หลังจากเปิดให้บริการแบบเงียบๆ มาได้พักใหญ่ วันนี้ AIS กับธนาคาร CIMB Thai ก็แถลงข่าวเปิดตัวบริการธนาคารดิจิทัล Beat Banking อย่างเป็นทางการ
ถ้าให้อธิบาย Beat Banking คือการนำระบบกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ mPay ของ AIS มารวมร่างกับบัญชีธนาคารออนไลน์ e-saving ของ CIMB นั่นเองครับ โดยเงินในบัญชี Beat Banking จะถือเป็นก้อนเดียวกับเงินใน mPay Wallet สามารถฝาก-โอน-ถอน-จ่ายบิลได้ตามปกติ
จุดเด่นของ Beat Banking คือการผนวกข้อดีของบริการ 2 ตัวเข้าด้วยกัน เริ่มจากฝั่ง CIMB ก่อน การถอนเงินสามารถถอนได้จากตู้ ATM ทั่วไทยเพราะถือเป็นบัญชีธนาคาร CIMB มีบัตร ATM ให้ด้วย
ข้อดีของบัตร ATM CIMB อีกอย่างคือไปมาเลเซีย อินโดนีเซีย กัมพูชา สามารถกดเงินข้ามประเทศได้ไม่เสียค่าธรรมเนียม
ด้านของการฝากเงินที่เราต้องเอาเงินสดไปเติมเข้าในบัญชี หลายคนอาจกังวลว่าหาสาขาฝากเงินยาก ทาง Beat Banking แก้ปัญหาโดยผนึกเอาสาขาของทั้งสององค์กรเข้ามาด้วยกัน ตอนนี้ใช้ได้แล้วกับสาขาของธนาคาร CIMB ทุกแห่งทั่วประเทศ ส่วน AIS ตอนนี้ใช้ได้กับ AIS Shop จำนวน 16 แห่ง
ทาง AIS แจ้งว่าจะขยายสาขาที่รองรับให้มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเป้าหมายสุดท้ายคือตัวแทนจำหน่าย AIS ทุกรายจะต้องให้บริการ Beat Banking ได้ด้วย
ฝั่งของ AIS สามารถใช้แอพ mPay เดิมได้เลย โดยจะมีบริการ Beat Banking เพิ่มเข้ามาในเมนูถ้าสมัครใช้บริการเรียบร้อยแล้ว
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือการใช้แอพ mPay โอนเงินให้เพื่อนได้เหมือนโอนเงินธนาคาร แต่สามารถใช้หมายเลขโทรศัพท์แทนเลขบัญชีได้ด้วย
ฟีเจอร์ถัดมาคือจ่ายบิล รองรับบิลสาธารณูปโภค-สินค้า-บริการต่างๆ ประมาณ 200 รายการ ทางผู้บริหาร AIS กล่าวแบบติดตลกว่าจ่ายไม่ได้อยู่ 2 บิลคือ dtac กับ True ซึ่ง AIS ก็จะพยายามเจรจาให้สามารถจ่ายได้
ใช้แทนบัตร Rabbit ได้ อันนี้เป็นฟีเจอร์มาตรฐานของ mPay อยู่แล้ว
ในแง่ความปลอดภัยก็ตามมาตรฐานธนาคารออนไลน์ คือยืนยันตัวตนด้วย SMS, สรุปข้อมูลการเดินบัญชีทางอีเมล
ช่วงเปิดตัวก็อัดโปรโมชั่นกันเต็มที่ครับ ลูกค้า AIS ทุกรายสามารถใช้บริการได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่มีเงื่อนไขเงินฝากขั้นต่ำว่าต้องกี่บาท
CIMB ยังให้ดอกเบี้ยเงินฝาก 2% ถ้าสมัครก่อนวันที่ 30 มิถุนายน 2558 โดยคำนวณดอกเบี้ยเป็นรายวัน จ่ายดอกเบี้ยเป็นรายเดือน นอกจากนี้ AIS ยังให้โควต้าจ่ายบิลฟรีเดือนละ 10 บิลจนถึง 30 มิถุนายนเช่นกัน
ขั้นตอนการสมัครคือติดตั้งแอพ mPay สมัครบริการ mPay ให้เรียบร้อยก่อน (จำกัดเฉพาะคนใช้ AIS นะครับ) จากนั้นกดสมัครบริการ Beat Banking จากในแอพ กรอกข้อมูลให้เรียบร้อย นำโค้ดที่ได้จากแอพไปยื่นที่ธนาคาร CIMB หรือ AIS ตามรายชื่อสาขาข้างต้นเพื่อ "ยืนยันตัวตน" (ตามกฎของธนาคารแห่งประเทศไทย) เท่านั้นก็เรียบร้อย
ข้อมูลจากช่วงถาม-ตอบ
สรุปแล้วผมคิดว่า Beat Banking นั้นไม่ได้มีอะไรใหม่หลุดโลก แต่จุดเด่นคือความสะดวกที่เกิดจากการผนึกกำลังของ AIS กับ CIMB เข้าด้วยกัน (โดยเฉพาะเรื่องสาขา ถ้าหากว่าสามารถใช้กับสาขา AIS ทุกแห่งได้จะน่ากลัวมาก) โดยรวมแล้วก็ถือเป็นโครงการที่น่าสนใจของ AIS ที่พยายามปรับตัวจากการเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมเพียงอย่างเดียว มาสู่การเป็นผู้ให้บริการโซลูชันดิจิทัลด่านต่างๆ มากขึ้นครับ