ลองเล่น Vertu Aster สมาร์ทโฟนตลาดหรู ราคาปานกลาง

by nrad6949
5 December 2014 - 16:19

หลังจากที่ Vertu ประกาศเปิดตัว Aster สมาร์ทโฟนราคาปานกลางสำหรับตลาดหรู (วางตลาดคนละแบบกับ Signature Touch) ไปเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในที่สุด Aster ก็เดินทางมาถึงประเทศไทยอย่างเป็นทางการ และเริ่มวางจำหน่ายแล้วด้วยค่าตัวเริ่มต้นที่ 260,000 บาท

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา สเปคอ่านเอาได้จากข่าวเก่า เราลองมาดูเครื่องกันครับ

Vertu Aster เป็นสมาร์ทโฟนตัวล่าสุดของทางค่าย Vertu ที่ออกแบบมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตลาดหรูที่ผู้ซื้ออยู่ในระดับกลาง หากกล่าวให้ชัดเจนขึ้นคือ ภาพที่ปรากฏอยู่ในโฆษณาของ Aster เป็นส่วนใหญ่นั้นจะเป็นคนหนุ่มสาว ขณะที่ภาพของ Signature Touch มักจะค่อนออกไปทางผู้บริหารมากกว่า

สำหรับตัวเครื่อง Aster นั้นใช้การออกแบบที่แตกต่างจาก Signature Touch โดยชัดเจน กล่าวคือมีการลดวัสดุอย่างไททาเนียมลงไป และรวมถึงการลดลายเส้นต่างๆรอบเครื่อง ทำให้ตัวเครื่องดูเรียบๆ แต่ยังคงแฝงไว้ซึ่งความหรูอย่างเต็มที่ ส่วนหน้าจอยังคงมีขนาด 4.7 นิ้ว ที่ความละเอียด 1080p เหมือนกับ Signature Touch ทุกประการ

ด้านหลังของตัวเครื่อง ซึ่งผมได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ประจำร้านว่า ใช้หนังที่ผลิตกระเป๋าจากอิตาลี ซึ่งจะแตกต่างกับตัว Signature Touch ตรงที่ตัวของ Signature Touch ใช้หนังจากอเมริกาที่นิยมใช้หุ้มเบาะรถสปอร์ต เช่น Aston Martin

แน่นอนว่าช่องใส่ซิมการ์ดยังคงเหมือนเดิม คืออยู่ตำแหน่งด้านล่างของกล้อง เพียงแต่ว่าในครั้งนี้ตัวของ Aster ใช้วิธีการสไลด์จากซ้ายไปขวาเพื่อเปิดฝาแทน ภายในใช้ซิมขนาด Micro SIM ทั้งนี้ Aster จะไม่สามารถเพิ่ม microSD ได้ โดยทางพนักงานระบุว่า ความจำภายในที่ให้มา (64 GB) เพียงพอกับการใช้งานตามปกติของลูกค้าอยู่แล้ว

ด้านข้างขวาของเครื่อง มีปุ่มเปิดปิด และปุ่มทับทิมเรียกใช้บริการเลขาส่วนตัว (Vertu Concierge) ซึ่งตามข้อมูลที่ได้รับมาจะได้รับฟรีเป็นเวลาครึ่งปี (แต่พนักงานแจ้งว่าฟรี 1 ปีเต็ม คงต้องตรวจสอบกันอีกทีสำหรับคนที่คิดจะซื้อนะครับ)

ด้านซ้ายของเครื่อง มีปุ่มปรับเสียงของเครื่องและช่องใส่หูฟัง

เปรียบเทียบด้านหน้าระหว่างมือถือหรูต่างๆ (ซ้ายไปขวา: Porsche Design P'9982, Vertu Signature Touch, Vertu Aster)

เปรียบเทียบด้านหลังของแต่ละเครื่อง (ซ้ายไปขวา: Porsche Design P'9982, Vertu Aster, Vertu Signature Touch)

