ทีมนักวิจัยจาก Microsoft research ได้เผยงานวิจัยที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของแล็ปท็อปด้วยแนวทางใหม่ ที่ไม่ได้มุ่งไปในการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่แต่เปลี่ยนไปเน้นการพัฒนาซอฟต์แวร์จัดการแบตเตอรี่ที่ฉลาดกว่าเดิมแทน
ไมโครซอฟท์เรียกงานวิจัยนี้ว่า Software Defined Batteries โดยใช้ซอฟต์แวร์เข้ามาช่วยร่วมกับการผนวกเอาแบตเตอรี่หลายประเภท (ที่มีคุณสมบัติในการคายประจุ/ชาร์จประจุต่างกัน) มารวมไว้ด้วยกัน ต่างจากอุปกรณ์ในปัจจุบันที่ใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนเพียงประเภทเดียวและจัดการโดยระบบที่อยู่บนตัวฮาร์ดแวร์
การใช้แบตเตอรี่หลายแบบในอุปกรณ์เดียวส่งผลให้แบตเตอรี่แต่ละก้อนสามารถปรับแต่งให้รองรับการใช้งานที่ต่างกันไป กล่าวคือเมื่อใช้แล็ปท็อปกับงานที่ใช้พลังงานน้อยอย่างการเปิดเอกสารหรืองานที่ใช้พลังงานมากอย่างการตัดต่อวิดีโอ ซอฟต์แวร์ฝั่งระบบฏิบัติการจะช่วยเลือกรูปแบบการใช้แบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพที่สุดให้กับงานที่ประมวลผลอยู่ในขณะนั้น ด้วยการควบคุมสัดส่วนการคายประจุและสัดส่วนการชาร์จประจุในแบตเตอรี่แต่ละก้อน ทำให้สามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ในการชาร์จครั้งนึงให้นานขึ้นและช่วยให้แบตเตอรี่เสื่อมช้าลง
นอกจากนี้ทีมวิจัยยังได้ใช้เทคนิค machine learning เพื่อเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้งานและนำข้อมูลที่ได้ไปช่วยคำนวณวิธีที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรรี่ ตัวอย่างเช่นระบบอาจจดจำว่าผู้ใช้งานเสียบปลั๊กแท็บเล็ตเป็นเวลา 15 นาทีก่อนเริ่มพรีเซนต์งาน ณ เวลาหนึ่งเป็นประจำทุกวัน ระบบก็จะเลือกชาร์จอย่างรวดเร็ว (quick charge) ให้กับแท็บเล็ตในช่วงเวลาดังกล่าว
อีกตัวอย่างหนึ่งคือระบบอาจเรียนรู้ว่าผู้ใช้งานมักใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเช็กอีเมลและทำงานเอกสารในช่วงเวลาทำงานและสลับไปใช้ท่องเว็บและเปิดวิดีโอระหว่างเดินทางกลับบ้าน ระบบก็จะปรับแต่งการชาร์จให้สอดคล้องกับการใช้งานทั้งสองทั้งรูปแบบเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟบ่อยๆ
งานวิจัยนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแล็ปท็อปหรือแท็บเล็ตเท่านั้น สุดท้ายแล้วแนวคิดดังกล่าวจะนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทั้งโทรศัพท์มือถือ รถยนต์ และอะไรก็ตามที่ใช้แบตเตอรี่ ทีมวิจัยกล่าวทิ้งท้าย
ต้นแบบงานวิจัยนี้ถูกนำเสนอในงาน ACM Symposium on Operating Systems Principles เมื่อต้นเดือนตุลาคมครับ
ที่มา - Microsoft via Windows Central, ZDNet