วานนี้ Sanook ได้ฤกษ์เปิดตัวแอพ JOOX แอพฟังเพลงออนไลน์อย่างเป็นทางการในประเทศไทย หลังจากเปิดตัวให้ลองใช้ตั้งแต่ปีกลาย ในโอกาสนี้มีการเปิดเผยข้อมูลและตัวเลขที่เกี่ยวข้องให้สื่อมวลชนและบล็อกเกอร์ได้รับทราบ ผมมีโอกาสไปร่วมงานนี้มา ขอไล่เรียงและสรุปข้อมูล รวมถึงแสดงทรรศนะเพิ่มเติม ...หลัง Read More ครับ
ที่มา - ข่าวประชาสัมพันธ์
- ผู้บริโภคชาวไทยนิยมฟังเพลงออนไลน์สูงถึง 46.2% โดย 28% ในสัดส่วนนี้เป็นการฟังจากโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์พกพา ทำให้ตลาดเพลงดิจิทัลมีมูลค่าสูงกว่า 1,200 ล้านบาท ด้วยแรงหนุนจากเครือข่ายของผู้ให้บริการโทรศัพท์ที่รวดเร็วขึ้น
- ยอดดาวน์โหลด JOOX กำลังทำอันดับรั้งตำแหน่งต้นๆ ในทั้งสองสโตร์ บน iOS และ Android
- แนวคิดการสร้างรายได้ของ JOOX จะทำการตลาดแบบ freemium คือมุ่งสร้างวัฒนธรรมการฟังเพลงอย่างถูกลิขสิทธิ์ ให้ผู้ใช้ฟังเพลงในระบบได้ฟรี (ทว่าเพลงราว 20% ของทั้งคลังจะเป็นแบบ VIP คือต้องจ่ายเงินถึงฟังได้ คาดว่าจะคิดเงินราวเดือนละ 129 บาท)
- การโฆษณาในแอพจะไม่เน้นการเป็นเสียงแทรกระหว่างเพลง แต่จะเป็นการ tie-in สินค้าเข้าไปในตัวคอนเทนต์มากกว่า กรณีที่เกิดแล้วก็มีรายชื่อเพลงมันๆ โดยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรักษาความมัน หรือเพลงออกกำลังกาย สนับสนุนโดยน้ำดื่ม เป็นต้น รวมถึงการขายแบนเนอร์บนส่วนของ Sanook Music ตลอดจนมีโฆษณาหลังคลิปวิดีโอ (post-roll ad) รวมถึงจะมีการให้ผู้ใช้ร่วมแชร์ ส่งต่อ เพื่อแลกสิทธิ์การเป็น VIP
- จับมือกับค่ายเพลงทั่วโลกแล้วกว่า 100 ค่าย อาทิ Grammy, Sony-BEC, Warner Music, Universal Music, Smallroom, What The Duck ฯลฯ (กระทั่งเพลงลูกทุ่งจากค่ายท็อปไลน์ก็ยังมี) ซึ่งใช้งานได้เฉพาะในประเทศและภูมิภาคนี้ หากไปต่างประเทศ คนของแอพฯ แนะนำว่า ให้ดาวน์โหลดเป็นแบบฟังออฟไลน์แทน
- ตัวแอพ JOOX รุ่น 2.0 มากับฟังก์ชั่น DTS เพิ่มคุณภาพเสียง ทดลองใช้งาน 3 เดือน
สังเกตได้ว่ามีศิลปินวงโปรดเยอะขึ้นครับ เว้นแต่ศิลปินต่างประเทศแบบอินดี้มากๆ อันนี้ยังไม่ค่อยมี
ความเห็นส่วนตัว
ด้วยความที่ JOOX มี Music Curator/Editor เป็นคนไทยที่ทำงานว่องไว ทำให้มีรายชื่อเพลงเกาะกระแสได้รวดเร็ว เช่น เมื่อสัปดาห์ก่อนที่มีการสูญเสีย David Bowie ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นก็มีรายชื่อเพลงรำลึกศิลปินท่านนี้ หรือการปรุงเนื้อหาที่เป็นไทยจัดชื่อเพลงตามสถานการณ์ เช่น เพลงที่เหมาะกับการฟังบน BTS หรือ MRT เป็นต้น แต่สิ่งที่ JOOX ยังไม่มีคือการแนะนำเพลงแนวเดียวกัน หรือเพลงที่มีแนวโน้มว่าผู้ใช้จะชอบ วิเคราะห์จากเพลงที่ฟังอยู่ ผมว่าเป็นฟังก์ชั่น "เปิดโลก" ที่ควรมีครับ (Spotify มีแล้ว และคนชอบด้วย)
ส่วนเรื่องความเร็วของการบัฟเฟอร์และการโหลด อันนี้ไวระดับปิศาจเมื่อเทียบกับเจ้าอื่น คงความดีงามนี้ไว้นะครับ