หลังจากจัดงานเปิดตัวกับบรรดาสื่อมวลชนและบล็อกเกอร์ไปได้ไม่นานสำหรับ Galaxy A5 สมาร์ทโฟนตลาดกลางที่สานต่อความหรูจาก Galaxy Alpha และเปิดเผยราคาออกมาแล้วอยู่ที่ 12,900 บาท ทาง Samsung ประเทศไทยก็ได้ส่งเครื่องมาให้ทาง Blognone ได้ลองใช้กันครับ
เนื่องจากมีลองจับอยู่แล้ว เลยอาจจะขอข้ามในบางจุดไป ถ้าพร้อมแล้วรีวิวอยู่ด้านในครับ
คำเตือน: ภาพเยอะมาก
Galaxy A5 (จากนี้จะเรียกสั้นๆ ว่า A5) ยังคงแนวทางการออกแบบจาก Galaxy Alpha ทุกประการ กล่าวคือใช้วัสดุเป็นโลหะน้ำหนักเบาเป็นแกนกลางของเครื่อง สร้างความแข็งแรงและทนทานให้กับเครื่อง แม้ Samsung จะบอกว่าตัวเครื่องสร้างขึ้นแบบ unibody แต่ความรู้สึกที่สัมผัสได้ด้านหลังกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น อาจด้วยเพราะพลาสติกที่ถูกฉีดทับลงไปเป็นฝาหลังนั่นเอง เนื้อพลาสติกที่ฝาหลังให้ความรู้สึกเหมือนจับกระดาษมันหนาๆ ที่ใส่ตามปกรายงาน มากกว่าจะเป็นพลาสติกธรรมดาทั่วไป
รอบๆ ตัวเครื่อง ก็คล้ายๆ กับ Galaxy รุ่นอื่นๆ ไม่มีอะไรพิเศษหรือแปลกไปจากเดิม
ที่น่าสนใจคือเรื่องของการใส่ซิม ในบางรุ่นที่เป็นสองซิม (รุ่นที่ได้มาทดสอบเป็นซิมเดียว) ผู้ใช้สามารถใส่ซิมอันที่สองลงไปในช่องของ microSD ได้เลยโดยตรง ทำให้สะดวกขึ้นมา แต่ในทางกลับกันถ้าต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น ก็จำเป็นต้องใช้แบบซิมเดียวอยู่ดี
โดยภาพรวมถือว่าตัวเครื่องทำได้ออกมาอย่างดีมากและน่าสนใจสำหรับโทรศัพท์ในย่านราคาหมื่นต้นไปแตะจนหลักหมื่นกลาง และแน่นอนว่าให้ความรู้สึกที่หรูและดีกว่าในตลาดเดียวกัน อย่างไรก็ดีแม้จะสานต่อความหรูจาก Galaxy Alpha แต่ถ้าให้เทียบกับความหรู "ของจริง" แล้ว ก็ยังรู้สึกถึงความ "ห่างชั้น" พอสมควร กล่าวคือ น้ำหนักยังถือว่าเบามากจนโหวงไป ซึ่งถ้าทำน้ำหนักได้ดีกว่านี้ ก็จะทำให้รู้สึกถึงความหรูที่มากขึ้น
หมดเรื่องตัวเครื่องแล้วก็ไปกันที่ตัวซอฟต์แวร์ครับ
A5 มาพร้อมกับ Android 4.4.4 ที่ครอบทับด้วย Touchwiz UI ที่น่าจะคุ้นเคยกันดี มีซอฟต์แวร์และคุณสมบัติบางอย่างเหมือน Galaxy S5 ติดมาอยู่ในนี้ด้วย เช่น Private Mode หรือ Ultra power saving mode และคุณสมบัติอย่างเช่น การเปลี่ยน theme ของเครื่อง เป็นต้น
สิ่งที่ยังคงเป็นเรื่องที่ชวนรำคาญใจอยู่บ้าง คงจะเป็นตรงที่ว่า Samsung ยังคงไม่ตัดเว็บเบราว์เซอร์ของตัวเองออกไป (คือตัวที่มาพร้อมกับระบบ) และเลือกจะแถม Google Chrome มาให้ ซึ่งในจุดนี้ทำให้มีเว็บเบราว์เซอร์ถึงสองตัวในเครื่องเดียว ถ้าเป็นผู้ใช้รายใหม่ก็อาจจะรู้สึกสับสนได้
ในการใช้งานจริง ผมพบว่าหน้าจอของ A5 ค่อนข้างสู้แดดได้ดี อย่างไรก็ตามความ "ไว" ต่อการประมวลผลในระดับแสงที่แตกต่างกัน ยังถือว่าค่อนข้างช้าและรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรมชาติอยู่ กล่าวคือสมมติว่าผมเปิดอ่านเว็บไซต์ในบ้านที่แสงน้อย เมื่อเดินออกไปด้านนอกแล้วเอาเครื่องไป กว่าหน้าจอจะปรับระดับแสดงได้ ก็กินเวลาไปหลายวินาทีอยู่ และการปรับจะไม่ใช่ค่อยๆ เร่งขึ้นหรือปรับอ่อนลง แต่จะปรับตามระดับทันทีทันใด และถ้าเอาไปใช้ในที่โล่งแจ้ง หน้าจอก็จะเร่งภาพขึ้นไปอีกแบบ ซึ่งผมค่อนข้างไวกับเรื่องหน้าจอ และทำให้รู้สึกว่าประสบการณ์การมองจอบน A5 อาจจะไม่ดีนักเมื่อเทียบกับคู่แข่ง
