สวัสดีครับ พอดีผมได้เจ้า Samsung SmartThings Home Monitoring Kit ที่สั่งมาจาก Amazon เพื่อมาใช้เองที่บ้าน ก็เลยมารีวิวกันให้เพื่อนๆ ดูกันว่าเจ้านี่มีดียังไง ทำไมถึงขึ้นชื่อว่าเป็น Smart Home Hub ที่มาแรงที่สุดในตอนนี้
เกริ่นกันสักนิดนึงก่อนเข้ารีวิว ตลาด Smart Home ตอนนี้ SmartThings ถือเป็นบริษัท startup ที่ค่อนข้างมาแรง บริษัทก่อตั้งเมื่อปี 2012 โดยออกแคมเปญที่ Kickstarter ระดมทุนให้ SmartThings Hub Version 1 และประสบความสำเร็จอย่างมาก ได้เงินลงทุนถึง 1.2 ล้านเหรียญสหรัฐ และได้รับการเพิ่มทุนจากนักลงทุนเรื่อยๆ จนในปี 2014 ถูกซัมซุงซื้อกิจการด้วยเงิน 200 ล้านเหรียญสหรัฐ และเปลี่ยนชื่อเป็น Samsung SmartThings ในที่สุด
SmartThings Hub Version 2 เป็นทายาทจากเวอร์ชันแรกที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ความสามารถที่โดดเด่นจากเวอร์ชันแรกคือทำงานได้แม้อินเทอร์เน็ตล่ม มันยังสามารถสั่งงานผ่านระบบ LAN ภายในบ้าน และยังเพิ่มแบตเตอรี่ขนาด AA จำนวน 4 ก้อนมา เพื่อให้ทำงานได้แม้ไฟดับ 10 ชั่วโมงก่อนที่แบตเตอรี่จะหมด
SmartThings Home Monitoring Kit
ชุดอุปกรณ์เวอร์ชันที่ 2 ประกอบด้วย ฮับและอุปกรณ์ Smart Devices หลายชิ้นด้วยกันในชุดเริ่มต้น
ในรีวิวนี้ ผมสั่ง Home Monitoring Kit มาหนึ่งชุด พร้อมกับสั่ง Arrival Sensor แยกมาด้วยหนึ่งอัน ซึ่งไม่มีอยู่ในชุดเริ่มต้น ทำให้ต้องสั่งแยก
อุปกรณ์ในกล่อง
SmartThings Hub
ด้านหน้ามีไฟ LED สามดวงเล็กๆ ไว้แสดงสถานะของฮับ
ด้านหลังหลังมีช่องเสียบไฟเลี้ยง ปุ่ม Reset ช่อง USB 2 ช่องไว้ต่ออุปกรณ์พวก 3G Modem ไว้ใช้ในขณะที่อินเทอร์เน็ตหลักล่ม และช่องเสียบสาย LAN หนึ่งช่องไว้ต่อกับ Router
เจ้าฮับตัวนี้เป็นหัวใจสำคัญของ Home Automation เลยก็ว่าได้ ถ้าไม่มีเจ้าตัวนี้ บ้านของเราก็จะเป็นได้แค่บ้านที่สั่งงานผ่านมือถือได้เท่านั้น แต่จะทำงานแบบ Automation ไม่ได้ สังเกตว่าฮับตัวนี้ไม่มี Wi-Fi นะครับ เวลาใช้งานต้องต่อ LAN อย่างเดียว
Specifications
SmartThings Outlet
ปลั๊กไฟแบบสั่งงานเปิด-ปิด บนปลั๊กมีปุ่มกดสำหรับไว้ใช้เปิด-ปิดบนตัวปลั๊กเอง เชื่อมต่อกับฮับด้วย ZigBee มีไฟ LED สีฟ้าบอกสถานะ การทำงาน
SmartThings Multipurpose Sensor
เซ็นเซอร์สำหรับติดที่ประตูหน้าต่าง บานเปิดต่างๆ โดยขันน็อตติดเลยถ้าขอบประตูเป็นไม้ หรือว่าใช้กาวสองหน้าติดก็ได้ เซ็นเซอร์มีขนาดเล็กและเบามาก สามารถบอกสถานะการเปิด-ปิดได้ ใช้คู่กับแม่เหล็กแท่งเล็กๆ ที่มาคู่กัน มีเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิในตัว และยังมี Accelerometer วัดความสั่นสะเทือนได้อีกด้วย ตัวเซ็นเซอร์ใช้พลังงานจากถ่าน CR2450 หนึ่งก้อน
SmartThings Motion Sensor
เซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับการเคลื่อนไหว และสามารถวัดอุณหภูมิในตัว สามารถยึดติดได้โดยใช้น็อตหรือกาวสองหน้าแปะได้เลย ตัวเซ็นเซอร์ใช้พลังงานจากถ่าน CR2450 หนึ่งก้อน
SmartThings Arrival Sensor
