เอเซอร์ประเทศไทยประกาศยกระดับบริการหลังการขายครั้งใหญ่ พร้อมทั้งบุกเข้าไปในตลาดการศึกษา และองค์กรภายใต้แนวคิด "Synergized Power of Digital" ที่นอกจากจะเพิ่มคุณภาพการให้บริการแล้ว ยังใช้ข้อมูลที่ได้จากลูกค้ามาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงเพิ่มเติมอีกด้วย
เริ่มต้นด้วยการเพิ่มศูนย์ให้บริการ ที่จะขยายไปมากกว่า 470 สาขา ซึ่งประกอบด้วยศูนย์หลักของเอเซอร์เอง ศูนย์บริการของพาร์ทเนอร์ ศูนย์ให้บริการโน้ตบุ๊ก และสมาร์ทโฟน รวมถึงจะมีศูนย์ให้บริการแบบ drop-in สำหรับส่งสินค้าเข้ารับบริการ
สำหรับสินค้าประเภทโน้ตบุ๊ก และสมาร์ทโฟนที่ยังอยู่ในประกัน เอเซอร์มีบริการ Fast Service ที่ช่วยเหลือลูกค้ามากกว่าแค่ซ่อมแซม โดยแบ่งประเภทดังนี้
ทางฝั่งลูกค้าองค์กร และการศึกษา จะมีทั้งการให้บริการแบบปกติ และให้บริการเสริมที่จะมีตั้งแต่การเข้าไปตรวจเช็คสภาพ การติดตั้ง และวางระบบ โดยบริการประเภทนี้จะเป็นแบบ On Site ที่เพิ่มการให้เครื่องสำรองเข้ามา
สำหรับในปีนี้ เอเซอร์จะใช้ข้อมูลจากการรับบริการมาปรับปรุงบริการเพิ่มเติม เช่นการวิเคราะห์การส่งซ่อมเพื่อมาปรับปรุงการส่งชิ้นส่วนซ่อมแซมในแต่ละสาขา โดยครอบคลุมทั้งภูมิภาคอินโดจีน อย่าง พม่า และลาวที่เอเซอร์มีสำนักงานประจำอยู่