ด้วยความที่ตลาดสมาร์ทโฟนแข่งขันกันมากขึ้นเรื่อยๆ ซัมซุงก็ย่อมต้องพัฒนาและปรับปรุงสมาร์ทโฟนของตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ ให้สามารถขึ้นมาแข่งขันในแนวหน้าได้อย่างไม่เคอะเขินอยู่ตลอดเวลา และสมาร์ทโฟนตระกูล Galaxy Note ที่ได้เดินทางมาถึงรุ่นที่ 5 ทางซัมซุงก็ได้ปรับปรุงและพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ของ Galaxy Note ขึ้นมาเรื่อยๆ จนได้มาเป็น 5 ฟีเจอร์เด่นๆ ของ Galaxy Note รุ่นที่ 5 นี้
ปีนี้ซัมซุงปรับปรุงดีไซน์ของสมาร์ทโฟนแบบยกเครื่องใหม่หมดตั้งแต่ต้นปี ซึ่งแน่นอนว่ายืนพื้นมายังรุ่นปลายปีอย่าง Galaxy Note 5 ด้วย การออกแบบโดยใช้วัสดุโลหะแบบมันวาว ทำให้ Galaxy Note 5 มีความหรูหราและสวยงามมากกว่ารุ่นก่อนๆ ค่อนข้างมาก ขณะเดียวกันถึงแม้ขนาดหน้าจอจะใหญ่ถึง 5.7 นิ้ว แต่ด้วยการออกแบบขอบของตัวเครื่องให้โค้งมนและบาง ทำให้ Galaxy Note 5 สามารถถือและใช้งานมือเดียวได้สบายๆ
เมื่อต้นปีซัมซุงได้เปิดตัว Galaxy S6 ที่ได้รับการยอมรับจาก DisplayMate บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบการแสดงผลของหน้าจอว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอดีที่สุด ครึ่งปีหลังซัมซุงได้สานต่อความสำเร็จนั้นด้วย Galaxy Note 5 ที่ได้รับการยอมรับจาก DisplayMate เช่นกันว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีการแสดงผลหน้าจอดีที่สุดในตอนนี้
หน้าจอ Galaxy Note 5 ซึ่งเป็นหน้าจอแบบ Super AMOLED และได้รับการยอมรับจาก DisplayMate ว่าเป็นหน้าจอที่ดีที่สุดในแทบจะทุกประเภทของการทดสอบ เช่น แสดงความถูกต้องของสีดีที่สุด และมีความสว่างสำหรับสู้แสงแดดมากที่สุด ขณะเดียวกันก็สามารถปรับให้มืดได้มากที่สุด สามารถใช้งานในที่มืดได้โดยไม่แสบตา
จุดเด่นและจุดขาย ของ Galaxy Note ที่มีเหนือ Galaxy รุ่นอื่นๆ คือ S Pen ซึ่งใน Galaxy Note 5 นี้ ซัมซุงได้ปรับปรุงลูกเล่นและเพิ่มฟีเจอร์ให้ S Pen ให้ด้วยเช่นกัน
ฟีเจอร์ Air Command ถูกปรับปรุงหน้าเมนูใหม่ให้เรียบขึ้น พร้อม 3 ฟังก์ชันหลักๆ คือ Action memo สำหรับจดบันทึกโน้ต Smart Select จับภาพหน้าจอหรือบางส่วนของหน้าจอ และสุดท้ายคือ Screen Write เขียนโน้ตลงบนหน้าจอ โดยซัมซุงเพิ่มความสามารถ Scroll Capture หรือการเก็บภาพหน้าจอได้หลายๆ หน้าและเซฟเป็นภาพเดียวมาด้วย
อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาคือ Screen-off memo ที่สามารถเขียนโน้ตต่างๆ ลงบนหน้าจอได้แม้หน้าจอจะล็อคอยู่ก็ตาม เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้เวลาต้องการจะจดโน้ตแบบทันที เพียงแค่กด S Pen ออกมาและเขียนลงบนหน้าจอเท่านั้น
Galaxy Note 5 มาพร้อมกับกล้องหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อม OIS และ HDR แบบเรียลไทม์ และด้วย f แค่ 1.9 ช่วยการถ่ายภาพกลางคืนด้วย Galaxy Note 5 ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป
ขณะที่กล้องหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มีความกว้างถึง 120 องศา ตอบโจทย์ผู้ที่ชอบเซลฟี่ พร้อมทั้งฟีเจอร์ HDR แบบเรียลไทม์เช่นกัน
ด้านวิดีโอ Galaxy Note 5 มีฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้สามารถรวมวิดีโอหลายๆ วิดีโอเข้าด้วยกันและแบ่งออกเป็นหลายๆ ช่องในลักษณะเดียวกับภาพนิ่งได้โดยไม่ต้องออกจากแอพกล้องเลย
แบตเตอรี่กลายเป็นปัจจัยสำคัญในยุคที่สมาร์ทโฟนกลายเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ ใน Galaxy Note 5 นอกจากผู้ใช้จะไม่ต้องรอนานกับการชาร์จผ่านสายด้วยเทคโนโลยี AFC (Adaptive Fast Charging) แล้ว ซัมซุงยังปรับปรุงเทคโนโลยีในการชาร์จไร้สายให้รวดเร็วขึ้น ซึ่งได้รับการรับรองตามมาตรฐาน WPC (Wireless Power Consortium) และ PMA (Power Matter Alliance) ทำให้ผู้ใช้สามารถชาร์จ Galaxy Note 5 ผ่านแท่นชาร์จไร้สายรุ่นใหม่ โดยใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง ซึ่งรวดเร็วกว่าเดิมถึง 1 ชั่วโมงด้วยกัน