รายงาน BarCamp Leeds 2007

by mk
18 November 2007 - 15:16

ผมไปงาน BarCamp Leeds ต่อไปนี้เป็นรายงานบรรยากาศงาน รวมถึงประชาสัมพันธ์ BarCamp Bangkok 2008!

BarCamp คืออะไร

BarCamp เป็นชื่อเรียกงานประชุม-สัมมนาแบบไม่เป็นทางการสุดๆ (มีศัพท์เรียกว่า unconference) ของบรรดาแฮกเกอร์ ดำเนินการทั้งหมดโดยชุมชน

ที่มาของชื่อ BarCamp นั้นเกิดมาจากคำศัพท์ของฝรั่งว่า Foobar ซึ่งเรามักเห็นกันบ่อยๆ เวลาอ่าน tutorial ภาษาอังกฤษแล้วคนเขียนมันตั้งชื่อตัวแปรไม่ออกก็ใส่ Foobar ทุกครั้งไป

ตำนานของงานนี้เริ่มมาจากเมื่อปี 2003 สำนักพิมพ์ O'Reilly ซึ่งพิมพ์ตำราคอมพิวเตอร์ที่เราคุ้นเคยกันดี เกิดไอเดียว่าถ้าเชิญคนเจ๋งๆ จากวงการคอมพิวเตอร์ วิทยาศาสตร์ สังคม ฯลฯ มาชุมนุมกัน 3 วัน 2 คืน โดยทาง O'Reilly จะจัดหาสถานที่ ของกิน ของใช้ต่างๆ ไว้ให้ แต่ไม่มีกำหนดการล่วงหน้าใดๆ มีแค่บอร์ดว่างๆ ขนาดใหญ่ให้หนึ่งอัน ที่เหลือเป็นหน้าที่ของคนมาร่วมงานเองว่าใครอยากพูดอะไรก็มาเขียนจองเวลาไว้ คนอื่นเดินมาอ่านถ้าคิดว่าน่าสนใจก็เข้าไปฟังกันตามสะดวก

ฟังดูไม่น่าเป็นไปได้ แต่มันกลับประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม และ O'Reilly ตั้งชื่องานนี้ว่า FOO Camp (ย่อมาจาก Friends-of-O'Reilly) ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นประจำปีละครั้ง และ Foo Camp กลายเป็นงานที่คนในวงการอยากไปเป็นอันดับต้นๆ (เพราะได้ไปเจอกับคนเจ๋งๆ ดังๆ มากมาย)

อย่างไรก็ตามจำนวนคนเข้า Foo Camp มีจำกัด และสิทธิ์ในการคัดเลือกเป็นของ O'Reilly เท่านั้น ดังนั้นจึงมีคนที่ผิดหวังจำนวนมาก รวมถึงคนที่เคยไปปีก่อนแต่ไม่ถูกเชิญไปในปีถัดมาด้วย

กลุ่มคนเหล่านี้จึงเสนอไอเดียว่าเราอย่ามัวไปรอ O'Reilly เลย จัดงานแบบเดียวกัน แต่ทำลายข้อจำกัดเรื่องคนที่เข้าร่วมเสีย แขกร่วมงานคือใครก็ได้ที่สนใจ ไม่จำเป็นต้องเด่นดังแต่อย่างใด และเพื่อเป็นการล้อเลียน Foo Camp แบบเล็กๆ พวกเขาจึงตั้งชื่องานนี้ว่า BarCamp (เขียนติดกัน)

BarCamp ครั้งแรกสุดจัดขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2005 ที่เมือง Palo Alto สหรัฐอเมริกา ถ้านับถึงปัจจุบัน BarCamp ถูกจัดขึ้นนับร้อยครั้งตามเมืองต่างๆ ทั่วโลก (รายการ BarCamp ที่เคยจัด) การจัดการทุกอย่างทำโดยชุมชนในท้องที่นั้นๆ (โดยยืมเฉพาะชื่อ BarCamp มาใช้) ไม่มีองค์กร BarCamp กลางมาควบคุมดูแล และการวางแผนล่วงหน้า ประกาศเชิญชวน ทุกอย่างทำผ่าน Wiki

