การใช้งานสมาร์ทโฟนสมัยนี้ ผู้ใช้มีความต้องการใช้งานอย่างหลากหลายทั้งคุยโทรศัพท์, เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ก, ถ่ายภาพ, เล่นเกม แถมหลายคนใช้อินเทอร์เน็ตผ่าน 3G-4G ซึ่งใช้งานแบตเตอรี่มากกว่าใช้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ทำให้แบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟนนั้นไม่เพียงพอต่อการใช้งานต่อเนื่องนานๆ ฉะนั้นแบตเตอรี่จึงเป็นหัวข้อสำคัญที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนต้องให้ความสำคัญ
Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge ใช้แบตเตอรี่ Li-ion มีแบตเตอรี่ขนาด 2550 mAh และ 2600 mAh ตามลำดับ มากกว่า iPhone 6 ที่มีเพียง 1810 mAh แต่นอกจากขนาดแบตเตอรี่ที่มากกว่าแล้ว Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge ยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ เกี่ยวกับแบตเตอรี่ที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้งานสมาร์ทโฟนของผู้ใช้ในปัจจุบันได้อย่างครอบคลุม
สิ่งแรกคือ Fast Charging เทคโนโลยีที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่เพียง 10 นาที แต่สามารถนำไปใช้งานได้ต่ออีกถึง 4 ชั่วโมง รองรับทั้งเทคโนโลยี Adaptive fast charging ของซัมซุงเอง และ Quick Charge 2.0 ของ Qualcomm ทำให้ผู้ที่ต้องการใช้สมาร์ทโฟนต่อเนื่อง แต่มีเวลาน้อยที่ในการชาร์จแบตเตอรี่ ใช้งานสมาร์ทโฟนต่อเนื่องได้ยาวนานขึ้น
สิ่งที่สองคือ Wireless Charging หรือการชาร์จไร้สาย สำหรับ Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge รองรับการชาร์จไร้สายในตัว โดยต้องมีแท่นชาร์จไร้สายด้วย ตรงนี้เราสามารถใช้แท่นชาร์จไร้สายทั่วไปที่ใช้มาตรฐาน WPC (หรือที่เคยรู้จักกันในระบบชาร์จไร้สาย Qi) ได้เช่นกัน ความพิเศษของ Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge คือรองรับสองมาตรฐานพร้อมกัน อีกมาตรฐานหนึ่งคือ PMA หากใครมีที่ชาร์จไร้สายติดตั้งไว้ที่บ้านอยู่แล้ว ก็จะใช้ประโยชน์ได้สูงสุด ไม่ต้องมากังวลว่าจุดไหนใช้ชาร์จได้ไม่ได้อีกต่อไป
สิ่งที่สามที่ซัมซุงเปิดตัวมาเพื่อครอบคลุมการใช้งานสมาร์ทโฟนนอกสถานที่ก็คือ แบตเตอรี่สำรอง ที่หลายๆ คนคงมีติดตัวอยู่แล้ว โดยซัมซุงเรียกสิ่งนี้ว่า Samsung Battery Pack นี้ได้รับการออกแบบให้บาง และขนาดคล้ายกับตัว Galaxy S6 edge ทำให้การพกพาสะดวกสบายขึ้น
สิ่งที่สี่ หากระดับไฟในแบตเตอรี่ถึงขั้นวิกฤต และไม่มีที่ชาร์จใดๆ Galaxy S6 และ Gaalxy S6 edge ก็มีโหมดประหยัดพลังงาน หรือ Power Saving Mode ให้ใช้เพื่อรองรับการใช้งานแบบใช้พลังงานต่ำ
สิ่งที่ห้า หากต้องการประหยัดแบตมากขึ้นกว่าเดิมอีก ก็ยังมีโหมดประหยัดพลังงานสูงสุด หรือ Ultra Power Saving Mode ที่เปลี่ยนหน้าจอกลายเป็นสีขาวดำ และปิดการใช้งานไวไฟ และบลูทูธ รวมถึงปิดการเชื่อมต่อ 3G หรือ 4G เมื่อปิดหน้าจอ
สิ่งที่หก นอกจากฟีเจอร์ และความสามารถต่างๆที่กล่าวมาแล้ว Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge ยังมีแอพพลิเคชั่น Smart Manager เพื่อตรวจสอบสถานะ และจัดการการใช้งานแบตเตอรี่ภายในเครื่องได้อีกด้วย
เห็นได้ว่าซัมซุงพัฒนาสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดอย่าง Galaxy S6 และ Galaxy S6 edge ในแบบที่ควรมีในสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงในปัจจุบัน เพื่อการใช้งานของผู้ใช้ต่อเนื่องยิ่งกว่าเดิม