รีวิว HP Spectre x360 โน้ตบุ๊กจอสัมผัสพับได้ 360 องศา ที่ได้ไมโครซอฟท์มาช่วยทำ

by mk
5 July 2015 - 08:15

เมื่อต้นปีนี้ ค่าย HP เปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ที่น่าสนใจตัวหนึ่งคือ HP Spectre x360 โน้ตบุ๊กจอสัมผัสแบบพับจอได้ จุดเด่นของโน้ตบุ๊กตัวนี้ไม่ได้อยู่ที่ฮาร์ดแวร์ แต่อยู่ที่กระบวนการพัฒนาซึ่ง HP ได้ "ไมโครซอฟท์" มาร่วมสร้างมันด้วย

สิ่งที่ไมโครซอฟท์เข้ามาช่วยทำคือส่วนของซอฟต์แวร์ ผลจึงออกมาเป็นว่า HP Spectre x360 เป็นโน้ตบุ๊กที่มีซอฟต์แวร์สมบูรณ์มากตัวหนึ่ง ทั้งในแง่แบตเตอรี่ ประสิทธิภาพการประมวลผล เสียงพัดลม ไปจนถึงระยะการสื่อสารผ่าน Wi-Fi (ข้อมูลจาก Engadget)

ในฐานะพันธมิตร ไมโครซอฟท์ช่วยทำตลาด HP Spectre x360 อย่างเต็มที่ในฐานะโน้ตบุ๊กไฮเอนด์ ทั้งโปรโมทผ่านหน้าเว็บ ทำคลิปโฆษณา รวมถึงนำมาแจกผู้ร่วมงานสัมมนา Build 2015 ทุกคนด้วย ผมได้ร่วมงานนี้และได้รับโน้ตบุ๊กมาตัวหนึ่งเช่นกัน หลังใช้งานมาประมาณ 2 เดือนก็ได้เวลารีวิวครับ

คลิปโฆษณา HP Spectre x360 ที่ไมโครซอฟท์ทำให้

สเปกเครื่อง

HP Spectre x360 แบ่งออกเป็น 2 รุ่นย่อยคือ Core i5 และ Core i7 ซึ่งรุ่นที่ได้มาเป็น Core i5 สเปกดังนี้

  • หน้าจอ 13.3" ความละเอียด 1920x1080 (มีรุ่น QHD ให้เลือก)
  • Core i5-5200U 2.2GHz
  • แรม 8GB DDR3
  • SSD 128GB
  • Windows 8.1
  • แบตเตอรี่อยู่ได้นานสุด 12.5 ชั่วโมง
  • เครื่องหนา 15.9 มิลลิเมตร หนัก 1.44 กิโลกรัม

รุ่น Core i5 ตั้งราคาเริ่มต้นที่ 899 ดอลลาร์ (HP Store) ถือว่าไม่แพงนักถ้าเทียบกับโน้ตบุ๊กสเปกไล่เลี่ยกันของคู่แข่ง ส่วนรุ่นท็อปสุดที่เป็น Core i7, จอ QHD, SSD 512GB ขายราคา 1,399 ดอลลาร์

ดีไซน์

ดูเผินๆ แล้ว HP Spectre x360 เป็นลูกผสมระหว่างรูปลักษณ์ภายนอกของ MacBook Air กับฟีเจอร์พับหน้าจอตั้งได้ของ Lenovo Yoga แต่เอาจริงๆ แล้วก็มีจุดที่เป็นเอกลักษณ์ของ HP อยู่เยอะพอสมควร

ดีไซน์ภายนอกของ HP Spectre x360 เป็นโลหะอะลูมิเนียมสีเงินทั้งตัว ดูเรียบๆ สะอาดสวยงาม (แนวทางการออกแบบลักษณะนี้ HP เริ่มใช้มาสักพักแล้ว เช่น HP EliteBook Folio หรือ HP Spectre x2)

จุดที่ต่างจากโน้ตบุ๊ก HP ตัวหลังๆ คงเป็นสีของคีย์บอร์ดที่ใช้สีเดียวกับตัวเครื่อง ดูกลืนกันไปหมด ไม่มีแยกคีย์บอร์ดเป็นสีเข้มเหมือนโน้ตบุ๊กของ HP ตัวอื่นๆ ส่วนหน้าจอก็ยังใช้กรอบสีดำเหมือนของเดิม

