เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมา นายอรรถชัย วุฒพันธ์ ได้เข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม ตำบลดอนกระเบื้อง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ให้ช่วยตรวจสอบค่าบริการโทรศัพท์ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 ของบริษัท เรียลมูฟ จำกัด (เครือข่าย TrueMove H) ที่สูงผิดปกติถึง 53,166.16 บาท ซึ่งประกอบไปด้วยค่าบริการรายเดือน 199 บาท ค่าบริการรายเดือนส่วนอื่น 100 บาท และค่าบริการส่วนเกินที่สูงผิดปกติถึง 49,200 บาท ซึ่งค่าบริการในส่วนนี้ เป็นค่าบริการที่ถูกเรียกเก็บจากการโหวตผู้เข้าแข่งขันในรายการ True Academy Fantasia ปี 12 ของช่อง True4U จำนวน 123 ครั้ง
ทั้งนี้นายอรรถชัยได้สอบถามไปยังเครือข่าย TrueMove H ในเรื่องดังกล่าวว่าทำไมถึงได้รับใบแจ้งค่าบริการที่สูงผิดปกติ เนื่องจากตนได้จำกัดวงเงินไว้ที่ 1,000 บาท ซึ่งตามปกติแล้วถ้าวงเงินเกิน การใช้งานก็ต้องถูกระงับทันที แต่ตนกลับได้รับคำตอบว่า เนื่องจากมีการกดแบบถี่และเร็วมาก ทำให้ระบบไม่สามารถระงับการใช้งานได้ทัน และเมื่อขอเอกสารแบบละเอียด ก็ได้รับการปฏิเสธในความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ ตนจึงได้สอบถามไปยัง ด.ญ.น้ำ (นามสมมุติ) บุตรสาววัย 8 ขวบที่ใช้งานเบอร์ และลูกสาวก็ยอมรับว่าได้กดโหวตผู้เข้าแข่งขันจริง แต่ไม่คิดว่าจะต้องเสียค่าบริการสูงถึงขนาดนี้ ตนจึงเดินเรื่องลงบันทึกประจำวันที่ สภ.จอมบึง ก่อนเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 7 ตุลาคม คุณฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ได้เผยว่า ตนได้ติดต่อกับนายอรรถชัยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว และได้อธิบายให้ทราบแล้วว่าทางเครือข่าย TrueMove H มีปัญหาในส่วนของระบบคิดค่าบริการ เนื่องจากรูปแบบการโหวตที่เกิดขึ้น เป็นการโหวตแบบ Big Vote ที่กด 1 ครั้ง มีค่าเท่ากับ 100 โหวต และจากข้อมูลของลูกค้า ถ้ากดเพียงครั้งเดียว ระบบก็ต้องดำเนินการระงับการให้บริการแล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือการกดโหวตแบบต่อเนื่อง 123 ครั้ง ทำให้ระบบไม่สามารถล็อกค่าบริการได้ทัน เลยทำให้ระบบบันทึกว่าลูกค้ามีการใช้งานจริงเป็นจำนวน 123 ครั้ง ครั้งละ 400 บาท รวมเป็นเงิน 49,200 บาทโดยยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และส่งรายงานแจ้งไปตามที่ปรากฎในใบแจ้งค่าใช้บริการ
ทางด้าน TrueMove H เองก็ได้ออกหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการในช่วงเย็นของวันที่ 7 โดยระบุว่าระบบส่วนการคิดค่าบริการมีปัญหาตามที่แจ้งผ่านคุณฐากรจริง ซึ่งทางทรูก็ได้ปรับยอดค่าใช้บริการให้ใหม่เป็น 319.93 บาท พร้อมทั้งยกเลิกค่าบริการส่วนเกิดจำนวน 52,846.23 บาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้ลงชื่อขออภัยแก่ผู้เสียหายเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ด้วย
ทั้งนี้ คณะกรรมการ กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภค ได้เตรียมที่จะเชิญผู้ให้บริการทุกค่ายมาคุยเรื่องวงการค่าใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบรายเดือนอีกครั้ง โดยกำชับในเรื่องหลักๆ คือต้องส่งข้อความแจ้งผู้ใช้บริการทันทีที่ค่าบริการเกินกำหนดวงเงินการใช้บริการ หรือต้องตัดสัญญาณการให้บริการทันทีถ้าพบความผิดปกติ หรือความผิดพลาดในการใช้งานครับ