ล่าสุด Facebook วิดีโอบน Facebook ถูกรับชมกว่า 4 พันล้านครั้งต่อวัน และกำลังจะขายโฆษณาโดยแบ่งรายได้กับผู้ใช้ที่อัพโหลด ในขณะที่ระบบตรวจจับลิขสิทธิ์ยังไม่มีประสิทธิภาพมากพอ และไม่สามารถค้นหาวิดีโอที่อาจถูกละเมิดลิขสิทธิ์ได้ จึงเกิดปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ลักษณะ freebooting ขึ้น เป็นการนำเอาเนื้อหาของผู้อื่นที่เผยแพร่ในที่ๆ หนึ่ง ไปเผยแพร่ที่อื่นในนามของผู้เผยแพร่แทนที่จะเป็นในนามของเจ้าของเนื้อหา ในกรณีนี้คือ การนำเอาวิดีโอของผู้อื่นบน YouTube มาอัพโหลดใหม่ลงบน Facebook ของตัวเอง
Destin Sandlin เจ้าของช่องรายการ SmarterEveryDay และ Grant Thompson เจ้าของช่องรายการ The King of Random ช่องรายการดังบน YouTube ได้ออกมาต่อต้านการกระทำ freebooting บน Facebook และต้องการให้ Facebook มีมาตรการต่อผู้ใช้ที่ทำ freebooting ที่จริงจังกว่านี้ เพื่อเป็นตัวแทนให้กับเจ้าของช่องรายการที่ผลิตรายการเองบน YouTube และได้รับผลกระทบจาก freebooting ให้สามารถดำเนินการผลิตรายการต่อไปได้จากเงินค่าโฆษณา
ยอดการชมวิดีโอเดียวกันบน Facebook สูงกว่าบน YouTube มากกว่าหลายเท่าตัว ตัวอย่างเช่น วิดีโอแสดงการสักลายลงบนผิวหนังแบบสโลโมชันของ ช่อง SmarterEveryDay มียอดชมมากกว่า 20 ล้านครั้ง ในเวลา 9 เดือน แต่ถูกนำไปลบเครดิตลายน้ำและอัพโหลดลง Facebook มียอดชมมากกว่า 18 ล้านครั้ง ใน 2 วัน ซึ่ง Facebook ได้รายได้จากการโฆษณาจากจำนวนครั้งที่วิดีโอถูกรับชม แต่เจ้าของเนื้อหาไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆ และเมื่อพวกเขาแจ้งไปยังทีมงาน Facebook ให้ลบวิดีโอ มักพบว่าทางทีมงานใช้เวลาถึง 2 วันเพื่อดำเนินการ
Facebook ต้องการที่จะเป็นผู้ให้บริการวิดีโอ จึงสร้างแพลตฟอร์มขึ้นมา และเปลี่ยนแปลงส่วนแสดงผลการแชร์วิดีโอที่มาจาก YouTube ให้เล็กลง ส่วนวิดีโอที่อัพโหลดบน Facebook โดยตรงจะแสดงภาพตัวอย่างเต็มพื้นที่โพสต์เช่นเดียวกับรูปภาพ ซึ่งการแสดงโฆษณาของ Facebook ในตอนนี้แสดงเพียงบริเวณรอบๆ วิดีโอในเบราว์เซอร์บนเดสก์ท็อป ซึ่งต่างจากของ YouTube ที่การโฆษณาเหมือนเป็นการขัดจังหวะในการชมวิดีโอ ผู้ชมหลายๆ คนจึงมีความรู้สึกอยากที่จะชมวิดีโอที่อยู่บน Facebook มากกว่า Sandlin แสดงความเห็นว่า Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่ไม่เป็นมิตรกับผู้ผลิตเนื้อหา และได้ทำวิดีโออธิบาย freebooting และขอให้ผู้ใช้รายงานวิดีโอที่ถูก freebooting แก่เจ้าของเนื้อหาด้วย
ที่มา – Slate