เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม ทาง i-mobile ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนสัญชาติไทยเพิ่งร่วมมือกับกูเกิลเปิดตัว i-mobile IQ II สมาร์ทโฟนที่เรียกได้ว่าเป็น Android One ตัวแรกของประเทศไทย พร้อมวางขายไปแล้วด้วยราคาสวยๆ ที่ 4,444 บาท
เมื่อครั้งงานเปิดตัว ทาง Blognone เคยลองจับเจ้า IQ II คราวนี้เป็นการรีวิวจากการใช้งานจริงร่วมสองสัปดาห์ว่าสมาร์ทโฟน Android One ตัวแรกของประเทศไทยนี้ ทำผลงานได้ดีสมกับที่เป็นสมาร์ทโฟนจากโครงการเพื่อคนอีกพันล้านคนหรือไม่
ก่อนจะเริ่มรีวิวมาดูสเปคสำคัญของ IQ II กันก่อน ดังนี้
* หน้าจอขนาด 5" ความละเอียด 1280x720 พิกเซล
* รัน Android 5.1.1 ไร้การปรุงแต่งใดๆ
* ชิปประมวลผล Snapdragon 410 ควอดคอร์ความถี่ 1.2GHz
* หน่วยความจำภายใน 16GB (ใส่ microSD ได้), แรม 1GB
* รองรับสองซิม ใช้งาน 3G ในไทยทุกเครือข่าย (แต่ไม่มี 900MHz) รวมถึง 4G ที่ย่าน 1800/2100MHz
* กล้องหลัง 8 เมกะพิกเซล, กล้องหน้า 2 เมกะพิกเซล
* ตัวเครื่องบาง 9.3 มม. แบตเตอรี่จุ 2500 mAh
เกริ่นมาพอสมควรแล้ว เรามาดูตัวเครื่องกันก่อนเลยครับ
เปิดกล่องมาแว่บแรกจะพบกับเครื่อง IQ II นอนติดสติ๊กเกอร์ขนาดใหญ่ทับหน้าจอไว้ (ดูได้จากลองจับ) แว่บแรกเห็นของรุ่นนี้ต้องบอกว่าออกแบบมาค่อนข้างเรียบง่าย ด้านหน้าโล่งมากเนื่องจากใช้ปุ่มเมนูบนหน้าจอตามแนวทางของ stock Android ที่ไม่มีการปรุงแต่งอินเทอร์เฟซใดๆ
หน้าจอของรุ่นนี้สว่างมาก เมื่อเทียบกับค่าตัวแล้วจัดว่าเป็นรุ่นราคาถูกที่ใช้หน้าจอคุณภาพดีตัวนึงเลยทีเดียว
อุปกรณ์เสริมของ IQ II เรียกได้ว่าให้มาอย่างครบครัน แม้ว่าจะราคาไม่แพงนัก นอกจากอุปกรณ์เสริมคู่ตัวอย่างแท่นชาร์จ สายชาร์จแบบสายแบนกันพัน และหูฟัง (ที่ Nexus บางรุ่นยังไม่แถมมาให้) ยังมีของแถมอื่นๆ อย่างเคสใส TPU คู่ตัว และแผ่นฟิล์มกันรอยขนาดพอดีหน้าจอมาให้ด้วย (ในรูปคือติดไปแล้ว)
ตัวเครื่อง IQ II ด้านหน้าแทบไม่มีอะไรเลยนอกจากพื้นที่ด้านบนเหนือหน้าจอสำหรับวางลำโพงสนทนา (หน้าตาเหมือน Nexus 5 มากๆ) และกล้องหน้าที่เยื้องไปทางขวาเล็กน้อย ไฟแจ้งเตือนวางไว้ด้านซ้ายของลำโพง
พื้นที่ใต้หน้าจอไม่มีอะไรเลย น่าจะเป็นรุ่นแรกของ i-mobile ที่ใช้ปุ่มบนหน้าจอด้วย
พลิกมาด้านข้างตัวเครื่อง จะเห็นขอบโลหะสองเส้น ปุ่มทั้งหมดของตัวเครื่องถูกวางไว้ด้านขวามือ เรียงเป็นปุ่มเปิดเครื่อง และปุ่มปรับเสียง วางในตำแหน่งที่ใช้งานได้ง่ายดี ติดที่ตัวปุ่มตื้นไปหน่อย ต้องใช้ไปซักพักถึงจะชิน
