Eugene Kim แห่ง Business Insider รายงานสถานการณ์ที่เกิดกับ Evernote สตาร์ตอัพแอพจดบันทึกยอดนิยม หลังช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นสตาร์ตอัพมาแรง มูลค่ากิจการทะลุพันล้านดอลลาร์จนเป็นกลุ่ม Unicorn แต่ดูเหมือนปัจจุบันความร้อนแรง Evernote จะลดลงไปมาก และส่งผลกระทบหลายอย่าง
โดยปีนี้ Evernote มีผู้ใช้งานราว 150 ล้านคน แต่บริษัทประสบปัญหาการสร้างรายได้ที่ไม่เยอะอย่างที่คาด แม้ปรับแผนค่าบริการแบบใหม่ก็ยังไม่ส่งผลดีนัก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัทประกาศปลดพนักงานออก 18% รวมถึงเตรียมปิดสำนักงานสาขา 3 แห่งจาก 10 แห่งทั่วโลก ทั้งหมดเริ่มต้นหลังการเปลี่ยนตัวซีอีโอในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
อดีตพนักงาน Evernote ให้ความเห็นว่าช่วงที่ผ่านมาบริษัทขาดโฟกัสในการเป็นแอพจดบันทึกที่มีคุณภาพ และเน้นให้ความสำคัญกับการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเป็นข่าวในกระแสให้มากที่สุด การพัฒนาซอฟต์แวร์ก็ขาดการทำวิจัยตลาด, การทดสอบส่วนติดต่อผู้ใช้งาน และยังไม่ให้ความสำคัญกับ A/B testing มากนัก อย่างไรก็ตามพนักงานอีกคนมองว่า Evernote ยังสามารถกลับมาโฟกัสที่การจดบันทึกได้ เห็นได้จากการปิดตัวแอพ Evernote Food ที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับหัวใจบริษัทนัก
อีกปัญหาที่เกิดกับ Evernote คือบริษัทเริ่มควบคุมค่าใช้จ่ายมากขึ้น สวัสดิการพนักงานหลายอย่าง เช่น บริการทำความสะอาดบ้านถูกตัดออกไป หรือบริการอาหารกลางวันก็ลดคุณภาพลง และที่หนักที่สุดคือการยกเลิกงานสัมมนานักพัฒนาที่จัดมาหลายปีอย่าง Evernote Conference สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงทำให้ Evernote ขาดเสน่ห์ในการดึงทีมงานที่มีความสามารถเข้ามาร่วมงานกับบริษัท
สุดท้ายสิ่งที่ท้าทาย Evernote จากนี้คือการสร้างรายได้ที่มากขึ้น และสามารถนำบริษัทเข้าตลาดหุ้นให้ได้ เพราะหากภายใน 12-18 เดือนนี้สัญญาณยังไม่ดีขึ้น บรรดานักลงทุน VC หลายคนก็อาจถอดใจและเลือกขายหุ้นทิ้ง
ที่มา: Business Insider