เนื่องจากช่วงนี้ผมอยู่สหรัฐอเมริกาพอดี พอเห็นข่าวว่ามีคนไปทดสอบกล้องของ Lumia 950 XL ที่ร้าน Microsoft Store เลยคิดว่าไมโครซอฟท์น่าจะเอาสินค้าชุดใหม่ที่เปิดตัวมาโชว์ที่ร้านสาขาอื่นๆ ด้วย เลยแวะไปดูที่ร้านสาขาใกล้ๆ ว่ามีหรือไม่
ตอนแรกคาดว่าคงมีเฉพาะ Lumia 950 เท่านั้น แต่ผลออกมาดีกว่าที่คิดเพราะเจอสินค้าของใหม่ครบชุด รวมถึง Surface Book ที่หลายคนสนใจด้วย เลยลองจับและดูรายละเอียดมาฝากกันครับ
พระเอกของไมโครซอฟท์รอบล่าสุด มีตัวอย่าง engineering sample มาวางโชว์ครับ เห็นทีแรกก็ตกใจว่ามีให้ดูแล้วจริงๆ รึเนี่ย
ไมโครซอฟท์ย้ำหลายครั้งว่าต้องการสร้างโน้ตบุ๊กที่มี Surface DNA ซึ่งเจ้า Surface Book ก็รับยีนของ Surface มาเต็มๆ ตั้งแต่วัสดุภายนอกที่เป็นแมกนีเซียม ผิวสัมผัสแบบเดียวกับ Surface ทุกประการ
เนื่องจากหน่วยประมวลผลต่างๆ อยู่ในซีกเดียวกับจอภาพ (แถมยังสเปกแรงเป็น Intel Core i Skylake) เลยยังต้องมีแผงระบายอากาศ แบบเดียวกับ Surface Pro รุ่นก่อนๆ
คำถามแรกที่หลายคนสงสัย (ผมด้วย) คงเป็นเรื่องการพับหน้าจอที่เหลือช่องว่างไว้พอสมควร อันนี้พบว่าของจริงเวลาพับจอแล้วมันมั่นคงมากครับ พยายามลองกดๆ บีบๆ ตรงจอที่มีช่องว่างข้างใต้ พบว่าไม่มียวบสักนิดเลย แข็งมาก
แต่ประเด็นว่ามันพับแล้วมีช่องว่าง ส่งผลให้ดูแปลกๆ อันนี้ก็จริงครับ ผมลองกดแล้วก็ยังไม่ค่อยสนิทใจเท่าไรว่ามั่นคงจริงๆ (เป็นรูปลักษณ์ภายนอกที่มีผลต่อจิตใจ ฮา)
การถอดจอ ต้องกดปุ่มที่สองตรงมุมขวาบน (ข้างปุ่ม Del) ค้างไว้แป๊บหนึ่ง ประมาณ 1-2 วินาที พอไฟติดและมีเสียงคลิก ก็ถอดจอได้เลย ถ้าตอนนั้นเราเปิดจอทิ้งไว้ บนหน้าจอก็จะมีไอคอนให้ดึงจอภาพออกด้วย
ถอดจอมาถือเป็นแท็บเล็ตแล้วพบว่ามันใหญ่กว่าที่คิดไว้ ใหญ่กว่า Surface Pro อย่างรู้สึกได้ พอได้ลองจับของจริงเลยเข้าใจทันทีว่าทำไมไมโครซอฟท์เรียกมันว่า "คลิปบอร์ด"
ส่วนการเขียนปากกาก็ไม่ค่อยต่างจาก Surface Pro 3 มากนัก คือเรากดตรงท้ายปากกาเพื่อเรียก OneNote แล้วเขียนจอได้ทันที ถ้าอยากลบก็หมุนปากกาเอามาลบได้เลย การลบจะเป็นลบทั้งเส้น ไม่ใช่ลบเฉพาะตำแหน่งที่ท้ายปากกาไปโดนจอ
หน้าตาของ Surface Pen ตัวใหม่ล่าสุด
ตัวซีกจอด้านบนเบากว่าที่คิด ถือแล้วไม่รู้สึกลำบากในแง่น้ำหนัก (แต่ในแง่ขนาดรู้สึกว่ามันใหญ่เทอะทะกว่า Surface Pro) แต่พอประกอบร่างเต็มรูปแบบแล้วก็รู้สึกว่าไม่ได้เบามากแบบเบาหวิวครับ
หน้าตาของคีย์บอร์ดแบบเต็มๆ เผื่อคนอยากดู layout ครับ ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพอถอดจอออกแล้ว มันมีเงี่ยงที่ใช้ล็อคหน้าจอโผล่ออกมาแบบนี้ ถ้าพกคีย์บอร์ดแยกไว้ในกระเป๋า มันจะขูดขีดหรือหักงอง่ายหรือเปล่านะครับ (ส่วนใหญ่เราคงเก็บแบบเสียบจอแล้วพับ แต่ก็คงมีบางจังหวะที่แยกถือเฉพาะจอ เก็บคีย์บอร์ดลงกระเป๋า)
