ให้หลังการเปิดตัว Android M เน้นคุณภาพ ไม่เน้นฟีเจอร์ ที่ปล่อยรุ่นพรีวิวตัวแรกให้ผู้ใช้ทันที ก็มีคนทดลองไปแฟลชลง Nexus 6 เพื่อหาดูความแตกต่างจาก Lollipop แล้ว มาดูกันทีละอย่างไปครับ
หน้าตาของ Android M ที่ปล่อยมาครั้งนี้ นอกจากภาพพื้นหลังแล้ว อย่างอื่นแทบจะเรียกได้ว่าเหมือนกับ Lollipop ทุกประการ ถ้าเพ่งหาความต่างแล้ว อย่างแรกสุดเมื่อเปิดเครื่องมือที่สังเกตได้คือฟอนต์หลัก Roboto บนหน้าโฮมสกรีนถูกปรับปรุงไปเล็กน้อย
จากหน้าล็อกสกรีน จะมีไอคอนไมโครโฟนที่มุมซ้ายล่าง เอาไว้สำหรับเปิดใช้งานฟีเจอร์สั่งงานด้วยเสียงจากหน้าล็อกสกรีน
มาดูความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนคือส่วนของหน้ารวมแอพ (drawer) ที่เปลี่ยนจากเลื่อนแนวนอน มาเป็นแนวตั้ง ลดจำนวนเหลือ 3 คอลัมน์ และมีตัวอักษรหน้าชื่อแอพเรียง A-Z
ลบแอพโดยตรงจากหน้าโฮมได้แล้ว (เป็นฟีเจอร์ของ Google Now Launcher)
ของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอีกอย่างคือการปรับแต่ง UI ของระบบผ่านเมนู Show SystemUI Tuner โดยที่โชว์มานั้นเป็นการย้ายตำแหน่งของทางลัดใน Quick Setting ให้ดู
สำหรับคนที่ไม่ชอบธีมสีขาว ใน Android M มีตัวเลือกใหม่สำหรับปรับสีของระบบให้เข้มขึ้นด้วยธีม Dark แล้ว โดยตัวเลือกจะอยู่ในหน้า Developer options
สำหรับฟีเจอร์ที่มีมาตั้งแต่ Lollipop อย่างห้ามรบกวน (Do not disturb) ถูกปรับให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น ทั้งการใช้งาน และการตั้งค่า
การเข้าใช้งานฟีเจอร์ App Permission สำหรับตั้งค่าความเป็นส่วนตัวเฉพาะแอพนั้น สามารถเข้าได้ง่ายขึ้นจากแถบแจ้งเตือนที่จะมีไอคอนขึ้นด้านหลัง สามารถกดเข้าไปได้ทันที โดยมีตัวเลือกอย่างไวสำหรับบล็อคการแจ้งเตือนทั้งหมดของแอพนี้ หรือปรับเป็นแอพสำคัญให้ตั้งแต่แรก
สำหรับการตั้งค่าใช้ข้อมูลของแอพ ถ้าเป็นรุ่นเก่าที่ยังไม่รองรับฟีเจอร์นี้เต็มตัว จะมีข้อความเตือนว่าแอพอาจทำงานไม่ได้ตามฟีเจอร์ที่ให้มาอีกด้วย
ฟีเจอร์เด่นอย่าง Now on Tab ยังไม่เปิดให้ใช้ในพรีวิวตัวแรกครับ
หน้าจัดการหน่วยความจำของ Android M เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย สามารถเปิดเมนูเพื่อตรวจสอบว่าแต่ละแอพใช้หน่วยความจำเฉลี่ยเท่าไหร่ และจัดอันดับแอพที่ใช้หน่วยความจำตามลำดับมากไปน้อย
ฟีเจอร์ที่หลายคนรอคอยมาถึง Android แล้ว สำหรับ Multi-windows mode การใช้งานหลายแอพบนหน้าจอเดียว ที่โผล่มาในตัวอิมเมจสำหรับนักพัฒนาแล้ว (แต่ยังไม่มีบนสมาร์ทโฟน)
ปิดท้ายกันด้วย Easter egg ที่มักจะใบ้ชื่อรุ่นของ Android ให้เรา ซึ่งปีนี้ให้มาเป็น ¯_(ツ)_/¯ (ไม่บอกนี่นา!)
รวบรวมจาก The Verge และ Android Police