บริการดูหนังออนไลน์ Primetime เปิดตัว มีทั้งหนังฮอลลีวู้ด-ซีรีส์ดัง เริ่มที่ 199 บาท/เดือน

by mk
26 February 2015 - 15:43

Blognone เคยเสนอข้อมูลของ Primetime บริการดูหนังออนไลน์ของไทยที่แยกตัวมาจาก Hollywood HD วันนี้บริษัทแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศรายละเอียดของแพ็กเกจ และพันธมิตรคู่ค้า

ผมได้ไปร่วมงานแถลงข่าวรอบเย็นมาด้วย ได้ข้อมูลมาดังนี้ครับ

จุดเด่นของ Primetime คือเป็นบริการดูหนัง-ซีรีส์แบบสตรีมมิ่ง ที่มีรายการหนังให้เลือกเยอะ หนังมาเร็ว และคุณภาพสูง ทั้งในแง่ภาพ เสียง และคำบรรยาย น่าจะตอบโจทย์คนชอบดูหนังในทุกมิติ

รายละเอียดบริการของ Primetime คือ

  • รองรับระบบเสียง DTS Virtual Surround Sound 5.1 ในหูฟังทุกชนิด (เป็นการจำลองที่ฝั่งซอฟต์แวร์) ถือเป็นรายแรกของโลกที่ได้ใช้ฟีเจอร์นี้ของ DTS
  • รองรับการแคสต์ขึ้นจอผ่าน Chromecast หรือ Apple TV
  • หนังความละเอียดสูง ในอนาคตจะเปิดบริการระดับ 4K (ในงานแถลงข่าวโชว์การรันหนัง 4K ผ่านเน็ตปกติแล้ว ใช้แบนด์วิธประมาณ 3 Mbps)
  • มีซับไตเติลภาษาไทยพร้อมสรรพ

รายการหนังของ Primetime ก็ไม่ใช่ไก่กา เพราะบริษัทไปดีลกับสตูดิโอดังๆ ของฮอลลีวู้ดมาเกือบครบแล้ว ส่วนสตูดิโอฝั่งเอเชียก็มีแผนจะไปคุยด้วยเช่นกัน จำนวนหนังที่มีในตอนนี้ 1,000 เรื่อง และซีรีส์อีกกว่า 2,000 ตอน

หนังดังที่จะมีให้ดูบน Primetime แน่ๆ ในปี 2015 เช่น Fantastic Four, Big Hero 6, Avenger ภาคใหม่, Fast & Furious 7 เป็นต้น หนังใหม่จะมาหลังฉายโรงประมาณ 3 เดือน (Big Hero 6 มาเดือนหน้าแล้ว)

นอกจากนี้ Primetime ยังมีบริการซีรีส์ทางโทรทัศน์ด้วย ซึ่งรวมถึง Black Sails ผลงานใหม่ของ Michael Bay ที่จะได้ดูพร้อมหรือไล่เลี่ยกับอเมริกาด้วย

โมเดลธุรกิจของ Primetime แยกออกเป็นหลายส่วนตามแพ็กเกจ (จะกล่าวต่อไป) ได้แก่

  • Movie Buffet แพ็กเกจดูเหมาจ่ายแบบ Netflix ซึ่งเจ้าของลิขสิทธิ์ในฮอลลีวู้ดมีเงื่อนไขว่าจะต้องทิ้งช่วงจากหนังเข้าโรงประมาณ 4 ปี หนังกลุ่มนี้จะเป็นหนังดังในอดีต รวมถึงหนังเก่าคลาสสิค
  • Premier Movie หนังใหม่ล่าสุด ทิ้งช่วงจากเข้าโรงประมาณ 3 เดือน หนังกลุ่มนี้ใช้วิธีเช่าแยกเป็นเรื่องๆ (เหมือน Google Play หรือ iTunes)
  • Electronics Sell Through หนังแบบซื้อสิทธิขาด ลูกค้าดาวน์โหลดไฟล์หนังมาเก็บไว้ดูได้เอง
  • Series Buffet ทางบริษัทไปดีลแยกมาต่างหาก ดูซีรีส์แบบไม่จำกัด

นำรูปแบบของเนื้อหาข้างต้นมาจัดระดับราคา ได้เป็น 4 แพ็กเกจตามภาพ

  • เดือนละ 199 บาท ดูหนังเก่ากลุ่ม Movie Buffet ได้ไม่จำกัด
  • เดือนละ 299 บาท ดูซีรีส์ไม่จำกัดจำนวน (Series Buffet)
  • เดือนละ 299 บาท ได้แพ็กเกจ Movie Buffet บวกเช่าหนังใหม่ 2 เรื่อง
  • เดือนละ 399 บาท แพ็กเกจตัวท็อป ดูหนัง/ซีรีส์ไม่จำกัด และเช่าหนังใหม่เดือนละ 2 เรื่อง

ผมสอบถามทีมงาน Primetime ในส่วนของหนังใหม่ว่า ถ้าอยากเช่าเกินเดือนละ 2 เรื่อง สามารถซื้อเพิ่มได้ผ่าน in-app purchase ซึ่งยังไม่ได้เคาะราคาว่าเรื่องละเท่าไร แต่ตอนนี้ที่จัดแพ็กเกจ 299 บาทมา ก็ตกเรื่องละ 50 บาท (เพิ่ม 100 บาทจากแพ็กเกจ Movie Buffet ได้ดูหนังใหม่ 2 เรื่อง) ถือเป็นการทดลองตลาดไปก่อน

อุปกรณ์ที่รองรับคือ

  • iOS 7 ขึ้นไป
  • Android 4.2 ขึ้นไป (ห้าม root ด้วยเหตุผลเรื่องการตรวจสอบลิขสิทธิ์)
  • ดูผ่านเว็บ รองรับ Chrome และ IE11 (ด้วยเหตุว่าเป็นเบราว์เซอร์ที่รองรับ DRM)
  • สมาร์ททีวีของ LG ปี 2015 ที่จะเปิดตัวในไทยเร็วๆ นี้
  • กล่อง ZIPtv ของบริษัท CTH

บัญชีผู้ใช้ 1 บัญชี สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ 3 เครื่อง โดยดูได้ทีละ 1 เครื่องเท่านั้น ซึ่งเป็นนโยบายของเจ้าของลิขสิทธิ์ฝั่งฮอลลีวู้ดอยู่แล้ว ไม่ต่างจากบริการอื่นๆ

ช่องทางการจัดจำหน่าย จะมีร้านวิดีโอ DNA (ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ Primetime ด้วย), ร้าน Banana IT, ร้าน iStudio/iBeat

รายละเอียดอื่นๆ ดูได้จากเว็บไซต์ Primetime นะครับ ทีมงานของบริษัทนี้อ่าน Blognone อยู่แล้ว มีคำถามก็ฝากไว้ได้ เดี๋ยวคงมีคนเข้ามาตอบให้ครับ

Blognone Jobs Premium