Blognone เคยเสนอข้อมูลของ Primetime บริการดูหนังออนไลน์ของไทยที่แยกตัวมาจาก Hollywood HD วันนี้บริษัทแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศรายละเอียดของแพ็กเกจ และพันธมิตรคู่ค้า
ผมได้ไปร่วมงานแถลงข่าวรอบเย็นมาด้วย ได้ข้อมูลมาดังนี้ครับ
จุดเด่นของ Primetime คือเป็นบริการดูหนัง-ซีรีส์แบบสตรีมมิ่ง ที่มีรายการหนังให้เลือกเยอะ หนังมาเร็ว และคุณภาพสูง ทั้งในแง่ภาพ เสียง และคำบรรยาย น่าจะตอบโจทย์คนชอบดูหนังในทุกมิติ
รายละเอียดบริการของ Primetime คือ
รายการหนังของ Primetime ก็ไม่ใช่ไก่กา เพราะบริษัทไปดีลกับสตูดิโอดังๆ ของฮอลลีวู้ดมาเกือบครบแล้ว ส่วนสตูดิโอฝั่งเอเชียก็มีแผนจะไปคุยด้วยเช่นกัน จำนวนหนังที่มีในตอนนี้ 1,000 เรื่อง และซีรีส์อีกกว่า 2,000 ตอน
หนังดังที่จะมีให้ดูบน Primetime แน่ๆ ในปี 2015 เช่น Fantastic Four, Big Hero 6, Avenger ภาคใหม่, Fast & Furious 7 เป็นต้น หนังใหม่จะมาหลังฉายโรงประมาณ 3 เดือน (Big Hero 6 มาเดือนหน้าแล้ว)
นอกจากนี้ Primetime ยังมีบริการซีรีส์ทางโทรทัศน์ด้วย ซึ่งรวมถึง Black Sails ผลงานใหม่ของ Michael Bay ที่จะได้ดูพร้อมหรือไล่เลี่ยกับอเมริกาด้วย
โมเดลธุรกิจของ Primetime แยกออกเป็นหลายส่วนตามแพ็กเกจ (จะกล่าวต่อไป) ได้แก่
นำรูปแบบของเนื้อหาข้างต้นมาจัดระดับราคา ได้เป็น 4 แพ็กเกจตามภาพ
ผมสอบถามทีมงาน Primetime ในส่วนของหนังใหม่ว่า ถ้าอยากเช่าเกินเดือนละ 2 เรื่อง สามารถซื้อเพิ่มได้ผ่าน in-app purchase ซึ่งยังไม่ได้เคาะราคาว่าเรื่องละเท่าไร แต่ตอนนี้ที่จัดแพ็กเกจ 299 บาทมา ก็ตกเรื่องละ 50 บาท (เพิ่ม 100 บาทจากแพ็กเกจ Movie Buffet ได้ดูหนังใหม่ 2 เรื่อง) ถือเป็นการทดลองตลาดไปก่อน
อุปกรณ์ที่รองรับคือ
บัญชีผู้ใช้ 1 บัญชี สามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ 3 เครื่อง โดยดูได้ทีละ 1 เครื่องเท่านั้น ซึ่งเป็นนโยบายของเจ้าของลิขสิทธิ์ฝั่งฮอลลีวู้ดอยู่แล้ว ไม่ต่างจากบริการอื่นๆ
ช่องทางการจัดจำหน่าย จะมีร้านวิดีโอ DNA (ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของ Primetime ด้วย), ร้าน Banana IT, ร้าน iStudio/iBeat
รายละเอียดอื่นๆ ดูได้จากเว็บไซต์ Primetime นะครับ ทีมงานของบริษัทนี้อ่าน Blognone อยู่แล้ว มีคำถามก็ฝากไว้ได้ เดี๋ยวคงมีคนเข้ามาตอบให้ครับ