รีวิว Alcatel Onetouch Flash 2 สมาร์ทโฟนราคาเบาๆ 4,590 บาท จัดเต็มฟีเจอร์กล้อง

by Blltz
8 October 2015 - 14:58

ตลาดสมาร์ทโฟนสเปคคุ้มค่าในราคาย่อมเยายังคงแข่งขันกันอย่างหนัก หลายรุ่นนอกจากจะชูจุดเด่นเรื่องสเปคต่อราคามาแล้ว ยังใส่ฟีเจอร์เด่นอื่นๆ เข้ามา เช่น พลังเสียง หน้าจอสีสด กล้องระดับรุ่นท็อป ฯลฯ ซึ่งวันนี้ทาง Blognone จะมารีวิว Alcatel Onetouch Flash 2 สมาร์ทโฟนราคาถูกที่จัดหนักทั้งกล้องหน้า-หลัง

Onetouch Flash 2 เป็นสมาร์ทโฟนซีรีส์ Flash รุ่นที่สามของ Alcatel ที่วางขายในประเทศไทย การปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้า (Flash Plus) คือการอัพเกรดกล้องหลังความละเอียด 13 เมกะพิกเซลเท่ากัน แต่รูรับแสงกว้างขึ้นเป็น f/2 พร้อมแฟลชทูโทน กล้องหน้าความละเอียดลดลงแต่เพิ่มแฟลช LED เข้ามา สเปคโดยรวมสูงขึ้นเล็กน้อย อ่านรายละเอียดได้จากข่าวเปิดตัวครับ

ส่องรอบตัวเครื่อง

เกริ่นมาพอสมควรก็ถึงเวลาไปดูตัวเครื่องจริงกัน เริ่มจากแกะกล่องที่ค่อนข้างแปลกตา เนื่องจากใช้เป็นกล่องแข็งสวมทับกล่องบรรจุภัณฑ์อีกที กล่องด้านในใช้สีเขียวสดใส ธีมหลักของรุ่นนี้ พ้องกับสโลแกน Power of Green

เปิดฝาดูอุปกรณ์ภายในจะประกอบด้วยตัวเครื่อง เคสฝาพับคู่ตัว ฟิล์มกันรอย หูฟัง in-ear แท่นชาร์จ และสาย micro USB

หน้าตาของ Onetouch Flash 2 เรียกได้ว่าแตกต่างจากสองรุ่นก่อนหน้าอย่าง Flash และ Flash Plus อย่างมาก ปรับจากตัวเครื่องขอบมนๆ ให้เหลี่ยมขึ้น แต่ยังโค้งที่ด้านบน-ล่าง เทียบกับรุ่นก่อนหน้าแล้วส่วนตัวคิดว่าสวยกว่ารุ่นเดิมมากๆ (และดันไปเหมือนกับรุ่นนี้ซะด้วย) หน้าจอขนาด 5" ความละเอียด 720p คุณภาพพอใช้ ความสว่างทำได้ดี สีสันจืด และติดฟ้าไปนิดหน่อย สามารถปรับได้จากซอฟต์แวร์ในเครื่อง

ด้านบนตัวเครื่องเป็นตำแหน่งสำหรับลำโพงสนทนา ทางซ้ายจะมีแฟลช LED ด้านหน้า ทางขวาเป็นกล้องหน้าความละเอียด 5 เมกะพิกเซล เซ็นเซอร์ และไฟแจ้งเตือนฝังไว้ด้านขวาของกล้องหน้า ในรูปมองไม่เห็นครับ

ด้านล่างสำหรับวางปุ่มเมนูตัวเครื่อง ใช้สัญลักษณ์เหมือนกับไอคอนของ Android รุ่นมาตรฐานทุกประการ (สามเหลี่ยม - ย้อนกลับ, วงกลม - หน้าแรก, สี่เหลี่ยม - recent apps) มีไฟใต้ปุ่มเมื่อยามใช้งานครับ

