รีวิว AdsOptimal เครือข่ายโฆษณาสำหรับเว็บมือถือ ผลงานบริษัทคนไทยในซิลิคอนวัลเลย์

AdsOptimal เป็นเครือข่ายโฆษณาออนไลน์ (ads network) แบบเดียวกับ AdSense ของกูเกิล แต่เน้นไปที่เว็บสำหรับอุปกรณ์พกพา (mobile web) ซึ่งทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในรอบสองสามปีมานี้

ปัจจุบัน AdsOptimal มีผู้ใช้งานประมาณ 50,000 เว็บ ความน่าสนใจอีกประการของ AdsOptimal คือเป็นบริษัทคนไทยในซิลิคอนวัลเลย์ แถมยังผ่านโครงการบ่มเพาะสตาร์ตอัพชื่อดัง Y Combinator และได้รับเงินลงทุนจาก Andreesen Horowitz อีกด้วย

บทสัมภาษณ์ผู้ก่อตั้ง เดี๋ยวแยกเป็นอีกตอนนะครับ ตอนนี้เป็นรีวิวตัวผลิตภัณฑ์อย่างเดียว

AdsOptimal แทบไม่ต่างอะไรจาก AdSense หรือเครือข่ายโฆษณาออนไลน์อื่นๆ คือทำตัวเป็นคนกลางคอยเชื่อมเว็บไซต์กับผู้ลงโฆษณาเข้าด้วยกัน

จุดแตกต่างที่สำคัญคือ AdsOptimal ออกแบบมาเพื่อเจ้าของเว็บไซต์ที่อยากสร้างรายได้จากการเข้าชมเว็บบนอุปกรณ์พกพา แต่ก็ยังต้องการรักษาประสบการณ์การใช้งานที่ดีสำหรับผู้ชมอยู่ การติดโฆษณาของ AdsOptimal จึงแสดงโฆษณาเมื่อดูบนมือถือ-แท็บเล็ตเป็นหลัก

วิดีโอตัวอย่างการใช้งาน AdsOptimal

ผมได้ลองทดสอบ AdsOptimal กับเว็บไซต์จริงมาประมาณ 1 เดือนแล้ว (ทดลองกับ wekorat.com ซึ่งเป็นอีกเว็บที่ผมทำอยู่) จึงพอมีประสบการณ์พอเล่าสู่กันฟังได้ว่า AdsOptimal เป็นอย่างไรบ้าง (แต่ก็ออกตัวว่าผมไม่เคยใช้ ads network ยี่ห้ออื่น เลยไม่สามารถเปรียบเทียบได้ตรงๆ นะครับ)

การสมัครบริการ

การสมัครใช้บริการ AdsOptimal ตรงไปตรงมาไม่มีอะไรซับซ้อน กรอกข้อมูลส่วนตัว พร้อมเว็บที่ต้องการใช้งาน จากนั้นรอทีมงานอนุมัติก็เริ่มใช้งานได้เลย กระบวนการอนุมัติรวดเร็ว ใช้เวลาไม่ถึงวัน ถือว่าเร็วกว่า AdSense ที่เดี๋ยวนี้สมัครทีต้องรอนานหลายวัน

รูปแบบของโฆษณา

โฆษณาของ AdsOptimal มีให้เลือกหลายขนาด โดยเจ้าของเว็บสามารถเลือกได้เองว่าจะเอาโฆษณาใหญ่ๆ รายได้เยอะๆ หรือเอาโฆษณาเล็กๆ ไม่บดบังสายตาผู้ชม

ภาพตัวอย่างโฆษณา 4 ขนาดที่ AdsOptimal แนะนำ จากซ้ายไปขวา

• Large แสดงโฆษณาขนาดใหญ่ไว้ตรงหัวของเว็บไซต์ เข้าเว็บมาเจอแน่นอน รูปใหญ่ดึงดูดใจ อัตราการคลิกย่อมเยอะตามไปด้วย เป็นโฆษณาแบบที่ทีมงานบอกว่าทำเงินเยอะที่สุด
• Small-Medium รูปแบบเหมือน Large แต่ขนาดเล็กลงมาพอสมควร ทำเงินเยอะเป็นอันดับสาม
• Display Ad Interstitial เป็นโฆษณาแบบ splash screen คือเปิดมาเต็มหน้าเว็บเลย สามารถตั้งเวลาให้แสดงผลชั่วขณะหนึ่งแล้วหายไปได้เอง ทำเงินมากเป็นอันดับสอง
• Sticky Bottom โฆษณาขนาดเล็กที่สุดอยู่ขอบล่างของเว็บไซต์ โดยจะแสดงแบบ float ลอยขึ้นมาด้านล่างเสมอ แต่ก็แสดงเฉพาะตอน scroll เลื่อนหน้าจอขึ้นเท่านั้น ทำเงินน้อยที่สุดในบรรดาโฆษณาทั้งหมด