ด้านบนมีพอร์ตหูฟัง 3.5 และไมโครโฟนสำหรับอัดวิดีโอ/ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างตัวเครื่องวางพอร์ต micro USB มาตรฐาน ขนาบข้างด้วยไมโครโฟนสนทนา (ขวา) และลำโพงโมโน (ซ้าย) เสียงดังพอสมควร แต่คุณภาพไม่ดีนัก แม้แต่การเปิดลำโพงเพื่อสนทนายังไม่ชัดเจนพอจะใช้งานได้ แนะนำให้ใส่หูฟังในทุกกรณี
ในทางกลับกัน ตัวไมโครโฟนสนทนา และลำโพงสนทนาแบบแนบหูคุณภาพดีมากครับ
พลิกมาด้านหลังตัวเครื่องจะพบกับกล้องขนาดใหญ่ แฟลชใต้กล้อง โลโก้ของทั้ง i-mobile และ Android One ตัวเครื่องที่ได้มาเป็นสีน้ำตาลผิวด้าน ถือได้สะดวกมือดี ทำเลอะยากมาก
ดูภายนอกหมดแล้วก็ถึงเวลาแกะดูเครื่องใน เปิดมาจะพบกับแบตเตอรี่ขนาด 2500 mAh พร้อมถาดใส่ซิมสองตำแหน่ง ขวาสุดเป็นช่องสำหรับเสียบ microSD ซึ่งต้องเล็งช่องให้แม่นเสียหน่อย
วิธีการแกะฝาหลังทำได้โดยการแงะจากพอร์ต micro USB ด้านล่างตัวเครื่องแบบไม่ต้องกลัวฝาหลังหัก ระหว่างปิดกลับอาจต้องกดให้ทั่วๆ ทั้งขอบเสียหน่อยเหมือนตระกูล Galaxy Note รุ่นเก่าๆ
การใช้งาน IQ II ด้วยมือเดียวทำได้สะดวกดีตามยุคนี้ที่สมาร์ทโฟนหน้าจอ 5" กลายเป็นมาตรฐานไปแล้ว ตัวเครื่องเป็นพลาสติกผิวด้าน แม้จะไม่หรูหราเท่ากระจกหรือโลหะ แต่ก็ทำให้ไม่ลื่นหลุดจากมือได้ง่ายๆ
ได้มาแล้วต้องลองให้ครบ! เลยจับใส่เคสใสที่ให้มาพร้อมกับตัวเครื่องซะ ตัวเคสทำมาพอดีกับเครื่อง แต่ไม่ถึงกับพอดีเป๊ะ จะมีอาการหลุดบ้างเวลาหยิบมาจากกระเป๋า
ตัวเคสนอกจากจะหนาโดยธรรมชาติของ TPU แล้ว ยังล็อกตัวเครื่องจากด้านบนอีกที ทำให้ยิ่งหนาขึ้นขึ้นอีกไป
นอกนั้นถือว่าทำผลงานมาได้ดี เจาะช่องสำหรับกล้อง ลำโพง และพอร์ตต่างๆ ให้เรียบร้อย ในแง่ความสวยงามต้องบอกว่าสอบตก แต่ความคงทนชนะเลิศ ถึงอย่างงั้นก็รู้สึกว่ามันเหลืองไวไปหน่อย (ใช้ยังไม่ถึงเดือน)
ด้วยความที่เป็น Android One ทำให้เจ้า IQ II มาพร้อมกับ Android 5.1.1 Lollipop ที่เรียกได้ว่าใหม่สุดในตอนนี้ (ไม่นับ Marshmallow ที่ยังไม่ปล่อยตัวจริง) การใช้งานทั่วไปทำได้ลื่นไหลไม่แพ้รุ่นราคาแพงๆ เลย
แอพที่ติดมาในเครื่องจะมีบริการของกูเกิลเป็นโขยง โดยมีแอพพรีโหลดมาเพียงสามตัวคือ Instagram, LINE และแอพสำหรับติดตามบริการของ i-mobile ในชื่อ IQII Bonus เท่านั้น
ตัวแอพ IQII Bonus มีไว้ติดตามสิทธิพิเศษ และสอบถามปัญหา รวมถึงติดตามเครื่องยามส่งซ่อม ซึ่งต้องสมัครสมาชิกเสียก่อนจึงจะใช้สิทธิดังกล่าวได้ และจะได้ประกันยาวนาน 2 ปีอีกด้วย