สำหรับธรรมเนียมปฏิบัติในงาน ชาว BarCamp ได้ตั้งกฎของ BarCamp ขึ้นมา 8 ข้อดังนี้

  • 1st Rule: You do talk about Bar Camp.
  • 2nd Rule: You do blog about Bar Camp.
  • 3rd Rule: If you want to present, you must write your topic and name in a presentation slot.
  • 4th Rule: Only three word intros.
  • 5th Rule: As many presentations at a time as facilities allow for.
  • 6th Rule: No pre-scheduled presentations, no tourists.
  • 7th Rule: Presentations will go on as long as they have to or until they run into another presentation slot.
  • 8th Rule: If this is your first time at BarCamp, you HAVE to present. (Ok, you don't really HAVE to, but try to find someone to present with, or at least ask questions and be an interactive participant.)

อ่านแล้วน่าจะพอนึกภาพออกว่า BarCamp เน้นการมีส่วนร่วมของทั้งคนพูด-คนฟังมากๆ เช่น ถ้าคุณมางานนี้เป็นครั้งแรกก็โดนบังคับพูด หรือ ให้มี presentation จำนวนมากที่สุดที่เป็นไปได้ เป็นต้น

ผมได้รับมอบหมายภารกิจจากคุณ sugree ให้ไปดูว่า BarCamp เมืองนอกเค้าทำกันอย่างไร และ BarCamp ที่ใกล้ที่สุดที่จัดในช่วงนี้คือ BarCamp Leeds และนี่คือรายงานแบบคร่าวๆ

BarCamp Leeds 2007

BarCamp Leeds (หน้า wiki) จัดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2007 ที่อาคาร Old Broadcasting House ซึ่งเดิมเป็นที่ออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ BBC แต่ปัจจุบันเป็นห้องอบรม-สัมมนาขนาดย่อมๆ ของ Leeds Metropolitan University

การสมัครเข้าร่วมงานก็ไม่มีอะไรยาก เข้าไปลงชื่อใน wiki ของ BarCamp (และในบางกรณีอาจต้องลงทะเบียนในเว็บเฉพาะของานนั้นๆ เพื่อให้ผู้จัดทราบยอดคนที่แน่นอน) ก่อนวันงานทางทีมงานจะอีเมลทุกสิ่งที่จำเป็นต้องรู้มาให้เพื่อเป็นการคอนเฟิร์ม (ตัวอย่างจดหมายที่ผมได้รับ) เมื่อถึงวันงานก็ไปตามนัดเป็นอันเสร็จ

เผอิญว่าอาคาร Old Broadcast House ดัดแปลงเป็นห้องอบรมวิชาแมคอินทอช (จับกลุ่มวิชาชีพศิลปะเป็นหลัก) เลยมีสาธารณูปโภคด้านมัลติมีเดียค่อนข้างครบ ก่อนเข้างานเลยโดนจับถ่ายโพลารอยด์ไปทำ Image Wall ดังภาพ (รูปผมอยู่มุมซ้ายล่าง เผื่อมีคนอยากหา)

ผมแอบไปคุยกับคนจัดงาน เค้าบอกว่ายอดคนที่คอนเฟิร์ม 112 คน และยังมีอยู่ในคิวรออีกมาก เผอิญไม่ได้ไปคุยตอนหลังว่าตกลงคนที่มาจริงๆ มีเท่าไร

บรรยากาศหน้างาน

แจกแก้วคนละใบ (ถ้าอยู่ Leeds ด้วยคงขนมาหลายใบ เผอิญต้องเดินทางไกลเลยขอใบเดียวพอ)

โลโก้งานดัดแปลงโลโก้ของ BarCamp มาใส่รูปกุหลาบ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Leeds

ตารางเวลา

ที่สุดของความเจ๋งคือมีคนแปลภาษามือให้ด้วย (มีผู้พิการทางการรับฟังมาร่วมงาน 2 คน)