ประสิทธิภาพของ A5 ถือว่าอยู่กลางๆ ครับ ทำงานตอบสนองทั่วไปได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามในการทดสอบ Antutu Benchmark คะแนนที่ออกมายังถือว่าต่ำกว่า Zenfone 5 ครับ
เรื่องของเสียง A5 ถือว่าทำออกมาได้อย่างแปลกๆ กล่าวคือถ้าเป็นเสียงแบบโมโน (อย่างเช่น เล่นริงโทนแบบโบราณ หรือเสียงกดปุ่มต่างๆ บนหน้าจอ) เสียงของลำโพงที่มาพร้อมกับตัวเครื่องจะถือว่าดังมาก แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่มีการเล่นเพลงหรือเล่นริงโทนที่เป็นเพลงแบบสเตอริโอ เสียงจะเบาไปทันทีและรู้สึกว่ามีอะไรหายไปจากรายละเอียดค่อนข้างมาก นับว่าน่าผิดหวังไม่ใช่น้อย
แบตเตอรี่ที่ระบุมาบนสเปกคือ 2,300 mAh ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน ผมเอาไปทดลองใช้งานเล่นๆ ก็ยังสามารถอยู่ได้นานมากกว่าที่คิดไว้ค่อนข้างมาก (สำหรับคนเล่นอินเกรส: ถือว่าแบตอึดมากพอสมควร เกือบสี่ชั่วโมงเล่นต่อเนื่องยังเหลือประมาณ 30%) แต่มีอยู่ตอนหนึ่งที่ไปงานเลี้ยง แล้วปรากฏว่าแบตเตอรี่ทำท่าจะหมดกลางคัน ก็ต้องใช้ Ultra power saving mode ซึ่งทำให้เอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด (แต่พอกลับมาปิดโหมดนี้ แบตก็กลับมาใช้งานเหมือนเดิม)
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือเรื่องของความแม่นยำของ GPS ซึ่งผมลองเอาไปเปิดแผนที่แล้ว ก็รู้สึกได้ว่าตำแหน่งที่เครื่องแจ้งนั้นไม่ค่อยแม่นยำเท่าใด โดยเฉพาะตอนเรียก Uber และ GrabTaxi ทำให้ผมตัดสินใจลองเล่นอินเกรสบนเครื่อง A5 แล้วก็ต้องพบว่าความแม่นยำอยู่ในระดับที่ถือว่าค่อนไปทางต่ำ หลายครั้งที่ GPS จับสัญญาณได้ แล้วเดินไปไม่กี่ก้าวก็หลุดต้องรอจับใหม่ ซึ่งกินเวลานาน หรือไม่ก็แกว่งมากจนแทบจะเล่นไม่ได้เลย ประสบการณ์ผิดกันอย่างลิบลับเมื่อใช้โทรศัพท์อย่างเช่น Moto G ในการเล่น ในแง่นี้อาจจะพอบอกได้ว่าถ้าเอา A5 มานำทาง อาจจะ "ไม่ไหว" ครับ
ผมทดสอบทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ซึ่งพบว่าภาพออกมาถือว่าอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ สำหรับกล้องหลังมีเบลอหรือจัดสมดุลของแสงเพี้ยนไปพอสมควร บางภาพต้องถ่ายใหม่สองถึงสามครั้ง กว่าจะได้ภาพที่อยากได้ ส่วนกล้องหน้าแม้จะกว้างจริง แต่ถ้าถ่ายในที่แสงน้อยก็จะมี noise มากพอสมควรครับ แล้วใช้วิธีการชูมือขึ้นเพื่อถ่ายบางครั้งก็ทำงานได้บ้าง ไม่ได้บ้าง (ภาพที่เอามาลงมาจากกล้องหลังนะครับ)
ถ้าถามว่า Galaxy A5 น่าซื้อหรือไม่? คำตอบก็คงต้องกลับไปถามว่า ความต้องการคืออะไรกันแน่ ถ้าหากต้องการโทรศัพท์มือถือสักเครื่องที่ทำงานได้ดีในกลุ่มทั่วๆ ไป ให้ความรู้สึกที่หรูหรา ให้ภาพถ่ายที่ดี Galaxy A5 อาจจะเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างจะดูดีในเวลานี้
แม้ Samsung จะประสบความสำเร็จในการนำพาความหรูเข้ามาสู่ตลาดกลาง แต่ผมกลับคิดว่า Galaxy A5 ยังมีจุดที่สามารถปรับปรุงได้อีกจำนวนมากซึ่งคาดหวังว่าในรุ่นต่อไป Samsung จะพัฒนาอุดข้อด้อยที่มีอยู่ใน A5 โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นเรื่องของ GPS ที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้ อีกทั้งในสมรภูมินี้ก็มีคู่แข่งจำนวนหนึ่ง ที่ขายราคาใกล้ๆ กับ A5 แต่นำเสนอสเปกที่ดีกว่ามากๆ ด้วย ซึ่งถ้า Samsung วางตำแหน่งของ A5 ให้ดีพอ ก็น่าจะทำตลาดได้ไม่ยากนัก
ข้อดี
ข้อด้อย