การติดตั้ง

สำหรับคนที่ทำเว็บด้วย WordPress หรือ Joomla! สามารถติดตั้งปลั๊กอิน (WordPress, Joomla!) แล้วเริ่มใช้งานได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องแก้โค้ดสักบรรทัดเลย ส่วนคนที่ใช้ CMS ตัวอื่นๆ ก็สามารถใช้วิธีฝังโค้ดลงในแท็ก head ได้ตามมาตรฐานของวงการโฆษณา

ตัวอย่างโฆษณาที่แสดง

ผมเลือกโฆษณาแบบ Sticky Bottom ที่มีขนาดเล็กที่สุด แสดงผลออกมาดังภาพ

ทดสอบบน Firefox for Android

ทดสอบบน Safari for iPad

ในประเด็นเรื่องโฆษณาที่คัดมาแสดงอันนี้คงพูดยากเพราะขึ้นกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคน (รวมถึงการตามรอยผ่านคุกกี้และข้อมูลอื่นๆ ที่ใช้กันเป็นปกติในปัจจุบัน) แต่เท่าที่เจอคือ

• ไม่พบโฆษณาสายมืดใดๆ (AdsOptimal เป็นเครือข่ายโฆษณาสายสว่างครับ)
• มีโฆษณาที่เป็นภาษาไทยบ้าง โดย AdsOptimal ใช้วิธีแลกโฆษณากับเครือข่ายโฆษณาอื่นๆ ซึ่งรวมถึง AdSense ด้วย (เป็นธรรมเนียมปฏิบัติในวงการนี้อยู่แล้ว)

ในแง่ประสบการณ์ใช้งานเว็บไซต์คงไม่ต่างอะไรจากโฆษณาบนแอพมือถือจำนวนมาก ที่แสดงแบนเนอร์ขนาดเล็กๆ ไว้ขอบล่างของหน้าจอ ผู้ใช้ส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว

สถิติรายได้

จากการทดลองรันโฆษณาของ AdsOptimal มาเกือบเดือน สถิติเรื่องรายได้ออกมาดังนี้

หน้าแสดงสถิติของ AdsOptimal ยังไม่ค่อยละเอียดเท่าไรนัก แสดงเฉพาะยอดรายได้รวมต่อวัน แถมยังไม่สามารถ export ข้อมูลมาวิเคราะห์ต่อได้ (ตรงนี้สามารถปรับปรุงต่อได้อีก)

นับจากวันที่ 5 ธันวาคม 2014 จนถึงวันนี้ ผมมีรายได้จากสองเครือข่ายโฆษณาบนเว็บไซต์เดียวกัน ดังนี้

• AdsOptimal ราว 26.8 ดอลลาร์ จากการแสดงโฆษณาประมาณ 48,000 ครั้ง อัตรา Page RPM หรือรายได้เฉลี่ยต่อการแสดงโฆษณาหนึ่งพันครั้ง อยู่ที่ 0.56 ดอลลาร์
• AdSense ราว 34 ดอลลาร์ จากเพจวิวรวม 113,500 ครั้ง (เพราะ AdSense แสดงให้เห็นเยอะกว่าบนเบราว์เซอร์เดสก์ท็อป) อัตรา Page RPM อยู่ที่ 0.30 ดอลลาร์

โดยรวมก็ถือว่าอัตราผลตอบแทนของ AdsOptimal อยู่ในระดับที่น่าประทับใจครับ (ย้ำอีกครั้งว่าสถิติเหล่านี้ดึงจากเว็บไซต์แห่งเดียว มีเป้าหมายเก็บสถิติเพื่อนำมารีวิวเท่านั้น และไม่ได้เทียบกับเครือข่ายโฆษณารายอื่นๆ)

ระบบการจ่ายเงินของ AdsOptimal จะจ่ายขั้นต่ำที่ทุก 50 ดอลลาร์ มี 2 ช่องทางให้เลือกคือ PayPal และจ่ายเป็นเช็ค ตรงนี้ผมยังไม่เคยลอง (ยังเก็บเงินได้ไม่ถึงขั้น) คงไม่สามารถเล่าได้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

สรุป

จุดเด่นของ AdsOptimal คือติดตั้งง่าย ออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์พกพาโดยตรง แถมยังมีอัตราผลตอบแทนที่น่าดึงดูดใจ เว็บไซต์ที่อยากมีรายได้เพิ่มเป็นทางเลือกก็ไปสมัครใช้บริการกันได้

ส่วนประเด็นที่น่าสนใจกว่าคือที่มาที่ไปของทีม AdsOptimal ว่ามาเปิดบริษัทสตาร์ตอัพในสหรัฐอเมริกาได้อย่างไร (น่าจะเป็นบริษัทเดียวที่ก่อตั้งโดยคนไทย) รอติดตามกันได้ในตอนหน้า