สัปดาห์ที่ผ่านมา เราเห็นข่าว กูเกิลเลิกแสดงโฆษณา AdWords ด้านขวามือในหน้าผลการค้นหา เพิ่มตำแหน่งโฆษณาด้านบน
ตำแหน่งโฆษณา AdWords ที่เพิ่มเข้ามาเป็น 4 ช่อง และการตัดสล็อตด้านขวามือออก ส่งผลกระทบต่อทั้งวงการ SEO (ทำเว็บให้ติดอันดับแบบไม่จ่ายเงิน) และการโฆษณาออนไลน์ (จ่ายเงินเพื่อแสดงผลการค้นหา) เป็นอย่างมาก
เรื่องนี้ Alistair Dent จากบริษัท iProspect เขียนวิเคราะห์ลง Search Engine Land ผมคิดว่าน่าสนใจดีเลยนำมาสรุปอีกต่อหนึ่งครับ
Dent บอกว่าจากสถิติของเขาเองที่ซื้อโฆษณาให้ลูกค้า พบว่าโฆษณาในตำแหน่งด้านบนของผลการค้นหา มีอัตราการคลิก (click-through-rate) สูงกว่าโฆษณาด้านขวามือถึง 14 เท่า (วัดจากโฆษณาเดียวกัน แสดงบนคีย์เวิร์ดเดียวกัน) นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่กูเกิลตัดตำแหน่งโฆษณาด้านขวามือออกไป
ก่อนหน้านี้ กูเกิลมีช่องแสดงโฆษณา AdWords ในหน้าผลการค้นหา (Search Engine Result Page - SERP) สูงสุด 11 ช่องในหนึ่งหน้า การตัดโฆษณาด้านขวาออกทำให้กูเกิลเหลือตำแหน่งโฆษณา 7 ช่อง ตำแหน่งโฆษณาที่น้อยลง ส่งผลให้โฆษณาของเรามีโอกาสสูงขึ้นที่จะถูกแสดงในตำแหน่งที่เหมาะสม
แน่นอนว่าตำแหน่งที่แสดงโฆษณามีลดลง แถมตำแหน่งโฆษณาที่เหลืออยู่ 4 ช่องใน 7 ช่องที่เป็นไปได้ ยังอยู่ในตำแหน่งดีมาก (above the fold คือเห็นเลย ไม่ต้องเลื่อนจอ) การประมูลตำแหน่งโฆษณาแข่งกันย่อมดุเดือดกว่าเดิม
การปรับตำแหน่งโฆษณาของกูเกิล ทำให้ตอนนี้ ครึ่งแรกของหน้าผลการค้นหา (above the fold) มีลิงก์ที่เป็น organic หรือไม่ได้จ่ายเงินเพียงลิงก์เดียวเท่านั้น ที่เหลือเป็นลิงก์จ่ายเงินทั้งหมด ดังนั้นคนที่ทำการตลาดออนไลน์ต้องปรับสมดุลใหม่ว่าจะเลือกทำ SEO เท่าไร และจ่ายเงินซื้อ AdWords เท่าไร แน่นอนว่าการทำ SEO จะยากขึ้นมาก
ที่มา - Search Engine Land