แฮคเกอร์ลึกลับเจาะเข้าเซิร์ฟเวอร์ธนาคาร และสวมรอยส่งคำร้องไปยังแหล่งเงินนอกประเทศให้ทำการโอนเงินเกือบพันล้านดอลลาร์กระจายไปยังหลายบัญชี เดชะบุญที่หลังการโอนเงินผ่านไปเพียง 80 ล้านดอลลาร์ ระบบได้ตรวจพบชื่อบัญชีที่สะกดผิดทำให้สามารถยับยั้งความเสียหายของมหกรรมแฮคครั้งมโหฬารนี้ไว้ได้เสียก่อน
แฮคเกอร์รายนี้ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางบังคลาเทศ และเจาะเข้าเซิร์ฟเวอร์ของธนาคาร ทำให้สามารถเข้าถึงสิทธิ์ควบคุมการโอนเงินออนไลน์ ซึ่งแฮคเกอร์ผู้ก่อการก็ได้ส่งคำร้องไปยัง Federal Reserve Bank ซึ่งตั้งอยู่ที่ New York ให้ทำการโอนเงิน 13 ครั้ง กระจายไปยังมูลนิธิและองค์กรต่างๆ ในประเทศฟิลิปปินส์ และศรีลังกา ซึ่งทางสหรัฐฯ ก็ได้อนุมัติปล่อยเงินตามคำร้องจนโอนเสร็จสิ้นไปแล้ว 4 รายการเป็นมูลค่า 81 ล้านดอลลาร์ กระทั่งมาถึงคำร้องที่ 5 ก็มีสัญญาณเตือนจากธนาคารในเยอรมนีซึ่งเป็นทางผ่านของเงิน แจ้งเตือนเรื่องความผิดปกติของชื่อบัญชี ซึ่งมีคำที่สะกดผิด จาก "foundation" เป็น "fandation"
นั่นเองจึงทำให้เจ้าหน้าที่ไหวตัวและสั่งระงับการโอนเงินที่เหลือทั้งหมดไว้ได้ทัน จึงถือว่ายังมีโชคในเรื่องร้ายอยู่บ้างที่มูลค่าเงินที่โดนแฮคเกอร์หลอกเอาไปนั้นหยุดอยู่แค่ 81 ล้านดอลลาร์
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของการแฮคเพื่อขโมยหรือหลอกเอาเงินระดับพันล้านดอลลาร์ ปีที่แล้วแฮคเกอร์รัสเซียได้ทำการขโมยเงินจากธนาคารกว่า 100 แห่งโดยใช้มัลแวร์ที่เขาล่อให้พนักงานธนาคารติดตั้งสู่ระบบ ทำให้ได้เงินไปเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์เช่นกัน
ด้านเจ้าหน้าที่บังกลาเทศได้สั่งปิดระบบที่เกี่ยวข้องเพื่อทำการสืบสวนหาตัวแฮคเกอร์เพื่อติดตามเงินคืนอย่างเร่งด่วน แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่างานนี้ดูจะมีความหวังริบหรี่
ที่มา - Engadget