เพิ่งเปิดตัวในงาน IFA 2015 ที่ผ่านมา เวลาผ่านไป 1 เดือน โซนี่ไทยก็ได้นำมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยรอบนี้มาพร้อมกันทั้งหมดสามรุ่น คือ Xperia Z5, Xperia Z5 Compact และ Xperia Z5 Premium ซึ่งวันนี้ผมก็ได้ไปลองสัมผัสตัวจริงมาแล้ว เลยเอามาเขียนบอกต่อกันดังนี้ครับ
ก่อนเริ่ม Xperia Z5 จะเริ่มเปิดจองสินค้าวันที่ 1-11 ตุลาคมนี้ ที่ร้าน Sony Store และภายในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ในราคา 24,990 บาท ส่วน Xperia Z5 Compact จะเริ่มเปิดจองสินค้าวันที่ 1-4 ตุลาคม ภายในงาน Thailand Mobile Expo 2015 ที่เดียว ในราคา 21,990 บาท ทั้งคู่จะได้รับสินค้าในช่วงกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป ส่วน Xperia Z5 Premium จะเริ่มวางจำหน่ายที่ตัวแทนจำหน่ายของโซนี่ไทยภายในเดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไปครับ
น้องเล็กสุดของตระกูล Xperia Z5 ตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาดเล็กที่ 4.6 นิ้ว ความละเอียด 1280*720 เป็นรุ่นขนาดเล็กสุดสำหรับจับตลาดวัยรุ่นที่อยากได้ Flagship ที่มีขนาดใหญ่ไม่มากนัก
ด้านหน้าประกอบไปด้วยลำโพง S-Force Surround ไฟ Notification Led (อยู่บนซ้าย) กล้องหน้า เซ็นเซอร์รับแสง และจอแสดงผล 4.6 นิ้ว
ฝาหลังเป็น "พลาสติกผิวด้าน" เป็นที่อยู่ของกล้อง 23 ล้านพิกเซลพร้อมเลนส์ G และ NFC บริเวณกลางเครื่อง
ด้านบนเป็นพอร์ต 3.5mm สำหรับเสียบหูฟังพร้อมไมโครโฟนตัวที่ 2
ส่วนด้านล่างเป็นพอร์ต Micro USB และไมโครโฟนหลัก
ข้างซ้ายเป็นที่อยู่ของถาดซิมและ microSD (เป็นถาดเดียวกัน) ที่ร้อยสายห้อยมือถือ (มันกลับมาแล้ว!... TwTง) และมีการสลักคำว่า Xperia อยู่ด้านบน
ข้างขวา เป็นที่อยู่ของปุ่ม Power ซึ่งรอบนี้แบนราบไปกับตัวเครื่อง กดแล้วจะบุ๋มลงไปในขอบเครื่องเล็กน้อย พร้อมกันนี้ปุ่มนี้ยังทำหน้าที่เป็นตัวอ่านลายนิ้วมือในตัวด้วย ถัดลงมาเป็น Volume Rocker และปุ่มชัตเตอร์ของกล้อง
สำหรับตัวนี้หรือตัวปกติ ก็จะขยับจากตลาดวัยรุ่นขึ้นมาจับตลาด Flagship ทั่วๆ ไป มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมความละเอียด Full HD และรูปลักษณ์เครื่องที่ต่างไปเล็กน้อย
ด้านหน้าประกอบไปด้วยเป็นลำโพง S-Force Surround ไฟ Notification Led (อยู่บนซ้าย) กล้องหน้า เซ็นเซอร์รับแสง และจอแสดงผล 5.2 นิ้ว
ฝาหลังเป็น "กระจกผิวด้าน" (ต่างจาก Z5 Compact ที่เป็นพลาสติก แต่ผิวสัมผัสเหมือนกันเป๊ะ) เป็นที่อยู่ของกล้อง 23 ล้านพิกเซลพร้อมเลนส์ G และ NFC บริเวณกลางเครื่อง
ด้านบนเป็นพอร์ต 3.5mm สำหรับเสียบหูฟังพร้อมไมโครโฟนตัวที่ 2
ส่วนด้านล่างเป็นพอร์ต Micro USB ไมโครโฟนหลัก และที่ร้อยสายห้อยโทรศัพท์
ข้างซ้ายเป็นที่อยู่ของถาดซิมและ microSD (เป็นถาดเดียวกัน) และสลักคำว่า Xperia อยู่ด้านล่าง
