ในกระดานที่สอง จักรกลจากกูเกิลเดินหมากสุดหยั่งคาด และมันงามงดถึงที่สุด มันสำแดงพลังอันท่วมท้นและศักยภาพอันเร้นลับของปัญญาประดิษฐ์ให้โลกได้รับรู้
แต่ในกระดานที่สี่ มนุษย์ย้อนรอยด้วยตาหมากที่แม้จักรกลก็สุดคะเน หางดงามน้อยกว่าไม่ มิได้เหนือกว่า และมิได้ด้อยกว่า มันแสดงให้เห็นว่า แม้จักรกลจะเข้าสู่ห้วงเวลาแห่งอัจฉริยะได้ มนุษย์ก็มิได้พ่ายแพ้ในการก้าวข้ามสู่ห้วงอันสูงส่งเช่นกัน ในอนาคตกาลอันใกล้ เมื่อเรา - ผองมนุษย์ทำงานร่วมกับจักรกล อัจฉริยภาพของมนุษย์ก็จักเติบโตเคียงข้างกันไป
ภาพประกอบโดย Brian Jeffery Beggerly - Wikipedia
การแข่งขันอันจักจารึกในประวัติศาสตร์จบสิ้นลงแล้วในสัปดาห์นี้ ระหว่าง ลี เซดอล หนึ่งในนักหมากล้อมที่ดีที่สุด และ อัลฟ่าโกะ ปัญญาประดิษฐ์จากทีมวิจัย ดีปมายด์ - ห้องวิจัยปัญญาประดิษฐ์ของกูเกิล จักรกลคว้าชัยจากการแข่งขันห้ากระดาน โดยพิชิตได้สี่กระดาน และปราชัยเพียงหนึ่ง เป็นหมุดหมายครั้งแรกที่จักรกลสามารถเอาชัยมนุษย์ผู้เลิศในหมากกระดานอันเก่าแก่และซับซ้อนเหลือประมาณ - ศักยภาพอัน - จนกระทั่งเวลาอันใกล้ ก็หามีผู้เชี่ยวชาญใดคาดหมายว่าจะสำเร็จในชั่วทศวรรษนี้
ชัยชนะนี้เป็นที่กล่าวขวัญเพราะวิทยาการอันเป็นหัวใจของอัลฟ่าโกะ คืออนาคต มันได้เปลี่ยนกูเกิล เฟซบุ้ค ไมโครซอฟต์ และทวิตเตอร์ไปแล้ว และมันกำลังจะรื้อสร้างสรรพสิ่ง นับจากหุ่นยนต์ ไปจนถึงงานวิจัยวิทยาศาสตร์ หลายคนสะพรั่นกลัว เกรงว่าวันหนึ่งจักรกลปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้จะแย่งงานไป หรือกระทั่งสลัดหลุดจากการควบคุม ข้อกังวลเหล่านี้นั้นดี มันจะทำให้เราไม่เผลอไผลพลาดท่า
แต่มันมีอีกทางหนึ่งที่เราอาจคำนึงถึง - วิถีอันพาเราไปพ้นการเผชิญหน้าระหว่างมนุษย์กับจักรกล - วิถีอันชี้นำโดยสองตาเดินอันรุ่งโรจน์
หมาก 37
ตาเดินที่ 37 เกิดขึ้นในกระดานที่สอง อัลฟ่าโกะวางหมากสุดหยั่งคาดลงในฝั่งขวาของกระดาน 19 เส้น ที่สร้างความพิศวงให้แก่ยอดฝีมือหมากล้อมทั้งปวง แม้ลีเซดอล ก็มิได้เป็นที่ยกเว้น "นี่เป็นหมากที่ประหลาดยิ่ง" นักวิจารณ์หมากล้อมผู้มีศักดิ์เก้าดั้งอันเป็นลำดับชั้นสูงสุดในบรรดาวงนักหมากล้อมทั้งปวงกล่าว "ผมคิดว่ามันเป็นความผิดพลาด" ผองชนกล่าวเช่นนั้น ลีเซดอลใช้เวลาถึงสิบห้านาทีเพื่อวางแผนตอบโต้ มีเพียง ฟานฮุ่ย ราชันย์หมากล้อมแห่งยุโรปสามสมัยเท่านั้น ที่แลเห็นความงามในหมากอันแปลกประหลาด เขาหยั่งเห็นความลึกล้ำของมันจากประสบการณ์ ด้วยว่าเขาเคยประมือกับอัลฟ่าโกะ และปราชัยติดต่อกันมาแล้วห้าคำรบ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
และหมากนั้นเองที่เปลี่ยนวิถีของกระดานไปสิ้น อัลฟ่าโกะ คว้าชัยในกระดานที่สอง ในงานแถลงข่าว ลีเซดอล ที่ยังตะลึงงัน "เมื่อวาน ผมประหลาดใจ" เขาว่าให้ล่ามแปล อ้างถึงความปราชัยของตนในกระดานแรก "แต่วันนี้ผมไม่มีวาจาจะกล่าว ถ้าท่านดูวิถีที่มันดำเนินไป ผมยอมรับว่าพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง นับแต่เริ่มต้นจนบัดนี้ ไม่มียามใดเลยที่ผมรู้สึกว่าเป็นฝ่ายมีเปรียบ"
มันเป็นช่วงเวลาประดุจใจสลาย แต่ในยามเดียวกัน ผู้เฝ้าชมในโรงแรมโฟว์ซีซั่น กลางกรุงโซล ย่อมรู้สึกได้ถึงความงามของหมากเม็ดนั้น โดยเฉพาะเมื่อยามสนทนากับฟานฮุ่ย ซึ่งบรรยายเป็นเชิงปรัชญา "งามล้นพ้น" เขาว่า "งามเพริศเจิดจรัส" ในเช้าวันถัดมา เดวิด ซิลเวอร์ หัวหน้านักวิจัยของอัลฟ่าโกะ ได้อรรถขยายความว่า จักรกล มีสำนึกถึงการเดินครั้งนั้นเช่นไร และนั่นก็งามเหลือบรรยาย
หนึ่งในหมื่น
แรกเริ่ม ซิลเวอร์และคณะสอนอัลฟ่าโกะให้เล่นเกมกระดานโบราณนี้โดยใช้โครงข่ายประสาทเทียมแบบลึก - เครือข่ายของฮาร์ดแวร์ และ ซอฟแวร์ ที่จำลองตนเสมือนดั่งเครือข่ายประสาทในสมองของมนุษย์ วิทยาการนี้เป็นฐานรากของกูเกิล เฟซบุ้ค และ ทวิตเตอร์ มันช่วยระบุใบหน้าในภาพถ่าย รู้จำคำสั่งเสียงในโทรศัพท์ ขับเคลื่อนตัวค้นหา และอื่นๆอีกมากหลาย ถ้าเราป้อนภาพกุ้งมังกรให้เครือข่ายนี้มากพอ มันก็จะรู้จักกุ้งมังกร ถ้าเราป้อนบทสนทนาให้มัน มันก็จะเรียนที่จะพูดตอบโต้ได้บ้าง และ ถ้าเราป้อนบันทึกหมาก 30 ล้านตาเดินจากผู้เล่นหมากล้อมให้แก่มัน มันก็เล่นหมากล้อมเป็น
แต่พวกเขาไปไกลกว่านั้น เขาใช้วิทยาการที่สอง ชื่อว่า การเรียนรู้เสริมกำลัง พวกเขาจัดการแข่งขันระหว่าง อัลฟ่าโกะด้วยกันขึ้นนับครั้งไม่ถ้วน ในระหว่างนั้น อัลฟ่าโกะเรียนรู้ว่า การเดินหมากอย่างไร สร้างพื้นที่ได้มากที่สุด “อัลฟ่าโกะ เรียนรู้ที่สร้างกลยุทธ์ขึ้นเอง โดยการแข่งขันนับล้านครั้งกับตนเอง และค่อยๆเก่งขึ้น” ซิลเวอร์แถลงในยามกูเกิลแนะนำตัวอัลฟ่าโกะเมื่อต้นปี
