเป็นปัญหาพอสมควร

อีกเรื่องที่ชื่นชอบคือโหมดการทำงานของการถ่ายภาพ ที่สามารถเลือกภาพที่ดีที่สุดขณะถ่ายไว้ได้ (เข้าใจว่าสมาร์ทโฟนเจ้าดังๆ มีกันหมดแล้ว)

ส่วนเรื่องของคุณภาพของภาพถ่ายต้องถือว่าดีจนน่าแปลกใจ แน่นอนว่าการถ่ายตอนกลางคืนอาจมี noise รบกวนอยู่ แต่ก็ถือว่าพอใช้ได้ ทว่าภาพตอนกลางวันกลับให้คุณภาพที่ดีจนผมทึ่ง แม้ว่าแสงจะไม่มากและถ่ายในที่ร่มก็ตาม

ในการใช้งานจริง พบว่าตัวเครื่องร้อนพอสมควร โดยเฉพาะบริเวณหัวเครื่องด้านบน, หน้าจอสู้แดดดีมาก, ปุ่ม Windows บนหน้าจอเครื่อง กดแล้วทำงานบ้าง ไม่ทำงานบ้าง, แบตถือว่าหมดค่อนข้างเร็วถ้าใช้ต่อเนื่อง (ผมไม่ได้นับละเอียด แต่หนึ่งชั่วโมงหมดไปประมาณ 25-30% เห็นจะได้ เมื่อเปิด 3G/LTE ทำงานด้วย), เวลาชาร์จค่อนข้างนาน แต่ที่คาดไม่ถึง คือการที่ตัวแท็บเล็ตมันทำงานเป็น PC อันหนึ่ง แทนที่คิดว่าจะเป็นแท็บเล็ต กล่าวคือ ผมต้องการเอารูปออกจากแท็บเล็ต ซึ่งวิธีการปกติที่ผมทำในกรณีนี้ คือต่อแท็บเล็ตเข้าคอมพิวเตอร์ แล้วดึงไฟล์ออกมา แต่ใน Windows 8.1 กลับทำเช่นนั้นไม่ได้ ผลก็คือผมต้องไปแสวงหาสาย OTG มาใช้ แล้วถ่ายโอนไฟล์จาก thumb drive เอาแทน เพิ่มขั้นตอนที่ไม่จำเป็นอย่างยิ่ง

บทสรุป: เหมือนจะดีพอ แต่ไม่พอดี

ในเชิงฮาร์ดแวร์ ThinkPad 8 ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ทั้งขนาด คุณภาพของหน้าจอ รวมไปถึงภาพถ่ายที่ให้ภาพสวยงาม อย่างไรก็ตาม ยังมีจุดที่ต้องติ อย่างเช่น ปุ่ม Windows บนหน้าจอที่กดติดบ้างไม่ติดบ้าง (เรียก Charmbar ขึ้นมาง่ายกว่า) และในหลายครั้งที่ปุ่มนั้นกลับสร้างปัญหาในการจับ (เพราะไปปลุกให้เครื่องตื่นด้วย) ตลอดจนถึงแบตของเครื่อง และความร้อนจากเครื่องด้วยเวลาใช้งาน

สิ่งที่ทำให้เครื่อง ThinkPad 8 สร้างความผิดหวังมากที่สุด กลับไปตกอยู่ที่ซอฟต์แวร์ Windows 8.1 เสียมากกว่า ซึ่งในฝั่ง Modern/Metro UI แม้จะออกแบบหน้าจอและขนาดที่เหมาะสมสำหรับแท็บเล็ตตัวนี้ แต่แอพในการทำงานก็ยังมีไม่มาก และถ้าเข้าถึงโหมดเดสก์ท็อปเมื่อใด ผลที่ได้คือความไม่ลงตัวในการทำงานเวลาที่ต้องเดินทางอยู่บนรถไฟฟ้าแล้วใช้งานแท็บเล็ตตัวนี้ และการทำงานที่ติดว่าตัวมันยังทำงานแบบ PC เครื่องหนึ่ง ก็ทำให้สถานะของแท็บเล็ตตัวนี้ แทนที่จะเชื่อมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บ้านในฐานะอุปกรณ์ต่อพ่วง กลายเป็นว่าปฏิบัติตัวเหมือนกับเป็นคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง ทำให้งานบางอย่างที่ควรจะทำได้ด้วยสามัญสำนึก (เช่น การย้ายโอนไฟล์) ต้องเผชิญกับความซับซ้อนโดยใช่เหตุ ซึ่งหวังว่าปัญหานี้จะแก้ไขใน Windows ตัวถัดไป

ถ้าถามผมว่าควรซื้อหรือไม่ อาจจะตอบได้ยาก เพราะเรื่องเช่นนี้แล้วแต่คนที่ใช้งานอยู่ด้วยว่าจะต้องการแบบไหน ซึ่งด้วยราคาขนาดนี้ (19,900 บาท) คนที่ซื้ออาจจะต้องใคร่ครวญให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจครับ

Blognone Jobs Premium