ธุรกิจสตาร์ตอัพที่มีแนวทางธุรกิจที่ไม่เหมือนเดิมสร้างบริการใหม่ๆ ขึ้นมาทั่วโลกอย่างรวดเร็ว บริการใหม่ๆ เช่น Instagram, Airbnb, หรือ Uber ล้วนใช้ระบบไอทีที่รองรับการขยายตัวได้อย่างรวดเร็วเพื่อรองรับกับธุรกิจ แต่บริการเหล่านี้ในช่วงเริ่มต้นที่อาจจะกำลังทดสอบแนวคิด พัฒนาบริการที่อาจจะยังไม่มีรายได้หรือรายได้ยังไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายกลับไม่สามารถเข้าถึงเครื่องมือและทรัพยากรได้เท่ากับธุรกิจที่มีเงินทุนและรายได้ ทำให้การเริ่มต้นแนวคิดใหม่ๆ กลายเป็นเรื่องยากกว่าที่ควรเป็น
ล่าสุดไมโครซอฟท์เพิ่งประกาศร่วมกับผู้สนับสนุนสตาร์ตอัพกว่า 150 รายใน 47 ประเทศทั่วโลกเพื่อให้การสนับสนุนเครดิตใช้งาน Azure ถึง 120,000 ดอลลาร์ต่อปีสำหรับสตาร์ตอัพที่ผ่านการพิจารณาจากทั่วโลก สนใจหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ MSDN Blog
ไมโครซอฟท์เล็งเห็นอุปสรรคนี้และเปิดโครงการ BizSpark มาตั้งแต่ปี 2009 และเปิดตัวในไทยช่วงเดียวกับโครงการในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก จนวันนี้มีธุรกิจที่เข้าร่วม BizSpark เฉพาะในไทยแล้วกว่าสามร้อยบริษัท มีบริษัทที่ผ่านจากโครงการและยังทำธุรกิจต่อไปรวม 114 บริษัท
บริษัทที่เข้าร่วมกับโครงการ BizSpark จะมีโอกาสเข้าถึงเครื่องมือพัฒนาระดับมืออาชีพที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยีทุกรูปแบบทั้งที่เป็นเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์เองและซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สจำนวนมากได้อย่างเต็มที่ระหว่างการพัฒนาสินค้าและบริการ เปิดโอกาสให้ธุรกิจเริ่มใหม่สามารถให้บริการกับองค์กรธุรกิจที่ใช้ซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์อยู่แล้ว นอกจากซอฟต์แวร์แล้ว BizSpark ยังเปิดโอกาสให้สตาร์ตอัพเข้าถึงบริการคลาวด์ Azure ได้ตลอดช่วงเวลาสามปีอีกเดือนละ 150 ดอลลาร์ หรือประมาณเดือนละ 5,000 บาท โครงการที่มีศักยภาพสูงยังมีโอกาสเข้าโครงการ BizSpark Plus ที่ให้เครดิตใช้งาน Azure ได้ถึงปีละ 120,000 ดอลลาร์หรือกว่าสามล้านบาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป โครงสร้างพื้นฐานของ Azure ที่ครอบคลุม 19 เขตทั่วโลก ช่วยให้บริการสามารถเข้าถึงผู้ใช้ได้ในระดับโลก
เครดิต 150 ดอลลาร์ต่อเดือนสำหรับการเข้าร่วม BizSpark เพียงพอสำหรับการให้บริการขนาดเล็กได้หลายรูปแบบ ทีมพัฒนาสามารถสร้างเซิร์ฟเวอร์ขึ้นมาพัฒนางาน 3 เครื่องได้ทุกวัน สร้างเครื่องจำนวนถึง 80 เครื่องขึ้นมาทดสอบโหลดบริการ หรือกระทั่งให้บริการเว็บไซต์จำนวนถึง 500 เว็บไซต์ ทั้งหมดนี้ไม่จำกัดว่าเทคโนโลยีที่ใช้จะเป็นอะไร ไม่ว่าเซิร์ฟเวอร์จะเป็นวินโดวส์หรือลินุกซ์ก็สามารถใช้ทรัพยากรระดับนี้ได้ทั้งสิ้น
ไมโครซอฟท์เสนอโครงการ BizSpark ไม่ได้จำกัดความช่วยเหลือเพียงแค่เรื่องทรัพยากร แต่ธุรกิจในเครือข่ายยังสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือ เช่น BizSpark Technical Evangelist Office Hours ที่ไมโครซอฟท์พาผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ มาตอบคำถามให้กับธุรกิจในโครงการ BizSpark และยังมีโครงการการเทรนนิ่งอื่นๆ ตามโอกาส
การเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์ยังช่วยเปิดโอกาสในการด้านการประชาสัมพันธ์ ไมโครซอฟท์ช่วยเหลือธุรกิจในเครือเพือให้มีโอกาสเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้าง ในการประชาสัมพันธ์ และการเข้าถึงเครือข่ายของไมโครซอฟท์
สนใจสร้างธุรกิจใหม่กับ BizSpark หาข้อมูลได้ที่ www.facebook.com/bizspark twitter.com/bizspark และเว็บไซต์ www.microsoft.com/bizspark