แล้วพวกเขาก็ก้าวต่อไป พวกเขาบันทึกการแข่งขันเหล่านั้นไว้ แล้วป้อนสู่เครือข่ายประสาทเทียมที่สอง เครือข่ายนี้ได้รับการฝึกให้มองหาศักยภาพของแต่ละตาเดิน และประมาณการอนาคตของมัน
ดังนั้นอัลฟ่าโกะ เรียนรู้จากการเดินของมนุษย์ จากนั้นเรียนรู้จากการแข่งขันกับตนเอง มันเข้าใจว่ามนุษย์เล่นอย่างไร แต่
มันยังสามารถมองไกลไปสู่อีกระดับของการรับรู้ และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในตาเดินที่ 37 ซิลเวอร์แถลงว่า อัลฟ่าโกะได้คำนวณแล้วว่ามีเพียงโอกาสหนึ่งในหมื่น ที่มนุษย์จะเดินหมากเช่นนั้น แต่เมื่อมันประมวลความรู้ทั้งปวงที่ได้สั่งสมมา และมองลึกเข้าไปในอนาคต มันยังคงตัดสินใจจะเดินเช่นนั้น และหมากตานั้นช่างล้ำลึก
หมาก 78
ลี เซดอล แพ้กระดานที่สาม และ อัลฟ่าโกะคว้ารางวัล 1 ล้านดอลลาห์ บรรยากาศในกระดานที่สี่ตกต่ำลงอีกครั้ง “ผมไม่รู้จะกล่าวสิ่งใด แต่ผมคิดว่าสิ่งแรกคือการขออภัย” ลี เซดอลว่า “ผมควรทำได้ดีกว่านี้ ผลดีกว่านี้ เป็นการแข่งขันที่ดีกว่านี้”
ในกระดานที่สี่ เขาคาดหวังจะกอบกู้เกียรติยศของตนและผองชนกว่าสิบล้านทั่วโลกขึ้นมา แต่เมื่อเดินหมากไปได้ครึ่งทาง สถานการณ์ของจอมหมากเกาหลีก็ไม่ดีนัก “ลีเซดอล จำต้องทำอะไรซักอย่าง” นักวิจารณ์หมากว่า “ไม่อย่างนั้น กระดานนี้ก็จบลง” แต่หลังจากครุ่นคิดถึงทางหมากอยู่ 30 นาที เขาก็ทำสิ่งพิเศษขึ้นมา นั่นคือตาเดินที่ 78 หมาก “ลิ่ม” ที่ตอกลงใจกลางกระดาน และพลิกสถานการณ์ทั้งปวงไปสิ้น
เราพบในภายหลังว่า อัลฟ่าโกะ เดินหมากตรงสู่หายนะในตาเดินถัดไป และเพียงนาทีถัดมา เมื่อมันพิจารณากระดานอีกครั้ง จักรกลก็พบว่าโอกาสคว้าชัยของมันนั้นร่วงลงสู่หุบเหว นักวิจารณ์หมากล้อมเก้าดั้ง ไมเคิล เรดมอนด์ ชื่นชมว่า หมากของลีเซดอลนั้นเลิศล้ำ “ผมประหลาดใจ และเชื่อว่าคู่แข่งก็ประหลาดใจ ผมคิดว่าอัลฟ่าโกะคาดไม่ถึง”
นักหมากล้อมทั้งปวงล้วนกล่าวขานว่า หมากตาเดินนี้ประดุจ “หัตถ์เทวะ” เป็นคำยกย่องอย่างสูง แต่คำยกย่องที่ยิ่งใหญ่ก็มาจากอัลฟ่าโกะด้วยเช่นกัน