เท่าที่ทดลองใช้งาน สิ่งที่ผมพบแรกๆ คือสัมผัสที่หรูน้อยกว่า Signature Touch (ค่อนไปทาง Porsche Design P'9982) แต่ยังคงสไตล์เดิมๆ เอาไว้ได้ ส่วนขนาดก็ใหญ่พอๆ กัน สำหรับ Aster และ Signature Touch โดยสิ่งที่เห็นแตกต่างกันอย่างชัดเจน คือเรื่องของดีไซน์และวัสดุเป็นหลัก นอกจากนั้นคือเรื่องของเสียง ซึ่งตัว Signature Touch ให้เสียงที่นุ่ม กังวาน และมีความลึกมากกว่าตัว Aster อยู่พอสมควร (แต่ถ้าเป็นคนไม่สังเกตก็จะไม่รู้สึกมาก) แน่นอนว่ายังคงให้ทาง Bang & Olufsen มาปรับแต่งลำโพง และใช้ Dolby Surround ในฝั่งซอฟต์แวร์เข้าช่วย

สิ่งที่ชวนให้ดีใจอย่างมากสำหรับ Aster คือเรื่องของซอฟต์แวร์ ในครั้งที่รีวิว Signature Touch ผมกล่าวว่าซอฟต์แวร์ที่มากับเครื่องยังมีจุดที่ยังทำงานได้ไม่เข้าที่ กล่าวคือมีบางจุดที่ยังช้าไปบ้าง มาถึงวันนี้ Aster ได้แก้ปัญหาเหล่านั้นไปหมดสิ้นแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดี (อย่างน้อยที่สุดซื้อของระดับนี้กันแล้วก็ไม่มีทิ้งง่ายๆ)

แน่นอนว่าในส่วนของซอฟต์แวร์ ทาง Vertu ใช้แนวทางแบบเดียวกับ Motorola กล่าวคือมีการปรับแต่งที่น้อยมากๆ (เปลี่ยนเฉพาะไอคอนและใส่บริการรวมถึงซอฟต์แวร์บางอย่างของตัวเองเข้าไป) ทำให้เครื่องทำงานเสถียรและนิ่งมากครับ

เรื่องของกล้อง เป็นจุดต่างอีกอันที่สำคัญสำหรับ Aster โดยทางพนักงานระบุว่า กล้องรุ่นนี้ใช้เซนเซอร์ที่ทาง Vertu ได้รับการรับรองจาก Hasselblad แบบใน Signature Touch ที่ความละเอียด 13 เมกะพิกเซล ซึ่งผมมีโอกาสถ่ายรูปภายในร้านมาสองรูป ซึ่งถือว่าภาพที่ออกมาก็ใช้ได้ดีทีเดียว โทนสีไม่ติดฟ้าแบบ Signature Touch แต่อย่างใดครับ อนึ่ง เรื่องของการกดปุ่มถ่ายรูปนั้นดีขึ้นกว่าเดิม กล่าวคือ เร็วกว่า Signature Touch แต่ก็ยังไม่เร็วมากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนอื่นๆ ในท้องตลาด ที่มีจำหน่ายในเวลานี้

โดยภาพรวม Vertu Aster ถือเป็นการปรับปรุงที่ดีขึ้นจาก Signature Touch ทั้งในแง่ประสิทธิภาพ รวมไปถึงกล้อง โดยแลกมากับราคาที่ถูกกว่า Signature Touch อยู่มากโข และวัสดุที่ไม่หรูหราเท่ากับตัว Signature Touch แต่โดยคุณสมบัติหลักๆ เกือบทั้งหมด ก็ยังอยู่อย่างครบถ้วน

อย่างไรก็ตาม Vertu Aster ไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่จะเอาไว้ตอบโจทย์คนทั่วไปอย่างแน่นอน เพราะสถานะของ Aster นั้น ใกล้เคียงกับความเป็นเครื่องประดับอย่างยิ่ง ดังนั้นแล้วก็ย่อมเหมาะกับคนที่มีฐานะและมองเห็นสมาร์ทโฟนว่าเป็นเครื่องมือในการแสดงสถานะมากกว่าอย่างแน่นอน

Vertu Aster มีวางจำหน่ายหลากสีและหลายรูปแบบ ใครที่สนใจสามารถไปติดต่อสอบถามกับทางร้าน Vertu ได้โดยตรงครับ

Blognone Jobs Premium