อดีตแฮกเกอร์ เผยเบื้องหลังขบวนการแฮก เพื่อหวังผลทางการเมืองในลาตินอเมริกา

by nrad6949
3 April 2016 - 07:36

เว็บไซต์สำนักข่าว Bloomberg Businessweek ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์พิเศษ Andrés Sepúlveda ซึ่งปัจจุบันเป็นนักโทษอยู่ในคุกความปลอดภัยขั้นสูงสุดของประเทศโคลอมเบีย จากโทษจำคุก 10 ปี ฐานแฮกระบบและจารกรรมข้อมูล และอดีตแฮกเกอร์ซึ่งเคยถูกจ้างให้ลงมือปฏิบัติการแฮกและเจาะระบบเพื่อหวังผลทางการเมือง โดยทาง Bloomberg ระบุว่าบทสัมภาษณ์นี้จะถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในการขอสนับสนุนเพื่อลดหย่อนโทษจำคุกดังกล่าว

Sepúlveda ระบุว่าเขาทำงานร่วมกับ Rendón ที่ปรึกษาด้านการเมืองที่นักการเมืองลาตินอเมริกามักจะเข้าไปหาอยู่เสมอเพื่อขอให้ทำงานบางอย่างให้ โดย Sepúlveda จะรับงานจาก Rendón ซึ่งสิ่งที่เขาทำมีตั้งแต่การจารกรรมข้อมูล การติดตั้งมัลแวร์ ดักฟังโทรศัพท์ แฮกบัญชีสื่อออนไลน์ สร้างชื่อบัญชีผู้ใช้บนสื่อสังคมออนไลน์ปลอมแล้วปั่นกระแสด้วยโปรแกรมพิเศษที่ออกแบบมา ไปจนถึงเอาข้อมูลที่สำคัญซึ่งได้มาจากการแฮกเปิดเผยต่อสาธารณะเพื่อหวังผลทางการเมือง ซึ่งแม้จะไม่ประสบความสำเร็จทั้งหมด แต่ก็มีส่วนทำให้ฝ่ายตรงข้ามทำงานได้ลำบากขึ้น โดยตัวของ Sepúlveda จะเป็นหัวหน้า และมีทีมแฮกเกอร์ในหลายประเทศของลาตินอเมริกาเข้าร่วมทีมด้วย

อย่างไรก็ตาม สายสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับ Rendón ก็แตกหักลง เมื่อ Rendón ตัดสินใจสนับสนุนประธานาธิบดีของโคลอมเบีย ที่เดินหน้าเจรจากับฝ่ายกบฏ ขณะที่ Sepúlveda กลับสนับสนุนฝ่ายที่ให้แตกหักกับกลุ่มกบฏ จนนำมาสู่การจับกุมตัวของ Sepúlveda ซึ่งเขาตัดสินใจที่จะช่วยเหลือทางการ โดยใช้เครื่องมือที่เขาสร้างในการตรวจหาความเคลื่อนไหวแปลกๆ เช่น การสรรหาคนเข้าเครือข่ายก่อการร้ายอย่าง ISIS ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ แต่ระหว่างนั้นเขาต้องหลบหนีและเปลี่ยนคุกอยู่หลายครั้ง เนื่องจากทางการโคลอมเบีย ระบุว่ามีความพยายามในการสังหาร Sepúlveda ต่อเนื่องเรื่อยมา (ทุกวันนี้เขาต้องนอนด้วยผ้าห่มที่กันกระสุน และมีเสื้อเกราะอยู่ข้างๆ)

เมื่อทาง Bloomberg ติดต่อไปยังตัวละครที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมไปถึง Rendón เอง ทุกฝ่ายต่างปฏิเสธว่า ตนเองมีส่วนรู้เห็นในเรื่องต่างๆ ที่ Sepúlveda เอามาเปิดเผย โดยในกรณีของ Rendón ระบุแต่เพียงว่า เขาแค่ให้ Sepúlveda ดูแลและออกแบบเว็บไซต์เท่านั้น และไม่เคยจ่ายเงินแม้แต่หนึ่งเปโซ (หน่วยเงินท้องถิ่น) อย่างไรก็ดี Sepúlveda ได้มอบหลักฐานบางส่วนอย่างเช่นอีเมลให้กับ Bloomberg ซึ่งทางสำนักข่าวได้ตรวจสอบแล้วและพบว่าเหตุการณ์บางอย่างตรงกัน รวมไปถึงให้ผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาตรวจสอบ และระบุว่าอีเมลหลายฉบับที่ Sepúlveda ติดต่อกับ Rendón ในประเด็นเรื่องขอให้จารกรรมนั้น มีแนวโน้มว่าจะเป็นของจริงสูงมาก

ด้าน David Maynor ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยจาก Errata Security ระบุว่าลักษณะของการกระทำเช่นนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นทั่วโลก ในกรณีของเขาเองก็เคยมีการขอจ้างงานในลักษณะนี้ ซึ่งทางบริษัทตอบปฏิเสธไปเสมอเช่นกัน ทั้งนี้ Sepúlveda ระบุตอนหนึ่งในการให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเขารู้ว่าผู้คนเชื่อข้อมูลที่อยู่ในอินเทอร์เน็ตมากกว่าความเป็นจริง เขาเองก็มีอำนาจ (power) พอที่จะทำให้ผู้คนเชื่อในเกือบทุกสิ่งได้เช่นกัน

ที่มา - Blomberg Businessweek

Blognone Jobs Premium