หนึ่งในหมื่น - อีกครา
รุ่งวันถัดมา บนถนนเซจอง เดียโร ถัดจากโรงแรมโฟว์ซีซั่น ผมได้สนทนากับเดมิส ฮัสซาบิส ผู้ดูแลห้องวิจัย ดีปมายด์ และประกาศกของอัลฟ่าโกะ ผู้คนที่ผ่านไปมาต่างทักทายเขา หลังจากปรากฏตัวในหน้าหนังสือพิมพ์และรายการโทรทัศน์นับไม่ถ้วน ในเกาหลี ซึ่งมีผู้คนกว่าแปดล้านคนเล่นหมากล้อม ลีเซดอลมีชื่อเสียง และด้วยสิ่งนั้น เขาก็มีชื่อเสียง
ฮัสซาบิสบอกผมว่า อัลฟ่าโกะ มิได้เตรียมพร้อมต่อการจู่โจมของ ลีเซดอล ในตาที่ 78 ด้วยว่า มันไม่คาดคิดว่าจะมีมนุษย์คนใดวางหมากเช่นนั้น จากการฝึกฝนนับเดือนปี มันตัดสินใจว่ามีโอกาสเพียงหนึ่งในหมื่นเท่านั้นที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้น อาจกล่าวได้ว่า โอกาสริบหรี่น้อยนิดของหมากนี้ ก็เหมือนกับสิ่งที่อัลฟ่าโกะทำในกระดานที่สอง
สมมาตรของตาเดินทั้งสองนี้ คือความงดงามหาใดเปรียบ หนึ่งในหมื่น และ หนึ่งในหมื่นเช่นกัน นี่คือสิ่งที่เราประจักษ์ในเจ็ดวันนี้ ฮัสซาบิส ซิลเวอร์ และสหายของเขา สร้างจักรกลที่ประดุจอภิมนุษย์ แต่ในยามเดียวกัน มันก็บกพร่อง มันไม่อาจเดินมาใกล้ เจรจาหาได้ไม่ มันทายคำไม่ได้ และสอบไม่ผ่านวิทยาศาสตร์ชั้นประถม มันไม่คู่ควรกับ “หัตถ์เทวะ”
แต่อะไรบังเกิดเล่า เมื่อสองสิ่ง มนุษย์ และ จักรกล มาบรรจบกัน
ฟานฮุ่ย แถลงว่า โลกของเขาเปลี่ยนไปเพียงจากการเดินหมากกับอัลฟ่าโกะมาห้าเดือน เขามองหมากล้อมด้วยวิถีที่เปลี่ยนไปสิ้นเชิง อันดับโลกของเขาดีขึ้นอย่างรวดเร็ว และ ลี เซดอล ก็รู้สึกเช่นกัน ฮัสซาบิสบอกว่า เขาพบกับจอมหมากเกาหลีหลังกระดานที่สี่ และ ลี เซดอล ปรารภเช่นเดียวกับฟานฮุ่ย เพียงไม่กี่กระดานกับอัลฟ่าโกะ จอมหมากกล่าวกับฮัสซาบิส ว่า เขาตื่นขึ้น
นี่มิใช่ มนุษย์เผชิญหน้ากับจักรกล แต่มันคือ มนุษย์และจักรกล ตาเดินที่ 37 ลึกล้ำเกินกว่าผู้ใดในหมู่เราจะหยั่งคาด แต่ตาหมากที่ 78 ก็เช่นกัน และเราต้องถามตนเองว่า:หากลีเซดอลมิได้เดินหมากสามกระดานแรกกับอัลฟ่าโกะแล้วไซร้ เขาจะค้นพบหมาก “หัตถ์เทวะ” นั้นหรือไม่?
จักรกลอันพิชิตเขานั่นเอง ที่นำพาเขาไปสู่วิถีแห่งหัตถ์เทวะ
แปลจาก In Two Moves, AlphaGo and Lee Sedol Redefined the Future