พลิกมาดูด้านข้างตัวเครื่อง ปุ่มทั้งหมดถูกวางไว้ฝั่งขวา ไล่จากซ้ายไปขวาจะเป็น ปุ่มชัตเตอร์ ปุ่มปรับเสียง และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ส่วนที่น่าสนใจคือการใส่ปุ่มชัตเตอร์มาด้วย สามารถใช้เปิดแอพกล้อง และลั่นชัตเตอร์ได้ น่าเสียดายที่เป็นปุ่มจังหวะเดียว ดังนั้นจึงใช้โฟกัสภาพไม่ได้ และใช้เปิดแอพกล้องจากหน้าล็อกก็ไม่ได้เช่นกัน

ด้านบนตัวเครื่องมีพอร์ตหูฟังวางไว้ข้างกับไมโครโฟนวิดีโอ ส่วนด้านล่างจะเป็นพอร์ต microUSB และไมโครโฟนสนทนา อันนี้แทบจะวางตำแหน่งได้ตามมาตรฐานสากลแล้ว

ด้านหลังของ Onetouch Flash 2 ทำมาได้ค่อนข้างดูดี นอกจากจะโค้งเข้ากับขอบตัวเครื่องแล้ว ยังทำฝาหลังเป็นผิวกระดาษทราย ถือจับได้มั่นคง และเลอะยากกว่าฝาหลังผิวมันที่ใช้กันทั่วไป

สำหรับคนที่สงสัยว่าบรรดาสัญลักษณ์การรับรองต่างๆ หายไปไหน คำตอบคือข้อมูลพวกนั้นถูกเก็บไว้ในตัวเครื่องฝั่งซอฟต์แวร์หมดแล้ว จึงได้ฝาหลังที่เกลี้ยงเกลาขึ้นมาครับ

กล้องหลัง 13 เมกะพิกเซล จุดขายของรุ่นนี้จะนูนขึ้นมาจากฝาหลังเล็กน้อย แฟลชทูโทนวางไว้ใต้กล้องเล็กน้อย รอบกล้องใส่สเปคมาไว้ชัดเจนทั้งความละเอียด รูรับแสง f/2 และทางยาวโฟกัสของเลนส์ที่ 24 มม.

ด้านล่างเป็นตำแหน่งของลำโพงโมโน เสียงดังพอสมควร คุณภาพระดับใช้เป็นนาฬิกาปลุกได้ แต่ถ้าจะฟังเพลงจริงจัง แนะนำให้ใส่หูฟังที่แถมมาจะดีกว่า สายดูบอบบาง แต่เสียงค่อนข้างดีทีเดียวเมื่อเทียบกับหูฟังแถมทั่วไป

ดูรอบเครื่องแล้วก็ถึงเวลาแกะฝาหลัง เริ่มต้นด้วยการแงะจากด้านล่างตัวเครื่อง ขยับไปปลดล็อกซ้ายขวา และค่อยๆ ยกฝาหลังออก จัดว่าแกะยากเอาเรื่อง

ภาพรวมฝาหลังเปลี่ยนแบตเตอรี่ด้วยตัวเองไม่ได้ มีถาดใส่ซิมสองแห่งซ้าย-ขวา รวมถึงช่องใส่ microSD เหนือถาดใส่ซิม 2 เล็กน้อย รองรับซิมขนาด Micro ใช้ 4G ได้ทั้งคู่

ในบรรดาอุปกรณ์เสริมที่ใส่มาในกล่อง เคสฝาพับดูน่าสนใจที่สุด วางเทียบกับตัวเครื่องแล้วขนาดทำมาได้ค่อนข้างพอดีกัน วิธีใส่ต้องถอดฝาหลังธรรมดาออก และใส่เคสเข้าไปแทน

วัสดุเคสด้านนอกเป็นหนังผิวสัมผัสนุ่มๆ (ไม่ยืนยันว่าแท้หรือเทียม) ด้านในเป็นผิวกำมะหยี่ไม่ทำร้ายหน้าจอ