จุดที่ผมค่อนข้างประทับใจคือโลโก้ของ HP ที่ด้านหลังเครื่องครับ ช่วงหลัง HP เลิกใช้โลโก้วงกลมแล้วหันมาใช้ตัวหนังสือคำว่า Hewlett-Packard แทน พอมาใช้โลโก้แบบใหม่แล้วมันดูหรูหราไฮโซขึ้นมาก เรียบหรูดูดี อันนี้ต้องขอชม

ที่บานพับด้านนอกของตัวเครื่องก็มีคำว่า Hewlett-Packard แบบเดียวกัน

พอร์ตเชื่อมต่อ

รูปทรงของ Spectre x360 ยึดตามแนวทางโน้ตบุ๊กสายบางเบาที่ทำเป็นรูปลิ่ม (อิทธิพลจาก MacBook Air อย่างไม่ต้องสงสัย) ด้านขวามือมีปุ่ม Windows (ที่ไม่ค่อยได้ใช้), ปุ่มปรับระดับเสียง, mini DisplayPort, HDMI ขนาดเต็ม, USB 3.0 สองพอร์ต และช่องเสียบหูฟัง

ด้านซ้ายมือเป็นสายชาร์จ, แผงระบายความร้อน, USB 3.0 หนึ่งพอร์ต, ปุ่มเปิดปิดเครื่อง และช่องเสียบ SD ขนาดเต็ม

จุดที่น่าสนใจคือ HP ย้ายปุ่มเปิดปิดเครื่องมาไว้ด้านข้าง เพราะโน้ตบุ๊กตัวนี้สามารถใช้งานเป็นแท็บเล็ตได้ด้วย ผลคือการเปิดปิดเครื่องในโหมดแท็บเล็ตใช้ได้ง่าย แต่กลายเป็นว่าพอใช้เป็นโน้ตบุ๊กแล้วดูแปลกๆ ต่างไปจากโน้ตบุ๊กทั่วไปที่ปุ่มเปิดอยู่ใกล้ๆ กับคีย์บอร์ด

สิ่งอำนวยความสะดวกเล็กๆ น้อยๆ อย่างไฟแสดงสถานะการเปิดเครื่อง กับไฟแสดงสถานะการชาร์จก็มีมาให้เลย

คีย์บอร์ดและทัชแพด

มาดูคีย์บอร์ดกันบ้างครับ คีย์บอร์ดของ HP เป็นปุ่มขนาดค่อนข้างใหญ่ทีเดียว หน้าตาปุ่มดูแบนๆ แต่กลับพิมพ์ได้สะดวกกว่าที่คิดมาก จุดติอันเดียวที่ผมเจอคือโน้ตบุ๊กสายของ HP ไม่มีปุ่ม Home/End/Page Up/Page Down แยก ใช้วิธีรวมไปกับปุ่มลูกศรเลย ทำให้กดลำบากเพราะต้องกดปุ่ม Fn ควบไปด้วย

แต่ที่ใหญ่สะใจมากคือทัชแพดที่ใหญ่เกินโน้ตบุ๊กฝั่งพีซีทั่วไปมาก ทัชแพดเป็นแบบคลิกลงไปได้ทั้งอัน (อิทธิพลจากแอปเปิลเช่นกัน) โดยทั่วไปใช้งานได้ดี แต่บางครั้งผมเจอปัญหาว่าเราคลิกที่ทัชแพด แต่ระบบมองเป็นการลากแทน ทำให้เวลาคลิกบนหน้าเว็บเพจกลายเป็นการปรับขนาดฟอนต์ไปซะอย่างนั้น (ด้วยสไตล์การใช้งานแล้ว ผมไม่เจอปัญหานี้บนโน้ตบุ๊กเครื่องอื่นที่ใช้อยู่)

คีย์บอร์ดของ Spectre x360 ใช้แนวทางผนวกปุ่ม F1-F12 กับปุ่มฟังก์ชันฮาร์ดแวร์ ค่าดีฟอลต์คือต้องกดปุ่ม Fn ผสมกับ F1 ถึงถือว่ากด F1 แต่ตรงนี้สามารถตั้งค่าใน BIOS ได้ว่าจะเอาแบบไหน

