Jeff Teper ซึ่งเป็น Corporate Vice President of Corporate Strategy และผู้ให้กำเนิด SharePoint ได้กล่าวถึงการดำเนินธุรกิจของไมโครซอฟท์ในงานสัมมนาแห่งหนึ่ง เว็บไซต์ ZDNet ได้รวบรวมประเด็นที่น่าสนใจมานำเสนอ ดังนี้
- บริษัทซื้อ Minecraft เพราะเป็นเครื่องมือพัฒนาตัวหนึ่งที่ผู้คนใช้สร้างโลกของตัวเอง หากสามารถดึงเด็กมาสร้างโลกของตัวเองและรับแรงบันดาลใจจากการสร้างคอนเทนต์ดิจิทัลได้ เมื่อพวกเขาโตขึ้นพวกเขาจะสร้างคอนเทนต์บน PowerPoint หรือ Visual Studio นอกจากนั้น Minecraft ยังเป็นเกมที่เก็บเงินจากผู้ใช้ได้ ซึ่งมีเพียงไม่กี่เกมเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องเป็น freemium (แจกแอพฟรี ขายสินค้าหรือบริการเพิ่มเติม)
- บริษัทรีแบรนด์ Lync เป็น Skype for Business เพราะ Skype สามารถตอบสนองการใช้งานส่วนตัวและการทำงานได้ (dual use) โดยผู้คนจำนวนมากใช้ Skype ฟรีเป็นประจำจึงคุ้นเคยและชื่นชอบในบริการอยู่แล้ว
- บริษัทคุยว่าการตัดสินใจซื้อ Fast Search ผู้พัฒนาเทคโนโลยีสืบค้นเอกสารในองค์กรนั้นถูกต้อง ไม่เหมือนกับเอชพีที่ซื้อ Autonomy โดย Teper กล่าวเป็นนัยว่า Office Graph และ Office Delve นั้นเป็นผลงานจากทีม Fast Search
- เมื่อสามปีก่อนบริษัทเคยสำรวจลูกค้า 100 รายว่ามีแผนจะใช้กลุ่มเมฆ (cloud) ใน 3-5 ปีข้างหน้าหรือไม่ คำตอบคือไม่ แต่ไมโครซอฟท์เชื่อว่าผู้คนด้านไอทีจะไม่บอกว่าเมื่อไรตลาดจะเปลี่ยนแต่จะบอกหลังจากตลาดเปลี่ยนแล้ว จึงทำให้ไมโครซอฟท์ไม่เชื่อในสิ่งที่ลูกค้าบอกและเร่งผลักดันการลงทุนด้านกลุ่มเมฆ
- บริษัทนิยามคำว่า "mobility" ใหม่ว่าเป็น mobility ของผู้ใช้ข้ามอุปกรณ์และไม่จำเป็นต้องอยู่บนแพลตฟอร์มของบริษัทเท่านั้น บริษัทเชื่อว่าการทำให้ผู้คนที่ชื่นชอบซอฟต์แวร์ของบริษัทเข้าถึงได้จากทุกแพลตฟอร์มจะส่งผลต่อการซื้อพีซี แท็บเล็ต และมือถือในครั้งถัดไป ที่จะหันมาซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัท
- Gaming ยังเป็นส่วนหนึ่งของแก่นธุรกิจของบริษัท (เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น อาทิ วิดีโอ หนังสือ และเพลง ที่บริษัทไม่ค่อยเน้น) เพราะผู้คนใช้เวลาจำนวนมากกับการเล่นเกมบนพีซีและมือถือ นอกเหนือจากการติดต่อสื่อสาร สร้างผลิตผล (productivity) และท่องโลกอินเทอร์เน็ต
- ยืนยันว่าบริษัทกำลังลงขันมากขึ้นกับเรื่องต่างๆ เพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้น (bigger bets on fewer things) ซึ่งสอดคล้องกับที่ Satya Nadella บอกใบ้ว่าบริษัทจะลดการลงทุนลงเหลือเพียงสามเรื่อง คือ Windows, Office 365 และ Azure
ที่มา: ทรานสคริปที่ Teper กล่าวในงานสัมมนา ผ่าน ZDNet