ผู้ผลิตรถยนต์ 20 รายร่วมลงนามกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรอิสระของสหรัฐอเมริกา กำหนดว่าในปี 2022 รถยนต์ที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาจะต้องมีระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติเป็นหนึ่งในระบบมาตรฐานด้านความปลอดภัยของรถยนต์
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ หรือ AEB (Automatic Emergency Braking) ที่ว่านี้เป็นการเรียกโดยรวมของระบบที่ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการมีอยู่ของวัตถุ ซึ่งอาจเป็นเรดาร์, ลิดาร์ หรือเซ็นเซอร์ประเภทอื่น โดยเมื่อตรวจพบวัตถุด้านหน้ารถก็ให้ทำการแจ้งเตือนผู้ขับขี่ให้เบรกได้ทันก่อนเกิดการชน และหากผู้ขับขี่ไม่สามารถเบรกรถได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด รถจะต้องทำการเบรกด้วยตนเองก่อนการชนเพื่อลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ
สำหรับการลงนามในครั้งนี้จะทำให้ในปี 2022 ระบบ AEB จะไม่เป็นเพียงแค่ระบบเสริมที่ผู้ซื้อรถอาจต้องควักเงินเพิ่มเพื่อให้ได้มา หากแต่เป็นระบบที่รถทุกคันในสหรัฐอเมริกาต้องมี (แบบเดียวกับที่รถทุกคันในสมัยนี้ต้องมีเข็มขัดนิรภัย)
หน่วยงานภาครัฐและองค์กรอิสระที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มีทั้งกระทรวงคมนาคม, สถาบันประกันภัยเพื่อความปลอดภัยบนทางหลวง (IIHS) และสำนักงานความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติ (NHTSA) โดย IIHS นั้นประเมินว่าในระยะเวลา 3 ปี ระบบ AEB จะช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุบนท้องถนนได้กว่า 28,000 ครั้ง และลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถชนได้ 12,000 ราย
ในภาพรวมแล้วทางการของสหรัฐอเมริกาก็มีการออกข้อกำหนดเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยของรถยนต์อยู่เนืองๆ อย่างเมื่อปี 2012 ก็เป็นปีที่กำหนดให้รถเพื่อการโดยสารทุกประเภทต้องมีระบบ ESC (ระบบเพิ่มความเสถียรด้วยกลไกอิเล็กทรอนิกส์) และในอีก 2 ปีข้างหน้า รถทุกคันที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 10,000 ปอนด์ (4.5 ตัน) ไม่ว่าจะเป็นรถบัสหรือรถบรรทุก ต้องติดตั้งกล้องบันทึกภาพด้านท้ายรถทุกคัน แสดงให้เห็นถึงการใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนที่จะต้องเพิ่มมากขึ้นตามเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ที่มา - TechCrunch