ตัวเคสเว้นช่องหน้าจอไว้สำหรับดูเวลาได้โดยไม่ต้องเปิด ด้านบนเว้นช่องสำหรับรับสายคุยได้ทันทีโดยไม่ต้องเปิดฝาพับเช่นกัน ด้านหลังเจาะรูไว้สำหรับกล้อง และลำโพงเรียบร้อย

แม้ว่าจะเป็นเคสหนัง แต่ด้วยความที่สวมไปกับฝาหลัง จึงไม่ทำให้ตัวเครื่องหนาขึ้นมากนัก ข้อเสียที่เจอคือความหนืดของหนังทำให้ใส่กระเป๋าได้ยากขึ้น โดยเฉพาะกับกางเกงยีนส์

ภาพรวมตัวเครื่องด้านการถือใช้งาน Onetouch Flash 2 ทำมาได้ขนาดกำลังพอดีมือ ด้วยหน้าจอ 5" ไม่ใหญ่จนเกินไป ตัวเครื่องหนักกว่ารุ่นที่ใช้พลาสติกเหมือนกันเล็กน้อย แต่ถ่วงน้ำหนักมาได้สมดุลดี

จุดที่ใช้แล้วไม่ชินคือแผงเมนูด้านล่าง แม้ว่าจะวางมาแบบมาตรฐาน แต่ตำแหน่งจะต่ำกว่ารุ่นอื่นๆ หลายครั้งจึงกดเลยไปโดนหน้าจอแทน

ซอฟต์แวร์ !

Onetouch Flash 2 มาพร้อมกับ Android 5.1 Lollipop รุ่นใหม่ล่าสุด (ถ้าไม่นับ Marshmallow ที่ยังไม่ปล่อยอัพเดต) อินเทอร์เฟซโดยรวมเรียกได้ว่ายกมาจาก Android มาตรฐาน แต่ตัดบางฟีเจอร์ออกไป เช่น Google Now ที่ปกติจะวางไว้หน้าขวาสุด ต้องใช้การกดปุ่มโฮมค้างเพื่อเปิดใช้แทน

แถบทางลัดด้านบนปรับแต่งเพิ่มตัวเลือกเข้ามาอีกเล็กน้อยคือปุ่มปรับโปรไฟล์เสียง และปุ่มเคลียร์หน่วยความจำแบบด่วน

ด้านแอพที่มาพร้อมกับตัวเครื่อง นอกจากของกูเกิลแล้ว Alcatel ใส่แอพอื่นๆ มาพอสมควรตั้งแต่ แอพสำหรับหน่วยความจำตั้งแต่ การเคลียร์ด่วน จำกัดแอพไม่ให้เปิดเองเมื่อเปิดเครื่อง และเครื่องมืออื่นๆ อย่างการแบ็คอัพ ตัวช่วยอัพเดตแอพ (zApp) และคีย์บอร์ดตัวที่สองอย่าง TouchPal X

แอพบันเดิลมากับตัวเครื่องนอกจากตัวเคลียร์หน่วยความจำแล้ว ตัวอื่นไม่ค่อยมีประโยชน์นัก โดยเฉพาะ zApp ที่นอกจากจะซ้ำซ้อนกับ Play Store แล้ว ยังมีแจ้งเตือนมาเรื่อยๆ แถมยังลบไม่ได้อีกด้วย

เดาว่าแอพตัวนี้น่าจะมีไว้สำหรับประเทศที่ไม่มี Play Store อย่างประเทศจีนครับ (แต่ก็น่าจะทำให้ลบได้นะ)