เจ้าตัวนี้เป็นเหมือน Key Fob ที่เอาไว้ห้อยไว้กับสิ่งของต่างๆ เพื่อบอกสถานะว่าอยู่ในบ้านหรืออยู่นอกบ้าน ใช้สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้แอพในสมาร์ทโฟน ตัวอย่างเช่น เวลาสัตว์เลี้ยงวิ่งหนีออกจากบ้าน เราจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอพทันที
SmartThings Mobile Application
หัวใจสำคัญของ Home Automation อีกอย่างนึงคือการควบคุมและโปรแกรมระบบอัตโนมัติต่างๆ เราสามารถสั่งให้ฮับ ทำงานได้จากแอพนี้โดยตรง ก่อนอื่นต้องสร้าง Account ขึ้นมา โปรแกรมจะให้เราตั้งชื่อบ้าน และระบุตำแหน่งบ้านบนแผนที่ ให้เราใส่ Code ที่ให้มากับตัวฮับ เพื่อระบุว่าฮับของเราลิงก์กับ Account ของเราเอง
แอพหน้าหลัก จะเป็นการแสดงระบบการรักษาความปลอดภัย และสถานะของอุปกรณ์ความปลอดภัย เช่น Smoke Detector, Water Leak Dector เป็นต้น เราสามารถตั้งค่าระบบรักษาความปลอดภัยให้แจ้งเตือนขณะที่ไม่มีคนอยู่บ้านเลย (Armed/Away) หรืออยู่บ้านแต่ตั้งตรวจสอบไว้ (Armed/Stay) หรือปิดระบบ (Disarm)
แท็บถัดไปเป็นหน้ารวมสถานะแยกชิ้น ของอุปกรณ์ที่ใช้ในการรักษาความปลอดภัย ทั้ง Door/Window Sensor และ Motion Sensor ต่างๆ ในบ้าน
หน้า My Home ในแท็บแรก เป็นรายชื่อห้องที่มีในบ้าน เราสามารถรวมกลุ่มอุปกรณ์ในแต่ละห้อง แยกกันไว้เพื่อความสะดวกในการค้นหา
แท็บถัดไปคือหน้ารวมอุปกรณ์ทั้งหมด รวมถึงแสดงสถานะของอุปกรณ์แต่ละชิ้นไว้ในหน้าเดียว
แท็บถัดไป เป็นหน้ารวมอุปกรณ์ที่ใช้แสดงตำแหน่งว่าอยู่ในบ้าน หรืออยู่นอกบ้านโดยใช้ Location Service ในแอพมือถือ หรือ Arrival Sensor แทนก็ได้
หน้าถัดไปเป็น หน้าที่เรียกว่า Routines เอาไว้สร้างปุ่มควบควมการทำงานเป็นชุด เช่น กดปุ่ม Goodbye ตั้งให้ปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้านทั้งหมด ตั้งระบบรักษาความปลอดภัยเป็น Armed/Away ด้วยการกดปุ่มเดียว
เรายังสามารถตั้งให้ปุ่มพวกนี้ทำงานเองได้ เช่น ถ้าทุกคนออกจากบ้านหมด ให้ระบบสั่งกดปุ่ม Goodbye เองโดยเราไม่ต้องเข้ามากดในแอพอีกที หรือ สามารถตั้งให้ไฟเปิดเองได้เมื่อมีใครคนใดคนหนึ่งกลับมาถึงบ้านในเวลากลางคืน เป็นต้น
หน้าถัดไปคือ Marketplace ใช้ pair อุปกรณ์เพิ่มเข้ามาในระบบ และสามารถเลือกติดตั้งโปรแกรมที่เรียกกว่า SmartApps เพื่อสั่งให้อุปกรณ์ทำงานอัตโนมัติ
หน้าสุดท้ายที่มีความสำคัญในแอพนี้คือหน้า Notifications ไว้แจ้งเตือนเหตุการณ์ต่างๆ เช่น มีใครบุกรุก หรือมีการสั่งงานคำสั่งอัตโนมัติเสร็จสิ้น รวมไปถึงบอกลำดับการทำงานของอุปกรณ์แต่ละชิ้นในรูปแบบ Activity Feed
เมื่อพูดถึงความเข้ากันของกับอุปกรณ์ยี่ห้ออื่น SmartThings รองรับการทำงานร่วมกันอุปกรณ์ในตลาดมากกว่า 1500+ ชิ้น เพราะรองรับมาตรฐาน Zigbee/Z-Wave Plus และยังทำงานร่วมกับกล้อง IP Camera ทั้งของ Samsumg เองและของ D-Link ด้วย
นอกจากนี้ ยังรองรับการทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นที่ SmartThings ไม่ได้ผลิตออกมาขายเช่น Smoke Detector, Deadbolt Key Lock, Energy Meter, Siren Alarm ฯลฯ
แกะกล่อง กันดีกว่า
ปิดท้ายด้วยวิดีโอแกะกล่องเจ้า Samsung SmartThings กันให้ดูครับ