ในวันนี้คณะกรรมการ กสท. ได้มีวาระการประชุมพิเศษ เพื่อพิจารณาเรื่องที่ไทยทีวีส่งหนังสือพิจารณาขอยุติการดำเนินการทีวีดิจิทัลทั้งสองช่อง ซึ่งผลการประชุมในนัดนี้ ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการว่า ให้ไทยทีวี ยุติการทำทีวีดิจิทัลได้ และประกาศให้ทั้งสองช่องพ้นสภาพการเป็นทีวีดิจิทัลประเภทบริการธุรกิจระดับชาติในทันที
อย่างไรก็ตาม กสท. ยังได้ออกคำสั่งเพิ่มเติมเพื่อให้ไทยทีวีนำไปดำเนินการต่อ ซึ่งหลังจากนี้ไทยทีวีจะต้องดำเนินการตามคำสั่งของ กสท. ดังต่อไปนี้ให้ครบทุกข้อด้วยครับ
1. ให้ดำเนินการจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตรายปี คิดเป็นร้อยละ 4 ของรายได้รวมที่เกิดขึ้นจากการออกอากาศของทีวีดิจิทัลของบริษัททั้งสองช่อง ที่ครบกำหนดไปเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา (ส่วนนี้จะเป็นรายได้ของ กสทช. 2% และเข้า กทปส. อีก 2%)
2. ให้จัดทำแผนเยียวยาผู้ชม ส่งให้ กสท. พิจารณาเพื่อใช้บังคับ
3. ให้ชำระเงินค่าประมูลใบอนุญาตที่ค้างอีก 5 งวดแบบรวบยอด ภายใน 15 วันนับจากวันที่ยุติการออกอากาศ หากล่าช้าเกินกำหนด กสทช. จะเรียกเก็บเงินค่าประมูลจากบุคคลค้ำประกัน ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ยปรับอีก 7.5% นับจากวันที่ 28 พฤษภาคม ซึ่งยอดค้างชำระที่ไทยทีวีต้องจ่าย ณ วันสิ้นสุดการออกอากาศ คือ 1,629 ล้านบาท (ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและดอกเบี้ยปรับ) แบ่งเป็นของไทยทีวี 1,107 ล้านบาท และของโลก้า 572.2 ล้านบาท
4. หาก ไทยทีวี ไม่ดำเนินการตามคำสั่ง ให้สำนักงาน กสทช. รวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ นำเสนอต่อคณะกรรมการ กสท. เพื่อใช้อำนาจในการลงโทษ ตั้งแต่การพักใช้ ไปจนถึงเพิกถอนใบอนุญาต นั่นหมายความว่าต่อให้ออกอากาศโทรทัศน์ระบบดาวเทียมอยู่ ก็จะถูกเพิกถอนสิทธิ์การออกอากาศทางดาวเทียมด้วยเช่นกัน
ทางฝั่งไทยทีวีเองก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ทางช่องได้ดำเนินการเตรียมเอกสารเรื่องการเยียวยาผู้ชมทั้งสองช่องเสร็จสิ้นตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้ว แต่อยู่ในระหว่างการปรับถ้อยคำให้เป็นทางการมากขึ้น ก่อนจะนำเสนอคณะกรรมการ กสท. ต่อไป ส่วนกรณีที่ กสทช. จะดำเนินการต่างๆ ขั้นเด็ดขาดนั้น คงต้องให้เป็นการตัดสินใจของ นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยทีวี จำกัด ก่อนเป็นลำดับแรก
ที่มา - ไทยรัฐ