ตัวบานพับ (hinge) เวลาถอดจอแล้ว มันจะอยู่ในสภาพหดตัวแบบนี้เลย และแข็งมากคือเอามือไปขยับเองไม่ได้ จะสามารถขยับได้เมื่อเสียบจอแล้วพับเท่านั้น
เวลาเสียบจอเป็นโน้ตบุ๊ก พบว่ามั่นคงมาก สามารถเอามือจับจอแล้วยกขึ้นมาทั้งเครื่องได้สบายๆ แกว่งไปแกว่งมาเบาๆ จอไม่เคลื่อนเลย
ตัวปากกา Surface Pen จะแปะแม่เหล็กอยู่ฝั่งซ้ายมือของจอเท่านั้น แปะด้านขวาไม่ได้
อีกประเด็นที่ผมรู้สึกยังแปลกๆ คือสัดส่วนจอพอเป็น 3:2 (ความละเอียดใช้เลขสวยแบบ 3000:2000 เลย) แล้วรู้สึกว่าสัดส่วนตัวเครื่องค่อนข้างแปลกตาไปจากโน้ตบุ๊กในปัจจุบัน ที่ใช้จอ 16:9 อยู่พอสมควร คือเครื่องจะออกแนวสูงอย่างเห็นได้ชัด
ดูเผินๆ แล้วหน้าตาแทบไม่ต่างจาก Surface Pro 3 เลยครับ
เทียบขนาดระหว่าง Surface Pro 3 (ซ้าย) และ Surface Pro 4 (ขวา) ความแตกต่างที่สำคัญคือ Pro 4 ขอบจอบางกว่า (ตัดปุ่ม Windows ที่ขอบจอออกไป) พื้นที่จอของ Surface Pro 4 จะใหญ่กว่านิดหน่อย และสามารถแปะปากกากับแม่เหล็กขอบจอได้
จุดที่เปลี่ยนไปเยอะคือคีย์บอร์ด Type Cover รุ่นใหม่ เปลี่ยนมาใช้คีย์แบบ chiclet หน้าตาดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก ทัชแพดก็ใหญ่ขึ้นกว่าของเดิม
ลองพับจอมาดูด้านหลัง จุดต่างที่สำคัญคือตัวอักษร Surface เปลี่ยนเป็นโลโก้ไมโครซอฟท์แทน และถ้าสังเกตดีๆ กล้องหลังจะใหญ่ขึ้นอีกนิด
เทียบปากกาของ Surface Pro 3 (ซ้าย) กับ Surface Pro 4 (ขวา)
พนักงานของ Microsoft Store บอกว่า Surface Pro 4 จะบางกว่านิดหน่อย ผมลองเอามาวางเทียบความหนากันดู ก็พบว่าบางกว่าจริงแต่ต้องสังเกตดีๆ (Pro 4 คือตัวบน)
เทียบขนาดกับ Surface 3 รุ่นปกติ (ไม่ Pro)
ที่ร้านมี Lumia 950 XL ให้ลองจับด้วย พบว่าขนาดตัวเครื่องไม่ต่างอะไรจาก phablet ในปัจจุบัน แต่เครื่องบางกว่าที่คิดไว้เยอะ
ผิวสัมผัสด้านหลังจะเป็นแบบด้าน จับแล้วหนึบไม่ลื่นมือ ทำวัสดุได้ดีตามมาตรฐาน Lumia
ขอบด้านข้าง มีปุ่มชัตเตอร์แยก ซึ่งหลายคนชอบเพราะทำให้ถ่ายภาพได้มั่นคงกว่าการแตะจอ (น่าเสียดายมือถือสมัยนี้ตัดออกเกือบหมด)
อีกข้างโล้นๆ ไม่มีปุ่มอะไรครับ
ผมลองถ่ายภาพจาก Lumia 950 XL แล้วพบว่าคุณภาพออกมาดีมาก น่าเสียดายว่าถ่ายเสร็จแล้วลองส่งภาพกลับมายังอีเมลตัวเองเพื่อเอาไฟล์ต้นฉบับมาให้ดูกัน แต่อีเมลมาไม่ถึง (สงสัยไมโครซอฟท์เซ็ตบัญชีอีเมลที่ร้านไว้ไม่ครบ) คงต้องมาทดสอบกล้องกันจริงจังตอนที่วางขายจริงในไทยต่อไป
ที่ร้านไม่มี Microsoft Display Dock ให้ลอง เลยทดสอบมาได้เพียงเท่านี้ครับ