ระวัง! แค่มีภาพถ่ายที่เห็นนิ้ว แฮคเกอร์ก็ปลอมลายนิ้วมือได้แล้ว

by ตะโร่งโต้ง
29 December 2014 - 21:23

Chaos Computer Club หรือที่บางคนเรียกด้วยชื่อย่อว่า CCC คือสมาพันธ์แฮคเกอร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ได้จัดงานสัมมนา "31c3" ซึ่งว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยของระบบไอทีขึ้นใน Hamburg ประเทศเยอรมนี และในงานดังกล่าวมีการบรรยายว่าด้วยเรื่องการปลอมลายนิ้วมือโดยอาศัยข้อมูลที่ได้จากภาพถ่ายเท่านั้น

ที่ผ่านมาเราเคยเห็นข่าวการสาธิตวิธีการปลอมลายนิ้วมือโดยการสร้างลายนิ้วมือเทียม (ตัวอย่างเช่น การปลอมลายนิ้วมือเพื่อหลอก Touch ID ของ iPhone 6) ซึ่งกระบวนการดังกล่าวต้องใช้ลายนิ้วมือแฝงที่เหยื่อทิ้งหลงเหลือไว้บนพื้นผิวของวัตถุบางอย่าง จากนั้นผู้ปลอมลายนิ้วมือต้องทำการ "ยก" ลายนิ้วมือนั้นเพื่อใช้เป็นภาพตั้งต้นสำหรับการขึ้นรูปชิ้นงานลายนิ้วมือเทียม และด้วยเงื่อนไขที่ว่ามานั่นหมายความว่าหากเราไม่ทิ้งลายนิ้วมือแบบชัดเจนไว้ให้ผู้ไม่หวังดีเก็บรอยเอาไปได้โดยง่ายก็ย่อมวางใจได้ในระดับหนึ่งว่าจะไม่กลายเป็นเหยื่อของการปลอมลายนิ้วมือ

อย่างไรก็ตาม แฮคเกอร์นาม Starbug (ชื่อจริงคือ Jan Krissler) ได้บรรยายในงานสัมมนานี้เพื่ออธิบายว่าเขาสามารถทลายข้อจำกัดในการปลอมลายนิ้วมือได้โดยไม่ต้องเข้าถึงตัวหรือวัตถุที่เหยื่อสัมผัสโดยตรง โดย Starbug ได้สร้างลายนิ้วมือเทียมของ Ursula von der Leyen รัฐมนตรีความมั่นคงของเยอรมนี โดยอาศัยเพียงภาพถ่ายของเธอที่ปรากฏในข่าวเท่านั้น

Starbug ระบุว่าเขาใช้ภาพถ่ายระยะใกล้ของ von der Leyen ที่ถ่ายภาพติดมือของเธอมาด้วย โดยเลือกใช้ภาพจากหลายมุมมาใช้งานร่วมกัน และอาศัยซอฟต์แวร์ชื่อ VeriFinger เป็นเครื่องมือในการดึงเอาลายนิ้วมือของ von der Leyen จากในภาพมาใช้งานเป็นต้นแบบในการสร้างลายนิ้วมือเทียม

Starbug เชื่อว่าในอนาคตนักการเมืองและบุคคลสำคัญจะใส่ใจเรื่องการใส่ถุงมือขณะปรากฏตัวในที่สาธารณะมากยิ่งขึ้น เพราะด้วยเทคนิคที่เขาได้ทดลองทำและนำเสนอนั้น ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าหากพวกเขาปล่อยให้มีภาพลายนิ้วมือปรากฏอยู่บนอินเทอร์เน็ต เขาเหล่านั้นก็อาจถูกปลอมลายนิ้วมือโดยแฮคเกอร์จากที่ใดก็ได้ทั่วทุกมุมโลก

ใครฟังภาษาเยอรมันออก ก็สามารถชมคลิปการบรรยายเรื่องนี้ของ Starbug นานเกือบ 1 ชั่วโมงได้ท้ายข่าว (ภาพถ่ายที่ Starbug ใช้เพื่อดึงข้อมูลลายนิ้วมือของ von der Leyen ปรากฏในช่วง 28:45 แถมด้วยคลิปประกอบการทำลายนิ้วมือเทียมด้วยกาวติดไม้เพื่อหลอก Touch ID ในช่วง 32:03)

ที่มา - VentureBeat

Blognone Jobs Premium