หน่วยความจำของรุ่นนี้ให้มาถึง 16GB มีเหลือใช้งานจริงราว 12GB ด้วยกัน แน่นอนว่าสามารถเพิ่มความจุได้เองอีก ส่วนแรมแม้จะให้มาน้อยไปนิดหน่อยที่ 1GB แต่ก็พอใช้งานทั่วไปได้ไม่มีปัญหา
ตัว IQ II ถึงจะรองรับสองซิม แต่ก็ไม่สามารถใช้โทรออกสลับกันได้เหมือนอย่างที่สมาร์ทโฟนหลายรุ่นทำกัน ต้องไปปรับค่ามาตรฐานเพื่อเลือกว่าจะใช้ซิมไหนโทร ซิมไหนส่งข้อความ และซิมไหนเล่นอินเทอร์เน็ตเสียก่อน แต่การรับสายสามารถทำได้ทั้งสองซิมนะ
ตามสเปคในกระดาษ IQ II ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 410 รหัส MSM8916 ซีพียู ARM Cortex-A53 ควอดคอร์ความถี่ 1.2GHz รองรับ 64 บิต พร้อมกับจีพียู Adreno 306 จับไปรันผลการทดสอบต่างๆ พบว่าประสิทธิภาพไม่สูงนัก โดยเฉพาะในส่วนของจีพียู ใช้เล่นเกมทั่วไปสบายๆ แต่ถ้าเกมสามมิติหนักๆ จะกระตุกอย่างเห็นได้ชัด
ทว่าการที่ประสิทธิภาพไม่สูงนักกลับทำให้ได้ข้อดีในมุมกลับคือตัวเครื่องแทบไม่ร้อนเลย และใช้งานได้ยาวนานสำหรับแบตเตอรี่ที่ให้มา เปิดใช้งาน 3G ทั้งวันอยู่ได้สบายๆ
ว่าด้วยเครื่องของกล้อง IQ II นับว่าเป็นรุ่นที่กล้องหลังคุณภาพไม่ดีนัก แม้จะให้ความละเอียดมาถึง 8 เมกะพิกเซล แต่ในสภาพแสงมากก็ยังมีความเร็วชัตเตอร์ค่อนข้างช้า ร่วมกับแอพ Google Camera ที่ฟีเจอร์น้อยมากๆ ปรับแต่งแทบไม่ได้ จะบอกว่ากล้องไม่ใช่จุดเด่นของรุ่นนี้ก็ว่าได้
จะถ่ายให้ภาพออกมาสวยได้ ต้องใช้แสงเยอะมากๆ (เช่นภาพปลาดิบ) แต่ก็ยังสีซีดกว่าความเป็นจริงพอสมควร
ไม่แนะนำให้ใช้ถ่ายตอนกลางคืนครับ (ภาพบนปิดแฟลช ภาพล่างเปิดแฟลช)
IQ II จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนคุ้มค่าตัวหนึ่งเมื่อเทียบกับราคา ตัวเครื่องออกแบบมากำลังพอดี ร่วมกับซอฟต์แวร์ที่ทำมาลื่นไหล แต่คนที่ไม่เคยใช้ stock Android มาก่อนอาจต้องปรับตัวเนื่องจากฟีเจอร์จะน้อยกว่า Android ทั่วไปในท้องตลาดพอสมควร
ประสิทธิภาพตัวเครื่องโดยรวม ไม่นับกล้องจัดว่าดีมาก แม้ว่าจะมีแรมเพียง 1GB ร่วมกับจีพียูที่ไม่แรงนัก ใครคิดจะซื้อมาถ่ายรูป เล่นเกม ให้ตัดรุ่นนี้ทิ้งไปได้เลย แต่ถ้าใช้งานอินเทอร์เน็ตเยอะๆ อยากได้สมาร์ทโฟนใช้ง่ายๆ ลื่นๆ นับเป็นรุ่นที่ดีมากรุ่นหนึ่งเลย
และแม้ว่าจะเป็น Android One ตัวแรกของประเทศไทย แต่สิทธิที่ได้จากการเป็นสมาร์ทโฟนในโครงการนี้ในประเทศไทยจะมีเพียงเรื่องของอัพเดตที่ได้จากกูเกิลโดยตรง การันตีได้ว่าเร็วแน่นอน ส่วนอื่นๆ อย่างการอัพเดตแอพฟรี ไม่มีนะจ๊ะ :<
เข้าใจว่ามีโปรโมชันอินเทอร์เน็ตร่วมกับทรูมูฟด้วย ตรงนี้ใครมีข้อมูลมาเพิ่มเติมหน่อยครับ