บ่นไปแล้วก็มาถึงฟีเจอร์มีประโยชน์อย่าง MiraVision ที่นอกจากจะสามารถปรับโปรไฟล์สีของหน้าจอได้เหมือนกับรุ่นอื่นๆ แล้ว ยังมีฟีเจอร์ Dynamic Contrast ที่ทำให้ทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอสดใสขึ้น สำหรับคนที่ไม่ชอบโปรไฟล์สีที่เครื่องให้มาก็สามารถปรับได้เองตั้งแต่อุณหภูมิสี ไปจนถึงความคมชัดเลยทีเดียว (ถ้าเล่นจนเละก็สามารถย้อนกลับไปค่าเริ่มต้นได้)

ฟีเจอร์อำนวยความสะดวกอื่นๆ จะมีการแตะหน้าจอสองครั้งเพื่อเปิด-ปิดหน้าจอ และระบบอัพเดตแบบ OTA ในตัวผ่าน Wireless Update ครับ

ด้านการบริหารทรัพยากร Onetouch Flash 2 จากหน่วยความจำเต็มๆ 16GB สามารถใช้ลงแอพได้ประมาณ 9GB และ การใช้งานปกติจะเหลือแรมราวๆ 1GB ซึ่งเพียงพอสำหรับการลงแอพทั่วไป เกม และมีแรมเหลือใช้งานแอพแทบทุกประเภทสบายๆ

จากการใช้งานตัวซอฟต์แวร์ของ Onetouch Flash 2 เจอข้อเสียแปลกๆ บางอย่างเช่น ไม่สามารถลบแอพได้จากหน้าแรก (ต้องไปลบในเมนู App) นอกนั้นใช้งานได้รวดเร็วดี ความเห็นส่วนตัวแนะนำให้ไปดาวน์โหลด Google Now Launcher จะได้ประสบการณ์ดีกว่า

กล้อง แบตฯ และประสิทธิภาพ

จุดขายของรุ่นนี้คงหนีไม่พ้นกล้องทั้งหน้าหลัง ที่อัดมาเต็มทั้งสเปค และฟีเจอร์ ก่อนจะดูคุณภาพภาพถ่าย มาดูฟีเจอร์ และหน้าตาแอพกันก่อนครับ

หน้าตาของแอพกล้องจะออกแบบมาเรียบๆ ตัวเลือกหลักๆ จะถูกวางไว้ด้านบน (แฟลช สลับกล้อง) และขวา (ตั้งเวลา ชูสองนิ้วแล้วถ่าย ยิ้มแล้วถ่าย) โดยจะมีเมนูให้ข้างในอีกที น่าสนใจคือกล้องรุ่นนี้มี EIS หรือกันสั่นแบบซอฟต์แวร์มาให้ด้วย

กล้องตัวนี้สามารถกดถ่ายค้างเพื่อถ่ายรัวได้ด้วย สูงสุด 99 ภาพ แต่จะเลือกภาพที่ดีสุดมาให้ครับ รวมถึงสามารถกดค้างเพื่อโฟกัสวัตถุต่อเนื่องได้เช่นกัน

ปุ่มด้านซ้ายบนจะมีไว้สำหรับเลือกโหมดต่างๆ เช่น Super Fine ถ่ายสองภาพรัว รวมกันเป็น 23.7 เมกะพิกเซล ถ่าย HDR และฟีเจอร์ที่ iPhone เพิ่งมีอย่าง Live Photo ที่ถ่ายทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอไปพร้อมๆ กัน

ส่วนปุ่มลูกศรทางซ้ายจะเป็นการเปิดเมนูฟิลเตอร์ครับ พรีวิวภาพก่อนถ่ายให้เรียบร้อย

ภาพที่ถ่ายโดยกล้องหลังของ Onetouch Flash 2 ค่อนข้างดีทีเดียว เมื่อดูจากค่าตัว 4,590 บาท ให้สีค่อนข้างเที่ยงตรงแทบทุกสภาพแสง (ติดฟ้าถ้าแสงน้อย) โฟกัสไวมาก! เสียดายที่ปุ่มชัตเตอร์เป็นแบบจังหวะเดียว

