สรุปความจาก งานเสวนา NBTC Public Forum 1/2558 หัวข้อ "ทรัพยากรคลื่นความถี่และทิศทางการสื่อสารภายใต้ร่างกฎหมายเศรษฐกิจดิจิทัล" ในส่วนของการวิจารณ์ร่างกฎหมายชุดเศรษฐกิจดิจิทัล (ตอนที่ 1, ตอนที่ 2, ตอนที่ 3)
วิทยากรคนที่สามคือ อ.วรพจน์ วงศ์กิจรุ่งเรือง คณะทำงานติดตามนโยบายสื่อและโทรคมนาคม (NBTC Policy Watch) อภิปรายในหัวข้อ "อนาคตของการจัดสรรและใช้ทรัพยากรคลื่นความถี่ กับบทบาทหน้าที่ของ กสทช. ที่จะปรับเปลี่ยนไป"
การอภิปรายของ อ.วรพจน์ เน้นไปที่ร่าง พ.ร.บ.กสทช.ฉบับใหม่ เจาะเป็นรายมาตรา สรุปประเด็นได้ดังนี้
- ร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ดึงอำนาจการจัดสรรคลื่นความถี่จากองค์กรอิสระ (กสทช.) กลับไปยังหน่วยงานของรัฐ (คณะกรรมการดิจิทัลแห่งชาติ) ผ่านกลไกอย่างการทำแผนแม่บทการบริหารคลื่นความถี่ที่ต้องให้คณะกรรมการดิจิทัลแห่งชาติอนุมัติ, ปรับอำนาจหน้าที่บางอย่างของ กสทช. ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรร/กำกับดูแลความถี่ในกฎหมายฉบับใหม่
- คณะกรรมการดิจิทัลแห่งชาติ มีประธานกรรมการของ TOT/CAT เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง นั่นแปลว่า TOT/CAT อาจมีอิทธิพลต่อการกำหนดแผนบริหารคลื่นความถี่แห่งชาติของ กสทช.?
- ร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ เปลี่ยนจากการประมูลคลื่นความถี่ เป็นการ "คัดเลือก" แทน โดยพยายามสร้างมายาคติว่าประเทศอื่นๆ ก็ใช้วิธี "คัดเลือก" ซึ่งไม่เป็นความจริงเสมอไป
- ที่ผ่านมา แม้ว่า กสทช. ประมูลคลื่นไปสองครั้งแล้ว ถือเป็นการจัดสรรคลื่นที่โปร่งใสที่สุดแล้ว ยังโดนวิจารณ์มากมาย ถ้าเปลี่ยนมาใช้การคัดเลือกจะเป็นอย่างไร
- ร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ กำหนดให้ กสทช. ต้อง "จัดสรรคลื่นโทรทัศน์ให้พอเพียง" กับบริการสาธารณะของรัฐ เพราะเหตุใดจึงต้องเอื้อประโยชน์ให้รัฐมากเป็นพิเศษ ทั้งที่กฎหมายฉบับเดิมๆ ไม่มีเรื่องนี้
- ร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ตัดอำนาจเกี่ยวกับการประสานงานคลื่นความถี่ระหว่างประเทศ อาจแปลว่าตั้งใจดึงอำนาจส่วนนี้กลับไปที่กระทรวงไอซีที ซึ่งมีประเด็นเรื่องอำนาจการจัดสรรวงโคจรดาวเทียม
- การโยกกองทุน กสทช. ไปสังกัดกระทรวงดิจิทัล กลับโยกไปแต่กองทุน ในขณะที่ยังกำหนดอำนาจบางอย่างของ กสทช. ให้ผูกกับงบประมาณในกองทุนอยู่ เช่น กสทช. มีหน้าที่กำหนดการกระจายบริการโทรคมนาคมให้ทั่วถึง แต่เงินด้าน USO ไม่มีแล้วเพราะยุบกองทุนไป
- เดิมที กสทช. มีอำนาจตรวจสอบการใช้เงินกองทุน เช่น กระทรวงไอซีทีขอเงินไปทำเรื่อง Free Wi-Fi แต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายต้องคืนเงิน แต่ถ้ากองทุนไปอยู่กับกระทรวงดิจิทัลในอนาคต แล้วเกิดปัญหาแบบเดียวกัน ใครจะเป็นคนตรวจสอบ
สุดท้าย อ.วรพจน์ ลองสมมติสถานการณ์ในอนาคตที่ พ.ร.บ.กสทช. ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ เราอาจได้เห็น
- คลื่นความถี่หมดอายุแล้วกลับคืนไปยังหน่วยงานรัฐ (เช่น หน่วยงานความมั่นคงหรือรัฐวิสาหกิจ)
- กระบวนการคืนคลื่นความถี่ของหน่วยงานรัฐมาให้ กสทช. จัดสรรใหม่ ตามแผนที่เคยกำหนดไว้ 5-10-15 ปี อาจถูกยืดออกไปอีก
- กสทช. ในอนาคต เลือกจัดสรรคลื่นความถี่ด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่การประมูล ผลคือจัดสรรคลื่นอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และสูญเสียรายได้
- คณะกรรมการดิจิทัลแห่งชาติ อาจเข้ามาแทกรแซงการจัดสรรคลื่นความถี่ของ กสทช. เพราะมีอำนาจอนุมัติแผนแม่บทของ กสทช.