Colin Brickman ชายอเมริกันใน Florida ทำการฟ้อง Facebook ด้วยข้อกล่าวหาว่าทำผิดกฎหมายของรัฐบาลกลางเรื่องการคุ้มครองผู้ใช้งานโทรศัพท์ จากการที่ Facebook ส่งข้อความ SMS ให้เขาเพื่อแจ้งเตือนให้อวยพรวันเกิดเพื่อน โดยต้องการเรียกค่าเสียหาย 1,500 ดอลลาร์ต่อหนึ่งข้อความที่เขาเองและผู้ใช้คนอื่นได้รับ
Brickman เป็นตัวแทนในการดำเนินคดีฟ้องร้องแบบกลุ่ม โดยเขาอ้างว่า Facebook ไม่เคยได้รับสิทธิ์ในการส่งข้อความถึงตัวเขา แต่เขากลับได้รับ SMS ที่มีใจความว่า "วันนี้คือวันคล้ายวันเกิดของ Jim Stewart ตอบกลับเพื่อโพสต์คำอธิษฐานบน timeline ของเขา หรือพิมพ์ 1 เพื่อโพสต์ 'สุขสันต์วันเกิด!'"
Brickman ระบุว่าข้อความแจ้งเตือนวันเกิดเพื่อนแบบนี้ ถูกส่งไปยังผู้ใช้ที่แจ้งเบอร์โทรศัพท์ให้ Facebook รับทราบ ซึ่งการส่งข้อความลักษณะนี้เข้าข่ายเป็นการทำการตลาดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะทำได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ใช้ก่อนเท่านั้น
คำฟ้องร้องระบุว่า "Facebook ส่งข้อความที่ไม่แสดงออกว่าสร้างโดยมนุษย์ไปเป็นจำนวนมากด้วยระบบต่อสายอัตโนมัติไปยังโทรศัพท์มือถือแบบเดียวกับที่โจทก์ได้รับ โดยใช้ระบบตอบสนองแบบมาตรฐาน ทุกการตอบสนองกระตุ้นให้ผู้รับข้อความทำการเชื่อมต่อกับ Facebook คำฟ้องนี้เป็นไปเพื่อผู้ใช้หลายพันคนที่ 'มิได้' อนุญาตให้ Facebook กระทำการดังกล่าวมาก่อนหน้านี้"
ว่าด้วยเรื่องกฎหมายของสหรัฐอเมริกาที่ควบคุมการทำการตลาดผ่านทางโทรศัพท์นี้ หาก Facebook มิอาจพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองด้วยการยืนยันสิทธิ์ในการส่งข้อความได้แล้ว ผู้ใช้สามารถเรียกร้องเงินชดเชยจากผู้กระทำผิดได้ 500 ดอลลาร์ต่อการละเมิดในแต่ละครั้ง และตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มเป็น 1,500 ดอลลาร์หากการกระทำละเมิดนั้นถูกตัดสินว่ากระทำไปโดยเจตนา
การดำเนินคดีในลักษณะนี้มิใช่เรื่องใหม่ในสหรัฐอเมริกา ปีที่แล้ว Western Union ซึ่งตกเป็นผู้ถูกฟ้องด้วยเรื่องแบบเดียวกัน ตัดสินใจจบคดีด้วยการยอมจ่ายเงินชดเชย 8.5 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่คดีของ Yahoo และ Uber นั้นยังอยู่ในชั้นศาล ทางด้าน FCC (หน่วยงานคล้าย กสทช. ของไทย) ก็ออกประกาศแจ้งผู้ใช้งานโทรศัพท์เพื่อเน้นย้ำสิทธิ์ และระบุชัดว่าข้อความเพื่อการตลาดที่ส่งไปยังผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายเว้นไว้แต่เหตุฉุกเฉินเท่านั้น
อ่านข่าวนี้แล้วก็ได้แต่มอง SMS ขยะที่รกเต็มโทรศัพท์ในมือและคาดหวังว่าหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคบ้านเราจะออกกฎมาคุ้มครองผู้ใช้โทรศัพท์ในลักษณะนี้ได้บ้างในเร็ววัน
ที่มา - Fortune