จากข่าวการ "สอดส่อง" ข้อความใน LINE มีข้อสงสัยว่าทำได้อย่างไร ตอนนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมคือทางกระทรวงไอซีทีอาศัยข้อความและประวัติการแชตจากที่มีผู้นำมาแจ้งความ โดยไม่ได้เข้าไปดูห้องแชตที่พูดคุยกันส่วนตัวแต่อย่างใด
โดยทางรัฐมนตรีระบุว่าที่เตือนนั้นเป็นการเตือนว่าการส่งต่อข้อความก็ถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
นอกจากนี้ยังมีประเด็นการตามตัวผู้กระทำความผิด โดยสำหรับ LINE จะใช้การอ่านประวัติการสนทนาย้อนขึ้นไป เพื่อตามว่าผู้ส่งข้อความเป็นใคร ขณะที่การติดตามผ่านเว็บไซต์และเฟซบุ๊ก จะใช้การตามหมายเลขไอพีและฐานข้อมูล ที่ตามตัวได้ง่ายกว่า
ผมคาดว่าการอ้างถึงเฟซบุ๊กน่าจะหมายถึงการเก็บฐานข้อมูลจากชื่อ นามสกุล ในเฟซบุ๊กเองมากกว่าจะเป็นหมายเลขไอพีที่ทางเฟซบุ๊กยังไม่เคยรายงานว่าเปิดเผยให้รัฐบาลไทยแม้จะมีการขอข้อมูลตลอดหลายปีที่ผ่านมา และตัวเฟซบุ๊กเองก็เข้ารหัสแทบทั้งหมดการดักฟังก็น่าจะเป็นไปได้ยากเช่นเดียวกับ LINE
ที่มา - ประชาชาติธุรกิจ