ตรงปุ่ม F5 จะเห็นไฟสว่างขึ้นมาเพื่อบอกว่าปุ่มนี้กดเปิดไฟคีย์บอร์ด เราไม่สามารถปิดไฟตรง F5 ได้นะครับ ต้องปล่อยให้มันสว่างแบบนี้ไปตลอด

ไฟ backlight ของคีย์บอร์ด มีความสว่างระดับเดียว ปรับเพิ่มไม่ได้

การใช้งานเป็นแท็บเล็ต

HP Spectre x360 สามารถพับจอได้ 360 องศาตามชื่อเครื่อง ทำให้มันแปลงกายเป็นแท็บเล็ตได้แบบเดียวกับโน้ตบุ๊กสาย Yoga ของค่าย Lenovo

แต่เนื่องจากตัวโน้ตบุ๊กออกแบบมาเป็นรูปลิ่ม ทำให้เวลาพับจอแล้วมันจะไม่แนบสนิท 100% ยังมีรอยเผยออยู่บ้าง ซึ่งก็ไม่ค่อยมีผลต่อการใช้งานมากนัก (แต่เห็นแล้วขัดใจ)

การที่มันเป็นโน้ตบุ๊กจอ 13.3" ทำให้เวลาใช้เป็นแท็บเล็ตแล้วจะรู้สึกว่า "มันใหญ่มาก" อีกทั้งจอสัดส่วน 16:9 ไม่เหมาะสมกับการเป็นแท็บเล็ตในแนวตั้งเท่าไรนัก, น้ำหนัก 1.44 กิโลกรัมก็ถือว่าหนักทีเดียวสำหรับแท็บเล็ต และระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 ก็ยังทำอินเทอร์เฟซสำหรับแท็บเล็ตได้ไม่ดีนัก (ถ้าเทียบกับระบบปฏิบัติการจอสัมผัสตั้งแต่ต้นอย่าง iOS/Android)

ผลคือ Spectre x360 คงไม่ถือเป็นแท็บเล็ตที่สมบูรณ์แบบในตัว แต่มีไว้ "เผื่อใช้เป็นแท็บเล็ต" เมื่อเราต้องการอ่านเอกสารเป็นบางโอกาสมากกว่า

การใช้งานเป็นโน้ตบุ๊ก

HP Spectre x360 อาจไม่เหมาะกับการใช้เป็นแท็บเล็ต แต่พอเอามาใช้เป็นโน้ตบุ๊กธรรมดาแล้ว มันกลับทำได้ดีมากครับ เพราะขนาดหน้าจอกำลังดี 13.3" ไม่เล็กจนเกินไป น้ำหนัก 1.44 กิโลกรัมสำหรับโน้ตบุ๊กถือว่าโอเครับได้ คีย์บอร์ดดี ทัชแพดใหญ่ สเปกแรง ทำงานลื่นสบาย เงียบ เย็น รวมแล้วแทบไม่มีที่ติเลยในฐานะโน้ตบุ๊ก

หน้าจอที่หมุนได้ 360 องศาไม่ได้มีไว้พับเพื่อเป็นแท็บเล็ตอย่างเดียว เราสามารถดัดท่าได้หลายแบบเหมือนกับ Lenovo Yoga (เช่น Tent Mode ที่ไม่ค่อยมีใครใช้) ท่าที่ผมค่อนข้างชอบคือพลิกจอไปเกือบครบรอบแต่ยังไม่พับเป็นแท็บเล็ต เอาไว้ดูหนังได้สะดวกดี นอกจากนี้บานพับของ Spectre ถือว่าแข็งแรงมากและเป็นโลหะชิ้นเดียว ดูแล้วไม่น่าจะพังง่ายๆ ในระยะยาว

