เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Dell ประเทศไทย ได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในระดับภูมิภาค ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านั้นคือชุดที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2015 โดยเอามาจัดแสดงหลากหลาย รวมถึง Latitude 7250 ด้วย (ลองจับมาแล้ว) แต่อีกตัวหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงในงาน และอาจจะเป็นพระเอกของงานที่หลายคนรอ คือ XPS 13 (9343) ครับ
สำหรับ XPS 13 รุ่นนี้ ที่ต้องมีต่อท้ายว่า 9343 นั้นคือรหัสของรุ่นนี้ โดยในหน้าเว็บของ Dell เองค่อนข้างแยกกันชัดเจน (ตัวเก่ารหัส 9333) แต่เวลาโฆษณาปกติกลับใช้ชื่อเดียวกัน ดังนั้นเพื่อกันความสับสน เลยขออนุญาตวงเล็บรหัสรุ่นไว้ เพื่อไม่ให้สับสนกับรุ่นก่อนหน้าโดยอนุโลมนะครับ
สเปกของ XPS 13 (9343) นั้นมีหลากหลายมาก (อ่านเอาจากข่าวเก่า) แต่โดยรวมๆ คือยืนพื้นที่ Core i3 เป็นหลัก, แรม 4 GB, SSD ที่ความจุ 128 GB และหน้าจอที่ความละเอียด Full HD (1920x1080) อย่างไรก็ตาม ทาง Dell ประเทศไทยแจ้งว่า สำหรับประเทศไทยจะนำตัวที่มีสเปกสูงเกือบที่สุดเข้ามา ซึ่งก็แปลว่าจะใช้สเปกที่ Core i7, แรม 8 GB, หน้าจอสัมผัสแบบ QHD (เรื่อง SSD ผมไม่แน่ใจเพราะทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งครับ)
ผลที่ตามมาของการนำรุ่นสเปคสูงเข้ามา คือราคาที่สูงตามไปด้วย โดยอยู่ในช่วงระหว่าง 5-6 หมื่นบาท และมี 2 ตัวเลือก (configuration) ให้เลือก โดยเริ่มสั่งจองได้แล้วตั้งแต่บัดนี้ และของจะเข้ามาภายในเดือนกุมภาพันธ์ (ถือว่าเร็วมาก)
หน้าตาของเครื่องตอนแรกเห็นต้องถือว่าตามสมัยนิยม ตัวเครื่องทำจากโลหะอะลูมิเนียมครับ ไม่ได้พิเศษอะไรอื่นๆ
เปิดภายในออกมาสิ่งแรกที่หลายคนทักคงเป็นเรื่องของหน้าจอที่แทบจะไร้ขอบ (ตัวในภาพไม่ใช่จอสัมผัส) อย่างไรก็ดี ด้วยความที่ไร้ขอบก็ทำให้ต้องย้ายกล้องหน้า (ผมไม่แน่ใจว่ามีกี่คนใช้?) ลงไปอยู่ด้านล่างของจอ ส่วนตัวจอถือว่าสีสันสดใส ดีทีเดียว
ตัวเครื่องถือว่าไม่ได้เบาอย่างที่คิดไว้ ตัวเลขบนกระดาษทำให้คิดว่าจะต้องเบามากๆ แน่ๆ แต่พอเอาเข้าจริงกลับไม่รู้สึกอย่างนั้น (น่าจะพอๆ กับ Macbook Air 13 นิ้ว)
ส่วนของด้านในเครื่องใช้วัสดุเหมือนคาร์บอนไฟเบอร์แล้วพ่นยางทับ (นึกถึงฝาหลังของ Motorola หลายๆ รุ่น เช่น Droid Maxx, Droid RAZR M, RAZR) ทำให้รู้สึกหนึบๆ บนพื้นผิวดี ตัวแป้นพิมพ์ถือว่าให้ครบมาทุกแถว แต่พอผมลองพิมพ์จริงจังอยู่ประมาณหนึ่ง (ไม่ได้ลองนาน) ก็พบว่าตัวปุ่มของแป้นเวลากดลงไปค่อนข้างจมไม่ลึก อีกนัยหนึ่งคือค่อนข้างตื้น (โดยส่วนตัวไม่ชอบค่อนไปทางเกลียดแป้นที่ลงไปไม่สุด เพราะด้วยความที่มือหนัก) แต่ถือว่าด้วยความเป็นโน้ตบุ๊กขนาดบาง ทำได้เท่านี้ก็ "ดีมาก" แล้ว
อีกสิ่งที่ควรบันทึกไว้ตรงนี้คือ บริเวณทัชแพดทำงานได้ดีมากอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่เช่นเคย เนื่องจากเราลองกันสั้นๆ เท่านั้น ไม่ได้ลองใช้จริงจังครับ
ข้างขวามือของเครื่อง มีช่องใส่ SD Card, USB 3.0 และ Kensington Lock (สำหรับยึดหรือตรึงเครื่องไว้กับที่) มาให้ด้วย
ซ้ายมือเป็นช่องสำหรับเสียบไฟชาร์จ, Mini DisplayPort, USB 3.0, ช่องเสียบหูฟังและลำโพง และปุ่มกดที่ไว้สำหรับกดเพื่อเช็คปริมาณแบตเตอรี่ของเครื่อง (คุ้นๆ ไหมครับ?)
ด้านล่างของเครื่องก็โล่งๆ ไม่มีอะไร
เทียบกับ HP Folio 13 ถือว่า XPS 13 (9343) เล็กกว่าพอสมควร
เทียบกับ XPS 13 (9333) ครับ สังเกตได้ว่ารุ่นก่อนหน้าจะมีความโค้งเว้ามากกว่า
สรุป
จากการลองจับ (และลองเล่น) โดยส่วนตัวผมมองว่า Dell XPS 13 ถือว่าทำผลงานออกมาได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะเรื่องของการออกแบบ เมื่อเทียบกับเพื่อนร่วมค่าย (แต่ต่างสาย) อย่าง Latitude 7250 ถือว่าทำออกมาได้ดีในจุดนี้ รวมถึงแป้นพิมพ์ที่ใช้แบบมาตรฐาน ไม่มีการดัดแปลงอะไรจนพิสดารแบบหลายเจ้า
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสังเกตและอาจจะทำให้ผู้ใช้หลายคนต้องเปลี่ยนใจ มีอยู่สามจุดหลักๆ
ทั้งหมดนี้มาจากการลองจับเป็นระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น ย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าราคาไทยอยู่ที่ประมาณ 5-6 หมื่นบาท ส่วนราคาที่ต่างประเทศก็แตกต่างกันไปตามแต่ละที่และภูมิภาคครับ อนึ่ง Dell ประเทศไทยแจ้งว่า XPS 13 รุ่นที่จำหน่ายในไทย จะได้รับการรับประกันแบบถึงที่ (on-site service) นาน 3 ปีครับ