นอกจากจะเปิดตัว ZenPad S ที่เป็นแท็บเล็ตซีรีส์ใหม่พร้อมกับปากกาแล้ว ASUS ก็ยังเปิดตัว ZenPad รุ่นธรรมดามาอีกสามรุ่น พร้อมจุดเด่นที่ฝาหลังสามารถใช้อุปกรณ์เสริมได้ตามความต้องการ
ZenPad มีสามโมเดลคือ ZenPad 7.0, 8.0 และ 10.1 แบ่งตามขนาดหน้าจอ ASUS วางตัวซีรีส์นี้ไว้เป็นแท็บเล็ตพรีเมียม โดยรองรับทั้ง 4G และความสามารถในการโทรศัพท์ สเปคคร่าวๆ ของแต่ละรุ่นดังนี้ครับ
ZenPad 7.0
- หน้าจอขนาด 7" ความละเอียด 1024x600 พิกเซล
- ใช้ซีพียู Atom X3-C3230 ควอดคอร์รหัส Cherry Trail รองรับ 64 บิต
- รัน Android 5.0
- หน่วยความจำภายใน 8-16GB, แรม 1GB
- กล้องหลัง 2-5 เมกะพิกเซล กล้องหน้า VGA
- รองรับดูอัลซิม ใช้โทรศัพท์ได้
- ตัวเครื่องบาง 8.4 มม. หนัก 265 กรัม
ZenPad 8.0
- หน้าจอขนาด 8" ความละเอียด 1280x800 พิกเซล
- ใช้ซีพียู Atom X3-C3200 ควอดคอร์รหัส Cherry Trail สำหรับรุ่น Wi-Fi และ Snapdragon 410 สำหรับรุ่น 4G
- รัน Android 5.0
- หน่วยความจำภายใน 8-16GB, แรม 1-2GB
- กล้องหลัง 5-8 เมกะพิกเซล กล้องหน้า 2 เมกะพิกเซล
- รองรับ 4G ใช้โทรศัพท์ได้
- ตัวเครื่องบาง 8.5 มม. หนัก 350 กรัม แบตเตอรี่จุ 4000 mAh
ZenPad 10.1
- หน้าจอขนาด 10." ความละเอียด 1280x800 พิกเซล
- ใช้ซีพียู Atom X3-C3230 ควอดคอร์รหัส Cherry Trail รองรับ 64 บิต
- รัน Android 5.0
- หน่วยความจำภายใน 8-32GB, แรม 1GB
- กล้องหลัง 2-5 เมกะพิกเซล กล้องหน้า VGA
- รองรับ 3G ใช้โทรศัพท์ได้
- ตัวเครื่องบาง 7.9 มม. หนัก 510 กรัม
ทุกรุ่นในซีรีส์ ZenPad จะมาพร้อมกับลำโพงด้านหน้า (มีแค่ ZenPad 10.1 ที่เป็นลำโพงคู่) มีขอบโลหะ และใช้ฝาหลังพิมพ์ลายเสมือนหนัง พร้อมกับอุปกรณ์เสริมอย่าง ASUS Zen Clutch สำหรับเปลี่ยนลุคให้เป็นหนังทั้งเครื่อง TriCover เคสแบบพับได้
สำหรับ ZenPad 8.0 จะมีของเล่นเยอะโมเดลอื่น ทั้ง ASUS Power Case เคสแบตเตอรี่เสริม ที่เพิ่มระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องเป็น 15 ชั่วโมง และ ASUS Audio Cover สำหรับเปลี่ยนฝาหลังให้กลายเป็นลำโพง 5.1 ใช้งานได้ต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง
ส่วน ZenPad 10.1 จะมีคีย์บอร์ดแยก ซึ่งพ่วงลำโพงมาให้อีกหนึ่งคู่ ใช้งานได้ยาวนาน 12 ชั่วโมงด้วยกัน
สำหรับราคาของแต่ละรุ่นยังไม่แจ้งมา รวมถึงวันวางขายด้วยครับ
ที่มา - ASUS