นายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบกแจ้งว่าทางกรมได้ส่งหนังสือถึง Grab เพื่อเชิญให้มารับฟังการชี้แจงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการของ Grab และหารือวางแนวทางการทำธุรกิจของ GrabBike ให้สอดคล้องถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องประเภทของรถจักรยานยนต์ที่มาให้บริการที่ห้ามใช้รถส่วนบุคคล (ป้ายดำ) อัตราค่าโดยสารซึ่งมีกฎหมายควบคุมอยู่ รวมไปถึงวิธีการรับชำระค่าบริการ โดยในระหว่างที่การดำเนินงานยังไม่ถูกแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎหมายก็ควรระงับการให้บริการชั่วคราว
นายณันทพงศ์ ยังกล่าวอีกว่ากรมการขนส่งทางบกมิได้คิดปฏิเสธเทคโนโลยี หรือบริการเรียกรถสาธารณะด้วยแอพแต่อย่างใด แต่ทางกรมฯ ต้องการให้ผู้ประกอบการทุกรายปรับปรุงวิธีการทำธุรกิจให้เป็นไปตามข้อบังคับของกฎหมายด้วย โดยมาตรการระยะสั้นจะเป็นการตรวจตราเพื่อกวดขันผู้ประกอบการให้ทำตามกฎหมาย ทางกรมฯ จะประสานงานกับกองพลที่ 1 รักษาพระองค์, กองพันทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์, กองพันทหารม้าที่ 3 รักษาพระองค์, กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกรุงเทพมหานคร จัดชุดเจ้าหน้าที่ลงตรวจในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะทุกรูปแบบได้ปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นประเภทของพาหนะที่นำมาให้บริการ, การจดทะเบียนพาหนะ, ประเภทใบอนุญาตขับขี่ของผู้ควบคุมยานพาหนะ, การแต่งกายของผู้ให้บริการ ฯลฯ
ส่วนแผนการระยะยาวทางกรมการขนส่งทางบกจะหารือกับกระทรวงไอซีที, กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแห่งกระทรวงพาณิชย์ และกรมสรรพสามิตของกระทรวงการคลัง ถึงข้อกฎหมายและแนวทางปฏิบัติที่จะดำเนินการกับบริษัทผู้ให้บริการเรียกรถสาธารณะผ่านแอพ เพราะธุรกิจการให้บริการให้ลักษณะดังกล่าวส่งผลกระทบต่อความมั่นคง ความปลอดภัย และทำลายระบบการขนส่งภายในประเทศ เพราะก่อให้เกิดการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม ขัดต่อความสงบสุขของประชาชนและประเทศ นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อปัญหาด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เนื่องจากหากเป็นรถที่ไม่มีประกันเพื่อคุ้มครองผู้โดยสารกรณีเกิดอุบัติเหตุ ไม่มีการตรวจสอบประวัติ
อาชญากรรมของผู้ขับรถ ก็จะทำให้ไม่สามารถควบคุมคุณภาพของผู้ขับรถได้
ใครใช้บริการ GrabBike อยู่เป็นประจำก็อาจต้องคิดหาทางหนีทีไล่เพิ่มตัวเลือกการเดินทางไว้บ้าง เผื่อทาง Grab อาจต้องหยุดให้บริการชั่วคราว
ที่มา - กรมการขนส่งทางบก