หลังจากการปล่อยเดโมเกม Final Fantasy XV ในชื่อ Episode Duscae ไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองเดือน Sqaure Enix ก็ได้ประกาศผ่านทางทวิตเตอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า จะมีการปล่อยอัพเดต Episode Duscae 2.0 ออกมาให้ทดสอบกันภายในเดือนมิถุนายนนี้ ตามที่ ฮาจิเมะ ทาบาตะ ได้ประกาศเอาไว้ล่วงหน้าในรายการพิเศษ Final Fantasy XV: Active Time Report
โดยอัพเดต 2.0 ทาบาตะเล่าว่าจะมีการปรับปรุงในหลายๆ ส่วน เช่นระบบการต่อสู้ที่ต่อเนื่อง และมีท่าต่อสู้ที่มากขึ้น ปรับระบบมุมกล้องใหม่ทั้งหมด และใส่โหมดฝึกการใช้ปุ่ม R3 (บน PS4) ในการล็อกเป้าเพิ่ม (มีมาในเดโม แต่ไม่มีใครรู้ เลยถูกครหาว่าระบบล็อกเป้า "ห่วยมาก") แก้ไข AI ของเพื่อนร่วมทีมให้ดีขึ้น และลดการใช้ MP ในการใช้งานบางสกิลเป็นต้น
อย่างไรก็ตามทาบาตะเผยว่าอยากจะปล่อยอัพเดต Episode Duscae ออกมาให้บ่อยที่สุด เพื่อที่ผู้เล่นจะได้เห็นพัฒนาการของ Final Fantasy XV อย่างต่อเนื่องไปจนถึงเกมตัวเต็ม แต่เนื่องจากว่า สิ่งที่ Square Enix กำลังจะทำ (ปล่อยอัพเดตให้เดโม) มันเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน จึงต้องได้รับความเห็นจากทางโซนี่และไมโครซอฟท์ก่อนเป็นลำดับแรกด้วย
ทั้งนี้ ทาบาตะยังได้เผยข้อมูลต่างๆ ออกมาเป็นจำนวนมากในรายการ Final Fantasy XV: Active Time Report รอบล่าสุด ซึ่งมีประเด็นสำคัญๆ ที่ค่อนข้างน่าสนใจดังต่อไปนี้
- ระบบกราฟิกในเดโมตัวปัจจุบัน ตัวภาพเรนเดอร์ที่ความละเอียด 1600*900 พิกเซล ที่เฟรมเรต 30 เฟรมต่อวินาที เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ของทั้ง PS4 และ Xbox One จึงต้องปล่อยออกมาในรูปแบบนี้ก่อน แต่ผลคือตัวเกมก็ยังมีปัญหาเฟรมเรตกระตุกเป็นช่วงๆ ประเด็นนี้ผู้เล่นฝั่งตะวันตกก็เลยเสนอมาว่าให้ลดจำนวน Object ในฉากลงเพื่อลดภาระการทำงานของหน่วยประมวลผล และแลกกับเฟรมเรตที่เพิ่มมากขึ้น แต่ทาบาตะมองว่า 30 เฟรมต่อวินาที คือเฟรมเรตที่เหมาะสม และดูสมจริงมากที่สุด อย่างไรเสีย ทาบาตะ เผยว่าเขาและลูกทีมยังไม่ยอมแพ้เรื่องความละเอียด 1080p และกำลังพัฒนาอย่างเต็มที่เพื่อให้ตัวเกมมีความละเอียดสูงที่สุดเท่าที่จะสูงได้
- ความยากของเกมไม่สมดุล (อเมริกาว่าง่าย แต่ญี่ปุ่นว่ายาก) เรื่องนี้ทาบาตะเผยว่าจะปรับสมดุลของเกมแน่นอน แต่ในงานตัวปัจจุบัน ยังไม่มีการใส่ระบบการปรับสมดุลของตัวเกมเข้ามา เลยทำให้ตัวเกมยังไม่สมดุลเต็มที่ ทั้งนี้ทาบาตะเผยว่าจะมีการใส่ตัวเลือกการปรับความยากเข้ามาให้ในตัวเกมจริงด้วย เนื่องจากว่าเกมนี้จะทำตลาดพร้อมกันทั่วโลกในวันวางจำหน่ายวันแรก
- ระบบวาร์ป (ท่าพื้นฐานของ Noctis) จะมีให้เลือกใช้ในบางฉากเท่านั้น และไม่เปิดให้ใช้ในภาวะปกติ เนื่องจากการทำแบบนี้ต้องใช้เวลาในการปรับแผนที่พอสมควร ประกอบกับความล่าช้าแล้ว ทาบาตะเลยตัดสินใจไม่ใส่ระบบวาร์ปเข้ามาในภาวะปกติ
- เสียงพากษ์ภาษาอังกฤษ เรื่องนี้ทาบาตะเผยว่าตัวเกมถูกแปลภาษาอังกฤษอย่างเร่งด่วน จึงทำให้มีการเลือกใช้นักพากษ์แบบฉุกเฉิน (และทำให้เสียงของ Noctis ดูแก่เกินวัยไปมาก) อย่างไรก็ตามทาบาตะระบุว่าตอนนี้ทาง Square Enix NA ได้หานักพากษ์ใหม่เข้ามาพากษ์แทนแล้ว และคาดว่าจะใส่มาให้ลองฟังได้เร็วสุด ก็น่าจะเป็นอัพเดต Episode Duscae ตัวถัดไป
ที่มา - Gematsu (1, 2)