ถ้าใครยังจำกันได้ เมื่อกลางปีที่แล้ว Jimmy Wales ผู้ก่อตั้ง Wikipedia ได้เผยแผนการทำ search engine โดยใช้เทคโนโลยีวิกิ (ผู้ใช้ช่วยกันแก้ไขผลการค้นหา) ในชื่อ Wikia Search และหายเงียบไปครึ่งปี
ตอนนี้ Wikia Search เวอร์ชันอัลฟ่าออกมาให้ลองเล่นแล้ว ยังทำอะไรไม่ได้มากนัก ผมเห็น Michael Arrington แห่ง Techcrunch รีวิวเสียย่ำแย่ (Wikia Search Is A Complete Letdown) เลยอยากรู้จนต้องลอง สุดท้ายได้มินิรีวิวสั้นๆ ออกมาให้ดูกัน
ขั้นแรกลองเข้าไปที่ Wikia Search alpha จะเห็นช่องค้นหาตามสมัยนิยม ผมลองค้นคำว่า Blognone ผลที่ได้ก็ตามภาพ
TechCrunch บอกว่า Wikia ใช้ Apache Nutch (ซึ่งเป็นโครงการย่อยอันหนึ่งของ Lucene) โดยใช้ crawler ของบริษัท Grub ที่ Wikia เข้าซื้อกิจการมาเมื่อปีที่แล้ว
เรื่องการทำดัชนีค้นหาไม่ค่อยน่าสนใจนัก เพราะว่าเป้าหลักของ Wikia คือการใช้แรงคนช่วยกันทำมากกว่าไปเน้นโปรแกรมที่ทรงพลังแบบกูเกิล ดังนั้นมาดูฝั่งที่เป็น social บ้าง
ถ้าดูใน screenshot ด้านบน จะเห็นกรอบสีฟ้า 3 อัน คือ Mini article, people และ try another index
ส่วนสำคัญคือ Another index นอกเหนือไปจากของ Grub ซึ่งอนาคตจะเปิดให้เรามีส่วนร่วมกับการแก้ไข index ได้ แต่ปัจจุบันยังมีให้เลือกแค่ 2 อัน คือ Whitelist ของ Wikia เอง (คัดเฉพาะผลการค้นหาจากเว็บยอดนิยมเท่านั้น - รายชื่อ) กับของบริษัท Visvo ซึ่งเป็น 3rd party สรุปว่าส่วนนี้ยังทำอะไรไม่ได้มาก และไม่น่าสนใจ
ที่เหลือคือ Mini article กับ people อันแรกยกเอนจินของ Wiki มาใช้ สมมติว่าหาคำว่า Blognone ก็สามารถสร้างคำนิยามสั้นๆ (mini article) ให้กับคีย์เวิร์ดได้ (โดยทุกคนแก้ไขได้เหมือนกับ Wiki) ส่วน people นั้นจะแสดงสมาชิกของ Wikia ที่มีความสนใจตรงกับคีย์เวิร์ดที่เราค้นหาด้วย น่าสนใจว่า Wikia จะแก้ปัญหาการสแปมคีย์เวิร์ดอย่างไร
ผมสมัครสมาชิกเพื่อทดลองใช้สองฟีเจอร์หลัง หน้าสมาชิกเป็นการยก MediaWiki มาตรงๆ ที่ประทับใจคือเมื่อเลือก Thailand แล้ว มีรายการจังหวัดมาให้เลือกด้วย (แต่ไม่เรียงตามตัวอักษร ยังงงๆ อยู่ว่าเรียงตามอะไร) การสมัครสมาชิกต้องยืนยันอีเมล และต้องใส่ชื่อจริงด้วย ซึ่งตรงนี้ต่างกับ Wikipedia
หน้า Profile ของสมาชิก ใส่ประวัติการทำงาน, ความสนใจ, รูปภาพ ได้เหมือนกับ social network ทั่วไป รวมถึงเพิ่มรายชื่อเพื่อได้ (ถ้าอยากเป็นเพื่อนกันใน Wikia ก็ Add friend มาได้ครับ แต่มันยังไม่ค่อยมีอะไรหรอกนะ) สามารถเลือกได้ว่าให้แสดงข้อมูลของเราต่อคนทั่วไป หรือเฉพาะกับเพื่อน
ส่วน mini article นั้นสามารถแก้ไขได้โดยตรงโดยไม่ต้องสมัครสมาชิก ดูตามภาพจะเห็นว่ายก MediaWiki มาตรงๆ เช่นกัน
เสร็จแล้วรอซักแป๊บให้ index อัพเดต ลองค้นคำว่า Blognone ใหม่ก็จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงดังภาพ คือมีทั้ง mini article และ people เพิ่มเข้ามา
ความเห็นผมก็เหมือนกับ TechCrunch คือมันยังไม่ค่อยมีอะไร (เมื่อเทียบกับความคาดหวังจากชื่อเสียงของ Jimmy Wales แล้วกลายเป็นว่าน่าผิดหวัง) ซึ่ง Jimmy เองได้มาตอบในคอมเมนต์ของ TechCrunch ว่าเขายังเชื่อในแนวคิด Release early, release often อยู่ และสมัยเขาทำ Wikipedia ใหม่ๆ ก็เจอคำวิจารณ์แบบเดียวกันนี้เหมือนกัน
รีวิวอื่น: CenterNetworks