เมื่อผู้จัดงานประกาศข้อมูลทั่วๆ ไปจบ ก็ได้เวลาเริ่มงาน

จากนั้นเป็นหน้าที่ของผู้มาร่วมงาน ที่จะมาออกแบบตารางเวลากันด้วย Post-it

ห้องสัมมนามีทั้งหมด 3 ห้องหลัก แบ่งสล็อตเวลาเป็น 9 ช่วง บวกกับห้องเสริมอีก 4 ช่วงรวมเป็น 31 สล็อต เต็มภายใน 5 นาที (พูดได้คนละ 20 นาที พัก 10 นาทีก่อนเริ่มช่วงต่อไป)

ขอยกมาเฉพาะช่วงที่เข้าฟัง และคิดว่าน่าสนใจนะครับ สาวคนนี้มาพูดเรื่อง Subversion

ผมก็พูดกับเค้าด้วย เรื่อง Drupal โดยขุดสไลด์เก่าตอนงาน FOSS ไปใช้ (คนฟัง 15 คน ดีใจแทบน้ำตาไหล ตอนแรกคิดว่าจะไม่มี)

มีอาจารย์จาก Leeds Metropolitan ซึ่งเคยลงแข่ง DARPA Challenge (ข่าวเก่า) ปี 2004 ด้วย เค้าเอาภาพของปีนี้มาให้ดู

มีคนจาก Rockstar Leeds มาพูดถึงเกมใหม่บน Wii แต่ผมไม่ได้ฟัง session นี้ (ผู้หญิงเสื้อสีฟ้าในภาพกับผู้ชายหัวโล้น) เค้าบอกว่าถามได้ทุกอย่างยกเว้น GTA IV กับ Manhunt

ทีมนี้ทำ GTA เวอร์ชัน PSP เค้าบอกว่าหลักๆ เป็น C++ แต่ว่าก็มี Python กับ Lua ประกอบ

Tom Scott หนึ่งในผู้จัดงาน (เสื้อแดงในภาพ) มาสอนสร้างเกมการ์ด (แบบ Magic the Gathering) ที่สามารถเล่นได้จริงภายในครึ่งชั่วโมง โดยให้ทุกคนในห้องมีส่วนร่วมในการออกแบบการ์ด

อันนี้เรื่อง Mind Over Matter ไม่ค่อยได้ตั้งใจฟัง (เพราะสมาธิเริ่มหลุด) ​แต่สไลด์ภาพนี้สวยดีเลยยกมาให้ดู (เป็นหัวของ Homer เผื่อใครดูไม่ออก)

session ที่น่าสนใจที่สุดคือ บริษัท Adaptavist ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับ Wiki ในองค์กร มาเล่าชีวิตการ startup ของตัวเองให้ฟังว่าทำอย่างไรบ้าง ผมถ่ายสไลด์มาเกือบทุกแผ่น ดูได้จาก slideshow

เล่าแบบสั้นๆ คือเบื่องานเลยลาออกมาเปิดเอง ระหว่างที่ยังไม่รู้จะทำอะไรแถมขี้เกียจทำเว็บบริษัทเลยใช้ wiki แต่ว่า wiki มันไม่สวยเลยเขียนปลั๊กอินธีมมาประกอบ ซึ่งสุดท้ายกลับกลายเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท จากนั้นก็ขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องมาเรื่อยๆ เช่น โฮสติ้ง ฯลฯ

เค้าบอกว่าหลักสำคัญคือต้อง "adaptive" เหมือนชื่อบริษัท คือคุยกับลูกค้าเยอะๆ เค้าอยากได้อะไรก็ไปทำอันนั้น ต้องปรับตัวเก่งๆ เร็วๆ แล้วจะดีเอง (รายชื่อลูกค้าบิ๊กเนมมาก ดูได้ในสไลด์)

