เว็บไซต์สำนักข่าว Bloomberg เผยแพร่รายงานพิเศษปัญหาความสัมพันธ์ระหว่าง FBI และ Apple โดยระบุว่าทั้งสองฝ่ายเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอด และยังทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งหลังจากที่ Apple ออก iOS 8 มา ทำให้ความสัมพันธ์ทั้งหมดแย่ลง และมาประทุขึ้นเมื่อมีกรณีกราดยิงที่เมือง San Bernardino
รายงานระบุว่า Apple ทำงานร่วมกันหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐมาโดยตลอด โดยเฉพาะในฝั่งของ Apple ที่เข้าหาประธานาธิบดีและเครือข่ายของประธานาธิบดี เพื่อผลักดันแนวทางและวาระของตัวเองเสมอ ตัวอย่างเช่นการกดดันทางการจีนไม่ให้บังคับ Apple สร้างกุญแจแม่ (Masterkey แบบเดียวกับกุญแจ TSA) แล้วส่งมอบให้ทางการจีนเพื่อเข้าถึงอุปกรณ์สาย iOS เมื่อปี 2014 จนทางการจีนยอมถอยในที่สุด
จนกระทั่งเมื่อ Apple ส่ง iOS 8 ให้กับหน่วยงานอย่าง FBI ได้ใช้ก่อนเพื่อให้ศึกษาแนวทางการหาหลักฐาน FBI จึงพบว่า iOS 8 เพิ่มคุณสมบัติด้านการเข้ารหัสเครื่องเข้ามาในตัวระบบปฏิบัติการ ทำให้ไม่สามารถใช้วิธีการเดิมๆ ในการเข้าถึงข้อมูลได้อีก ทั้งสองฝ่ายพยายามทำงานร่วมกัน ขณะที่ต่างก็เดินหน้ากดดันอีกฝ่ายเพื่อผลักดันวาระของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม ท่าทีของ Apple ที่เริ่มเข้ารหัสบริการต่างๆ จนในที่สุดนำไปสู่การเข้ารหัสอุปกรณ์ทั้งหมด สร้างปัญหาในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับ Apple เอง โดยทาง FBI พยายามเสมอทั้งในทางลับและที่สาธารณะ ที่จะกดดัน Apple และบริษัทโทรคมนาคมให้มีช่องว่างเพื่อรัฐบาลเข้ามาตรวจสอบข้อมูลได้ FBI เคยพยายามผลักดันจนกระทั่งเกือบจะออกมาเป็นกฎหมาย แต่แล้วต้องเจอกรณีของ Edward Snowden เมื่อปี 2013 ทำให้ต้องพับแผนนี้ไปจนกระทั่งเกิดปัญหานี้อีกครั้งในกรณี San Bernardino ทำให้ FBI ตัดสินใจใช้กฎหมายที่มีอยู่ บังคับให้ Apple ต้องทำตาม เรื่องนี้จึงขึ้นมาสู่สาธารณะ และ Apple เลือกที่จะกดดันหน่วยงานรัฐทั้งช่องทางกฎหมาย และช่องทางสาธารณะทั้งหมด
สิ่งที่น่าสนใจจากรายงานชิ้นนี้ นอกจากจะเห็นว่าในระยะหลังสายสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับ Apple มีปัญหาแล้ว ยังพบว่าหน่วยงานรัฐเองก็ไม่เป็นเอกภาพในกรณีนี้ เพราะถึงแม้ FBI และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอยากจะให้ Apple เปิดทางให้กับรัฐ แต่ทางฝั่งกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ กลับมีความเห็นแย้ง โดยฝั่งของกระทรวงพาณิชย์กังวลถึงผลกระทบในด้านเศรษฐกิจ ส่วนกระทรวงกลาโหมเองก็กลัวเรื่องความปลอดภัยที่อาจจะรั่วไหลไปถึงหน่วยงานความมั่นคงของประเทศอื่นที่เป็นคู่ตรงข้ามของสหรัฐฯ ด้วย
ที่มา - Bloomberg