ข้างขวา เป็นที่อยู่ของปุ่ม Power ที่ทำหน้าที่เป็นตัวอ่านลายนิ้วมือในตัว ถัดลงมาเป็น Volume Rocker และปุ่มชัตเตอร์ของกล้อง ที่ขยับลงมาใกล้ๆ กันพอสมควร คนที่ชิน Xperia Z รุ่นก่อนหน้าที่เป็นปุ่มกลมมา อาจจะงงเล็กน้อย
สำหรับตัว Premium ก็จะขยับมาจับตลาด Flagship Premium หรือตลาดเดียวกับ iPhone โดยเฉพาะ มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว พร้อมความละเอียด 4K ที่ยามปกติมันจะเรนเดอร์ที่ความละเอียด Full HD ในขณะที่คอนเทนต์ถ้ามาเป็น 4K ก็จะขยับขึ้นไปใช้ความละเอียด 4K ให้โดยอัตโนมัติ (จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ แอปฯ YouTube มือถือ ก็สั่งเปิด 4K ได้!) รูปลักษณ์เครื่องไม่ต่างจาก Xperia Z5 ตัวปกติ แต่เปลี่ยนไปใช้วัสดุแบบมันเงาแทน
ด้านหน้าประกอบไปด้วยเป็นลำโพง S-Force Surround ไฟ Notification Led (อยู่บนซ้าย) กล้องหน้า เซ็นเซอร์รับแสง และจอแสดงผล 5.5 นิ้ว
ฝาหลังเป็น "กระจกผิวมัน" เป็นที่อยู่ของกล้อง 23 ล้านพิกเซลพร้อมเลนส์ G และ NFC บริเวณกลางเครื่อง
สีทอง
สีเงิน หรือ Chrome (สีนี้ใช้เป็นกระจกเงาได้เลยนะครับ ฮา)
สีดำ หรือ Black
ด้านบนเป็นพอร์ต 3.5mm สำหรับเสียบหูฟังพร้อมไมโครโฟนตัวที่ 2
ส่วนด้านล่างเป็นพอร์ต Micro USB ไมโครโฟนหลัก และที่ร้อยสายห้อยโทรศัพท์
ข้างซ้ายเป็นที่อยู่ของถาดซิมและ microSD (เป็นถาดเดียวกัน) และสลักคำว่า Xperia อยู่ด้านล่าง
ข้างขวา เป็นที่อยู่ของปุ่ม Power ที่ทำหน้าที่เป็นตัวอ่านลายนิ้วมือในตัว ถัดลงมาเป็น Volume Rocker และปุ่มชัตเตอร์ของกล้อง
สำหรับภาพที่ถ่ายมาให้ชมนี้ ตั้งค่ากล้องในโหมด Manual และเลือก Touch Focus และ Touch Capture พร้อมๆ กัน เพื่อแสดงถึงความสามารถในการจับโฟกัสที่ 0.03 วินาทีให้ได้ดูกันครับ (หมายเหตุ: ถ่ายจาก Xperia Z5 ตัวปกติ)
ภาพแรก โฟกัสที่ตัวนามิ
ภาพที่สอง โฟกัสที่โลโก้ Sony (ด้านหลัง)
ภาพที่ 3 โฟกัสที่เจดีย์วัด
หมายเหตุ: ทั้งหมดนี้ คลิกเข้าไปดูภาพความละเอียดเต็ม 23 ล้านพิกเซลได้ใน OneDrive ครับ
นอกจากนี้ผมยังได้ลองเล่นฟีเจอร์ใหม่คร่าวๆ ของ Xperia Z5 มาด้วย ดังนี้ครับ
Hi-res Audio: ตัว Xperia Z5 รองรับการเชื่อมต่อกับ LDAC ภายนอก หรือรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่รองรับ Hi-res Audio ทำให้ฟังเพลง Hi-Res ได้สะดวกมากขึ้น และในตัว Walkman เองก็รองรับการเล่นไฟล์ Hi-Res Audio ด้วย
Fingerprint: อย่างที่บอกไปว่า Xperia Z5 มีตัวอ่านลายนิ้วมือติดตั้งอยู่ ผมก็เลยได้ลองทดสอบฟังก์ชันนี้ด้วย พบว่าทำงานค่อนข้างเร็วพอๆ กับ Touch ID บน iPhone หรือบน Galaxy S6 เลยทีเดียว และเวลาใช้งานก็อ่านไวมาก เพียงแค่วิเดียวก็สามารถปลดเครื่องได้เลย
ซึ่งคนที่สนใจ ก็สามารถไปจับจองกันได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไปตามรายละเอียดข้างต้นครับ