เสร็จหมดทุก session แล้วก็ถึงเวลาขอบคุณทีมงาน หน้าตาแต่ละคนดูได้ในรูป

จากนั้นจับรางวัล iPhone 2 เครื่อง และ iPod nano 1 เครื่อง ด้วยวิธีที่โดนใจมาก

คนดูลุ้นตัวโก่ง (ผมนี่โคตรลุ้น) แต่สุดท้ายก็อด T_T

ตามแผนเค้าจะเลี้ยงข้าวเย็นด้วย แต่มีปัญหากับคนส่งอาหารเลยเปลี่ยนไปเลี้ยงในผับแทน (ผมไม่ได้ไปด้วยเพราะถึงเวลาต้องขึ้นรถไฟกลับ) ระหว่างรอก็เล่น Rockstar Table Tennis บน Wii โดยคนของ Rockstar Leeds เป็นคนเล่นนำ (เท่มาก)

สรุปสั้นๆ ว่าถ้าใครเคยไปงานเพชะคุชะ หรือ YouFest ครั้งก่อนๆ บรรยากาศของ BarCamp ก็ไม่ต่างกันมากนัก เผอิญว่างานรอบนี้ไม่มีค้างคืน เลยไม่รู้ว่าบรรยากาศตอนกลางคืน (ซึ่งวงสนทนาช่วงมันๆ มักจะมาตอนดึกๆ) เป็นอย่างไร อันนี้ใครเคยไป CodeFest ที่เนคเทคจัดมาแล้วสามสี่ครั้งก็คงคุ้นเคย

BarCamp Bangkok 2008

ผมขอถือโอกาสนี้ประชาสัมพันธ์งาน BarCamp Bangkok (ซึ่งคาดว่าจะจัดได้ในช่วงต้นปีหน้า) โดยแม่งานคือคุณ​ sugree และคุณ keng.ws

รายละเอียดตอนนี้ยังไม่มีอะไรนอกจาก "อยากจัด" ที่เหลือก็ต้องหวังพึ่งคนที่ "อยากมา" ช่วยกันคนละไม้ละมือ

ผมลองนึกความช่วยเหลือที่ต้องการได้ประมาณนี้

  • สถานที่ - ควรมีลักษณะเป็นห้องเรียนหลายๆ ห้องในบริเวณเดียวกัน (เพื่อไม่รบกวนกัน และมีอุปกรณ์สำคัญๆ อย่างโปรเจคเตอร์ให้ในตัว) ถ้ามีอาจารย์จากคณะ/ภาควิชาไหนสนใจ ก็ติดต่อมาได้เลย
    ** (อาจต้อง) ค้างคืนได้ มีห้องน้ำเพียงพอ
  • อุปกรณ์อื่นๆ - โปรเจคเตอร์อาจต้องรบกวนหอบหิ้วกันมา, กล้องวิดีโอพร้อมคนถ่ายเพื่อบันทึกรายละเอียดทุก session ให้มากที่สุด
  • ข้าวปลาอาหาร - ผมมา BarCamp Leeds กินอยู่หรูหรา ตอนเที่ยงพี่แกเลี้ยงพิซซ่า ส่วนกาแฟขนมน้ำอัดลมมีให้กินไม่อั้นทั้งวัน สำหรับ BarCamp Bangkok ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะกินอะไร ขอแค่มีสปอนเซอร์ใจบุญ เดี๋ยวทีมงานเนรมิตที่เหลือให้เอง
  • โลโก้ - ใครเป็นมือกราฟิกลองออกแบบมาประกวดกันดู อันปัจจุบันคงใช้ไม่ได้เดี๋ยวตำรวจจับ (ฮา)
  • ของท่ีระลึก - อันนี้ขึ้นกับสปอนเซอร์อีกเช่นกัน
  • สต๊าฟ - ใครสนใจก็ติดต่อคุณ keng/sugree ได้เลย
  • สปอนเซอร์ - งานแบบนี้จะไม่มีทางเกิดได้ถ้าขาดสปอนเซอร์ (ดูของ BarCampLeeds - เลื่อนลงไปล่างๆ) เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา ผมขอประกาศตรงนี้ว่า Blognone ยินดีเป็นสปอนเซอร์รายแรกประเดิมให้ BarCamp Bangkok
  • ผู้ร่วมงาน - อันนี้สำคัญที่สุด ผมดูของฝรั่งแล้วสล็อตเต็มเร็วมาก แต่ยังลังเลว่าถ้าจัดเมืองไทยจะอายๆ ไม่กล้าพูดกันหรือเปล่า unconference แบบนี้ไม่ต้องซีเรียสครับ มาพูดกันเยอะๆ สนุกๆ ขนาดผมสำเนียงแย่ๆ ยังหน้าด้านไปพูดให้ฝรั่งฟังเลย (แถมตอนมันถามก็ฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องอีกตะหาก)

