[F8] Facebook เผยวิสัยทัศน์อีก 10 ปีข้างหน้า ต้องการให้คนทั้งโลก "แชร์ประสบการณ์"

by mk
27 March 2015 - 14:51

เมื่อคืนนี้ Facebook จัดงานสัมมนา F8 2015 วันที่สอง โดย Mike Schroepfer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิค (CTO) ของบริษัทขึ้นเวทีวาดวิสัยทัศน์ของ Facebook ในอีก 10 ปีข้างหน้าให้ทุกคนได้รับรู้

ผมคิดว่าการนำเสนอของ Schroepfer ช่วยให้เราเข้าใจหลายๆ อย่างที่ Facebook กำลังทำอยู่ในตอนนี้ว่าทำไปทำไม (เช่น ทำไมต้องซื้อ Oculus, ทำไมต้องทำโครงการ Open Compute หรือ Internet.org) จึงสรุปเนื้อหาจากงาน F8 มาในบทความนี้ครับ

Schroepfer ถามว่าทำไมเราต้องไปนั่งในที่แคบๆ มืดๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง คุยกับใครไม่ได้เลย เพื่อไป "ดูหนัง"

คำตอบก็คือเราไปสัมผัส "ประสบการณ์" ที่จะนำไปแชร์ต่อได้ พอหนังจบ เราก็สามารถแชร์ประสบการณ์ดูหนังให้กับเพื่อนๆ คุยว่าหนังตอนนั้นเป็นอย่างไร สนุกไหม ตัวเอกตัวร้ายควรทำแบบไหนกันบ้าง ฯลฯ

Schroepfer ย้ำว่านี่คือภารกิจในระยะยาวของ Facebook ที่จะช่วยให้คนแชร์ประสบการณ์ระหว่างกันได้มากที่สุด

สิ่งที่ Facebook จะทำในระยะยาวจึงแบ่งได้เป็น 3 เรื่อง ตามภาพ

Planetary Connectivity

ภารกิจในข้อนี้ของ Facebook คือทำให้คนทั้งโลกเชื่อมต่อเน็ตให้ได้ งานด้านนี้มี 2 ส่วนคือการเชื่อมต่อเน็ต และการสร้างสาธารณูปโภคด้านไอทีที่รองรับการใช้งานของคนทั้งโลกให้ได้

ส่วนของการเชื่อมต่อเน็ตนั้น Schroepfer แสดงแผนภาพให้ดูว่ายังมีคนอีกจำนวนมากที่เข้าไม่ถึงเน็ต 2G ด้วยซ้ำ โดยเฉพาะคนในพื้นที่ห่างไกลเมือง

Facebook สร้างโครงการ Internet.org ขึ้นมาเพื่อการนี้ และ Schroepfer ก็โชว์ภาพของโดรนต้นแบบ Aquila ที่มีปีกขนาดใหญ่ (แต่น้ำหนักเท่ารถยนต์เล็กๆ คันเดียว) บนปีกมีโซลาร์เซลล์รับพลังงานแสงอาทิตย์ และสามารถบินกระจายสัญญาณเน็ตไปยังพื้นที่ขนาดใหญ่ได้

ฝั่งของโครงสร้างพื้นฐาน Facebook มีโครงการ Open Compute ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านฮาร์ดแวร์เซิร์ฟเวอร์ และพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่อย่าง HHVM ช่วยให้เราจำเป็นต้องใช้เซิร์ฟเวอร์น้อยลงด้วย

เทคโนโลยีด้านศูนย์ข้อมูลของ Facebook ก็พัฒนาไปมาก มีเทคนิคใหม่ๆ ช่วยให้ใช้พื้นที่คุ้มค่า ลดอัตราการใช้พลังงานลง ระบายความร้อนได้ดีขึ้น ศูนย์ข้อมูลบางแห่งของ Facebook ตอนนี้มีขนาดอาคารใหญ่กว่าเรือบรรทุกเครื่องบินแล้ว

Natural Interfaces

ภารกิจที่สองที่ Facebook กำลังทำอยู่คือสร้างวิธีการสื่อสารของผู้คนให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งเทคโนโลยีที่มาตอบโจทย์เรื่องนี้คือปัญญาประดิษฐ์หรือ AI

ตอนนี้งานด้าน AI ของ Facebook ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี แต่ในงาน F8 ก็นำความคืบหน้ามาโชว์บ้างแล้ว รายละเอียดดูในบทความ Facebook โชว์งานวิจัยด้าน AI - แยกประเภทกีฬาจากวิดีโอ, ตอบคำถามที่ต้องวิเคราะห์ข้อมูล

วิดีโอแยกประเภทกีฬา

Some of the leading minds in AI research are working at Facebook to build intelligent machines. They recently developed AI that could identify 487 different categories of sports, and tested it by showing some regional and lesser-known sports.

Posted by Facebook Engineering on Thursday, March 26, 2015

วิดีโอตอบคำถาม Lord of the Ring

Some of the leading minds in AI research are working at Facebook to build intelligent machines. One of the group's more recent advances is a technology called Memory Networks, which enables a machine to perform relatively sophisticated question answering, as in this example of a machine answering questions about a Lord of the Rings synopsis.

Posted by Facebook Engineering on Thursday, March 26, 2015

Immersive Experiences

อย่างสุดท้ายคือสร้างประสบการณ์ที่สมจริง ซึ่งเป็นคำอธิบายว่าทำไม Facebook ถึงซื้อ Oculus นั่นเอง

Schroepfer ยกตัวอย่างว่าลูกสาววัย 4 ขวบของเขาเพิ่งขี่จักรยานได้เป็นครั้งแรก ในหัวอกคนเป็นพ่อแม่แล้วอยากให้บรรดาญาติๆ ในครอบครัวได้มาเห็นจังหวะที่ลูกขี่จักรยานได้ อยู่ในเหตุการณ์เดียวกัน ซึ่งการถ่ายภาพหรือวิดีโอแล้วโพสต์นั้นยังไม่สามารถให้ประสบการณ์ได้ดีพอ แต่เขาก็หวังว่าในอนาคต Oculus จะทำได้

หลังจากการนำเสนอของ Schroepfer แล้ว ทาง Michael Abrash หัวหน้าฝ่ายโปรแกรมของ Oculus VR ก็ขึ้นเวทีมาประกาศแผนของ Oculus ว่าจะสร้างประสบการณ์ที่เหมือนจริงมากๆ ราวกับ The Matrix เลยทีเดียว

ถ้าใครมีเวลาก็แนะนำให้ดูวิดีโอการนำเสนอของ Schroepfer ครับ

Full Video: Opening Keynote Day 2 Why Virtual Reality Will Matter to YouMaybe not today, maybe not tomorrow, but someday and for the rest of your life – this talk will explain why you’re going to care about virtual reality.

Posted by Facebook Developers on Thursday, March 26, 2015

ที่มา - Facebook Newsroom

Blognone Jobs Premium