ประเด็นเรื่องแบตเตอรี่ที่ HP คุยไว้เยอะก็ถือว่าทำได้ตามที่สัญญาไว้ ผมไม่ได้ลองทดสอบวัดแบตเตอรี่จริงจัง แต่ก็รู้สึกได้ว่านานกว่าโน้ตบุ๊กตัวอื่นๆ ที่มีอยู่มาก สำหรับผู้สนใจอาจลองดูการทดสอบของเว็บไซต์ต่างประเทศ ซึ่ง HP ทำคะแนนได้ดีมาก เช่น Engadget ทดสอบแล้วอยู่ได้นาน 11:34 ชั่วโมง ชนะ MacBook Pro 2015 และเป็นรอง MacBook Air เพียงเล็กน้อย, CNET ทดสอบได้ 12 ชั่วโมง

ซอฟต์แวร์ของ HP Spectre x360 เป็น Windows 8.1 รุ่น 64 บิต โดยมี bloatware ของ HP แถมมานิดหน่อย เช่น Netflix หรือซอฟต์แวร์ของ HP เอง โดยรวมแล้วถือว่าไม่เยอะนัก พอรับได้ (สำหรับคนที่อยากได้เครื่องแบบคลีนจริงๆ ถ้าอยู่ในสหรัฐก็สามารถสั่งซื้อ Signature Edition รุ่นสะอาดใสบริสุทธิ์ได้จากเว็บ Microsoft Store)

สรุป

โดยส่วนตัวแล้วผมไม่เคยใช้โน้ตบุ๊กจาก HP มาก่อน และเคยได้ยินชื่อเสียงสมัยปัญหา heat cycle มาเยอะ ยอมรับว่าตอนแรกๆ ที่ได้มาก็แอบหลอนเล็กน้อย แต่ผลสุดท้ายคือ HP Spectre x360 ทำออกมาได้ดีกว่าที่คาดไว้มาก ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊กสายพีซีที่สมบูรณ์มากๆ ตัวหนึ่งในท้องตลาด (จุดติที่สำคัญมีเรื่องปุ่ม Home/End อย่างเดียว พิมพ์แล้วขัดใจทุกครั้ง)

ส่วนฟีเจอร์ด้านจอสัมผัสและการปรับเป็นแท็บเล็ตก็อย่างที่เขียนไปครับว่า เป็นฟีเจอร์ที่มีไว้ก็ดี แต่คงไม่ได้ใช้บ่อยนักด้วยข้อจำกัดด้านขนาดและน้ำหนักของตัวเครื่อง ถือเป็นฟีเจอร์เสริมความสามารถที่อาจไม่เหมาะสำหรับทุกคน

สำหรับคนที่คิดจะซื้ออุปกรณ์ 2-in-1 ที่เป็นได้ทั้งโน้ตบุ๊กและแท็บเล็ต ถ้าเน้นการพิมพ์เยอะๆ ใช้เป็นโน้ตบุ๊กมากกว่าแท็บเล็ต ใช้วางบนตักด้วย ผมประทับใจ HP Spectre x360 ตัวนี้มากกว่า Surface Pro 3 ครับ (แต่ถ้าเน้นใช้เป็นแท็บเล็ตก็อีกเรื่องนึง)

ข้อดี

  • เป็นโน้ตบุ๊กที่สมบูรณ์มากตัวหนึ่ง
  • สเปกแรง เร็ว
  • พอร์ตเชื่อมต่อครบถ้วน เยอะแยะมากมาย
  • แบตทน ไม่ร้อน เงียบ
  • คีย์บอร์ดดี ทัชแพดใหญ่
  • งานประกอบดี พรีเมียม สวยงาม
  • จอภาพสวย จอสัมผัส พับได้ทุกมุม 360 องศา

ข้อเสีย

  • ใหญ่และหนักไปหน่อยสำหรับการใช้เป็นแท็บเล็ต
  • จอสัดส่วน 16:9 มีปัญหากับการใช้ในแนวตั้ง
  • สตอเรจเป็น SSD ความจุเริ่มต้นที่ 128GB อาจไม่พอใช้งานสำหรับบางคน
  • ไม่มีปุ่ม Home/End แยก (ปัญหาส่วนตัว)

หมายเหตุ: เท่าที่ดูจาก HP Store Thailand ผมเข้าใจว่า HP ประเทศไทยไม่ได้เอา Spectre x360 เข้ามาขายในบ้านเรา แต่มี Pavilion x360 ที่รูปทรงแบบเดียวกันมาขายแทน โดยที่สเปกและราคาต่ำลงมาอีกพอสมควร

Blognone Jobs Premium