ปิดท้ายบทความด้วย FAQ สองข้อ

ทำไมถึงควรมา BarCamp Bangkok

เหตุผลเดียวกับของ Foo Camp นั่นก็คือมัน "สนุก" เราเชื่อว่าถ้าเอาคนที่น่าสนใจมารวมกัน มันต้องมีอะไรสนุกๆ เกิดขึ้นแน่ และถ้าคุณตั้งใจจะมางานนี้ นั่นแปลว่าคุณคือคนที่น่าสนใจ

ทำไมถึงควรพรีเซนต์ใน BarCamp Bangkok

การที่จะคุยกันมันๆ ก็ต้องรู้จักกันพอสมควรก่อน ในกรณีของ BarCamp ที่ต่างคนต่างมา ก็ย่อมมีโอกาสสูงมากที่จะนั่งมองหน้ากันไปมาแต่สุดท้ายก็เพิกเฉยเพราะไม่กล้าหรือไม่รู้จะคุยอะไร การมาพรีเซนต์หน้าห้องเปรียบเสมือนการแนะนำตัวเองว่าทำอะไรอยู่ สนใจเรื่องอะไรเป็นพิเศษ เป็นการเพิ่มโอกาสความสนุกของตัวเองในระหว่างที่ BarCamp กำลังดำเนินไป

ตัวอย่างไอเดียเบื้องต้นในการเลือกหัวข้อนำเสนอ (ใครอยากเสนออะไรนอกเหนือจากนี้ก็ไม่มีปัญหาครับ เป็นแค่ตัวอย่างให้พอเห็นภาพเฉยๆ)

  • ถ้าเป็นนิสิตนักศึกษาปี 4 ก็เอาโปรเจคต์จบมาพูดเลยครับ ง่ายดี
  • หรือถ้าจบมาแล้ว โปรเจคต์เดิมนั่นแหละไม่ล้าสมัย
  • เทคนิคการเขียนโปรแกรม ภาษาโปรแกรมมิ่ง เฟรมเวิร์คใหม่ๆ
  • สอนการใช้งานโปรแกรม อะไรก็ได้ที่คิดว่าคนฟังน่าจะสนใจ เช่น อาจสอนการใช้โปรแกรมแต่งภาพออนไลน์แทนที่จะเป็น Photoshop แบบที่ใครๆ ก็ทำเป็นกันทั้งบ้านทั้งเมือง สอนใช้ Facebook, Twitter, Android ฯลฯ
  • ถ้าทำงานในบริษัทซอฟต์แวร์ และผลงานที่ทำอยู่ไม่เป็นความลับ เอาอันนั้นมาโชว์เลย
  • หรือถ้าไม่ได้ ลองเล่าประสบการณ์การพัฒนาซอฟต์แวร์ การทำงานเป็นทีม การใช้เครื่องมือต่างๆ
  • ยิ่งถ้าเป็นเจ้าของบริษัท (ไม่ว่าเล็กใหญ่) มาเองยิ่งเยี่ยม หัวข้อ "ตั้งบริษัทอย่างไร" นี่ติดอันดับยอดนิยมตลอดกาล

ที่เหลือก็คุยกันใน wiki หรือ mailing list ของ BarCamp Bangkok กันได้เลย

Blognone Jobs Premium