วิธีการป้องกันปัญหา "บัตรเครดิตถูกใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต" คือการเช็คต้นทางการรูดบัตรว่ามาจากสถานที่แปลกๆ ที่ผู้ใช้รายนั้นไม่เคยไป (เช่น บัตรเครดิตประเทศไทยที่ไม่เคยใช้งานนอกประเทศมาก่อน ถูกใช้ในยุโรปตะวันออกหรืออเมริกาใต้) อย่างไรก็ตาม วิธีการแบบนี้ก็ส่งผลกระทบในกรณีเจ้าของบัตรไปต่างประเทศ แล้วไม่สามารถรูดบัตรได้ เนื่องจากระบบไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นเจ้าของบัตรตัวจริงหรือไม่
ผู้ให้บริการบัตรเครดิตรายใหญ่อย่าง Visa จึงพยายามแก้ปัญหานี้ด้วย Visa Mobile Location Confirmation เทคโนโลยีการระบุพิกัดบนอุปกรณ์พกพา โดยใช้ฟีเจอร์ geo-location ช่วยให้ Visa รับทราบว่าเจ้าของบัตรอยู่ในพื้นที่ละแวกเดียวกับจุดที่จ่ายเงินด้วยบัตรหรือไม่ ถ้าหากพิกัดตรงกันก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นว่าเป็นเจ้าของบัตรตัวจริง
บริการตัวนี้ยังเปิดเป็นบริการเสริมผ่านแอพของธนาคารผู้ออกบัตร (ไม่ใช่แอพของ Visa เอง) หลักการทำงานคือแอพจะดึงพิกัดจากมือถือเพื่อนำมาเป็นข้อมูลช่วยระบบวิเคราะห์การโกงบัตร (predictive fraud analytics) ของ Visa ก่อนอนุมัติธุรกรรมนั้นๆ
นอกจากการใช้ข้อมูลพิกัดบนอุปกรณ์พกพาแล้ว Visa ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ช่วยยืนยันตัวตนของเจ้าของบัตร เช่น Visa Travel Authorization Tag ระบบที่ประเมินว่าเจ้าของบัตรอยู่ในประเทศไหน โดยอิงจากข้อมูลการรูดบัตรซื้อตั๋วเครื่องบิน-โรงแรม และ Travel Notification Service ระบบช่วยให้เจ้าของบัตรติดต่อธนาคารผู้ออกบัตรผ่านระบบออนไลน์ แทนที่จะต้องโทรศัพท์ไปแจ้ง เป็นต้น
ที่มา - Visa