ตัวอย่างรูปก็ตามนี้ครับ

ถ่ายในร่ม แสงเหลือเฟือ

ถ่ายกลางแจ้ง เรียงจากแสงมากไปน้อย

แดดจ้า

มีเมฆปกคลุม

มืด มีไฟส่อง

ถ่ายมาโครมือเดียว

ถ่ายในห้องมืด แบบเปิดแฟลช-ปิดแฟลช

มืดสนิทปิดแฟลช

มืดสนิทเปิดแฟลช

เปิดไฟในห้อง ปิดแฟลช

แสงภายนอกบางส่วน ปิดแฟลช

ห้องสว่าง ปิดแฟลช

กล้องหน้าไม่มีภาพประกอบ แต่คุณภาพจัดกว่ากลางๆ แฟลชช่วยได้ แต่ถ้าถ่ายอัตโนมัติภาพจะเหลืองมากๆ ครั้นจะต้องตั้งค่าทุกครั้ง ถึงจะช่วยได้ก็ลำบากอยู่ดี

การใช้งานแบตเตอรี่ของรุ่นนี้ด้วยความที่ให้มาค่อนข้างเยอะ (3,000 mAh) ใช้งานทั่วไป เปิด 3G ทั้งวันได้สบายผ่านฉลุย (ถ้าใช้งานหนักอยู่ได้ราว 4-5 ชั่วโมง)

ลองทดสอบกับ AnTuTu ผลออกมาอยู่ในระดับกลางๆ คะแนนซีพียูค่อนข้างดี แต่จีพียูด้อยกว่ารุ่นในราคาใกล้กันไปพอสมควร

ตอบคำถามที่ฝากไว้

Q: จับ GPS ได้ไวไหมครับ
A: ถ้าเปิด 3G ไวมากครับ ใช้เวลา cold start ประมาณ 10 วินาที

Q: มัลติทัชมีปัญหาไหม
A: รับได้ห้าจุด แต่ถ้าใช้พร้อมกันเกิน 4 จุดจะเริ่มรวนนิดหน่อยครับ

Q: เจอปัญหาจอดับไหม
A: ตลอดสองสัปดาห์ ไม่เจอเลยครับ

Q: มีฟีเจอร์โปรไฟล์ไหม
A: ไม่มีครับ

Q: ต่อบลูทูธเป็นอย่างไรบ้าง
A: ลองกับสมอลทอล์ค ต่อช้าไปหน่อย แต่ไม่หลุดครับ

Q: หน้าจอทนไหม
A: ไม่ได้ติดฟิล์มกันรอย ใช้แบบไม่ได้รักษามาก สองสัปดาห์ยังไม่มีรอยใดๆ ครับ

สรุป

Alcatel Onetouch Flash 2 แม้จะไม่ได้ให้สเปคมาแรงเท่ากับคู่แข่งในราคาใกล้กัน แต่ทดแทนด้วยฟีเจอร์กล้องที่เรียกว่าจัดเต็มมาก ใครมองหากล้องหลังดีๆ ในราคาเบาๆ น่าจะไปลองจับลองเล่นรุ่นนี้ดูครับ

ข้อดี

  • หน้าตาดีมีชาติตระกูล
  • กล้องหลังดีมาก โฟกัสไว สีแม่น
  • แฟลชทูโทน และแฟลชหน้าที่ดีถ้ามีเวลาปรับ
  • รัน Android 5.1 Lollipop

ข้อเสีย

  • Bloatware ไม่มาก แต่บางตัวน่ารำคาญ (เช่น zApp) และลบไม่ได้
  • Launcher ที่ให้มาฟีเจอร์น้อย + มีบั๊ก แนะนำให้ใช้ Google Now Launcher ถ้าชอบในความ stock
  • ระบบทัชที่มีปัญหาเมื่อใช้งานไวๆ เช่นปาดนิ้ว หรือกดแล้วลาก
  • หน้าจออมฟ้าไปหน่อย แต่ปรับได้
Blognone Jobs Premium