เมื่อพูดถึงชื่อ Amazon ทุกคนคงนึกถึงร้านค้าออนไลน์ที่ไม่จำเป็นต้องมีตัวตนทางกายภาพ มีหน้าร้านเหมือนร้านค้าทั่วไป แต่เอาเข้าจริงแล้ว Amazon เพิ่งปรับนโยบายหันมาเปิด "หน้าร้าน" ของตัวเองบ้างกับเขาเหมือนกัน
ร้านของ Amazon เป็นร้านแนวทดลองที่ใช้ชื่อว่า Amazon Pop Up Store เป้าหมายหลักคือให้ลูกค้าทั่วไปได้ลองจับผลิตภัณฑ์ตระกูล Kindle ของจริงก่อนตัดสินใจซื้อ ร้านลักษณะนี้มีเพียง 2 แห่งในสหรัฐอเมริกา คือที่เมืองซานฟรานซิสโกและซาคราเมนโต แถมเพิ่งเริ่มทำเมื่อปีที่แล้วนี้เอง (ข่าวใน CNET)
ผมมีโอกาสไปเจอร้าน Amazon Pop Up Store โดยบังเอิญที่ห้าง Westfield San Francisco (ห้างเดียวกับ Microsoft Store สาขา San Francisco) เลยเก็บภาพมาฝากกันครับ
ถึงแม้ได้ชื่อว่าเป็น "ร้าน" แต่เอาเข้าจริงแล้ว Amazon Pop Up Store เป็นบูตชั่วคราวที่อยู่ข้างบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้า (ถึงได้ตั้งชื่อว่าเป็น Pop Up Store) ขนาดของร้านไม่ใหญ่มาก และมีแต่สินค้าตระกูล Kindle เท่านั้น
อะไรก็ตามที่มีคำว่า Kindle หรือ Fire แปะอยู่ ร้านนี้มีหมดครับ เริ่มจาก Fire TV ที่มีวางโชว์อยู่หน้าร้านเลย เปิดให้คนลองเล่นได้ด้วย จากภาพด้านล่าง คุณพี่ผู้ชายกำลังนั่งเล่นเกมบน Fire TV อยู่ครับ
ตัวกล่อง Fire TV ของจริงอันเล็กมาก เมื่อเทียบขนาดกับทีวีและรีโมท มันเป็นกล่องสีดำแบนๆ แทบไม่มีอะไรเด่นเลย
แท่งเสียบทีวี Fire TV Stick (คู่แข่งของ Chromecast) ก็มีมาโชว์
ผลิตภัณฑ์กลุ่ม Kindle E-readers ก็มีมาโชว์กันครบตระกูล ชอบแบบไหน จอสัมผัส จอมีไฟ มีให้ลองจับหมด แถมยังมีเคสและอุปกรณ์เสริมวางขายในร้านด้วย
แท็บเล็ตสาย Kindle Fire ก็มากันครบเช่นกันครับ (หลังๆ ตั้งชื่อชวนงงมาก เพราะมีทุกขนาดแถมมีรุ่น HD อีก)
ขนาดแท็บเล็ต Fire HD Kids Edition ยังมีเลย
ของแปลกที่น่าจะหายากในบ้านเราคือโทรศัพท์ Fire Phone ที่กลายเป็นของแสลงสำหรับ Amazon ไปเลย ผมลองเล่นดูสั้นๆ พบว่าหน้าจอมันเคลื่อนตามศีรษะของเราได้จริง (แต่ยังไม่เห็นประโยชน์อะไรสักเท่าไรสำหรับฟีเจอร์นี้) ส่วนฟีเจอร์ Firefly ที่ใช้ถ่ายภาพวัตถุต่างๆ ทำงานได้ค่อนข้างเร็ว และแม่นพอสมควรกับหนังสือหรือปกดีวีดีที่ Amazon เอามาวางไว้ในร้านให้ทดสอบ
สินค้าที่ผมพยายามหาแต่ไม่มีคือ Amazon Echo ลำโพงผู้ช่วยประจำบ้าน เข้าใจว่าของยังไม่ขายหรืออาจทำตลาดในวงจำกัดเท่านั้น
โดยสรุปแล้วถือว่า Amazon Pop Up Store ถือเป็นของแปลกที่ไม่คิดว่า Amazon จะหันมาทำอะไรแบบนี้ (เนื่องจากไม่รู้มาก่อนว่ามี เดินไปเจอครั้งแรกถึงกับงง)
แต่เมื่อพิจารณาว่าการทำหน้าร้านของตัวเองกำลังเป็นกระแสในโลกไอทีที่นำโดยแอปเปิล และมีผลจนทำให้ไมโครซอฟท์-กูเกิลต้องหันมาทำตาม ก็พอเข้าใจได้ว่า Amazon อยากเข้าใกล้ผู้บริโภคให้มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งถ้าทำแล้วประสบความสำเร็จดี ในระยะยาวเราก็อาจเห็นการขยายร้านลักษณะนี้เพิ่มอีกในอนาคต (แต่น่าจะทำช้ามากๆ เพราะไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัท)
ใครสนใจอยากตามไปดูบ้าง ลองดูข้อมูลในเว็บไซต์ของ Westfield