เนื้อหาการใช้งานอินเทอร์เน็ตในยุคนี้ เน้นงานวิดีโอเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการถ่ายทอดสดที่กลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญไปแล้ว และโซเชียลเน็ตเวิร์คยอดฮิตของโลก ต่างก็ชูเรื่องวิดีโอสตรีมมิ่งเป็นจุดขายกันถ้วนหน้า
Facebook Live ถือเป็นบริการถ่ายทอดสดตัวใหม่ล่าสุด ที่ตอนนี้ก็เปิดให้ใครๆ สามารถถ่ายทอดสดลง News Feed ของตัวเองได้จากแอพ Facebook บนสมาร์ทโฟนได้เลย (ส่งผลให้ช่วงนี้เราเห็น Live กันเต็มหน้า Feed)
Facebook ยังมีฟีเจอร์ด้านโซเชียลอีกหลายอย่างเพื่อผลักดัน Live แบบสุดตัว เช่น กดไลค์หรือแสดงความรู้สึกแบบเรียลไทม์ ชวนเพื่อนมาดู Live ด้วยกัน หรือแม้กระทั่งแผนที่แสดง Live ทั่วโลกว่ามีที่ไหนบ้าง
เจ้าพ่อวิดีโอออนไลน์อย่าง YouTube ก็ไม่น้อยหน้า มีฟีเจอร์ Livestreaming มานานแล้ว เราสามารถดูการถ่ายทอดสดกิจกรรมต่างๆ ได้ YouTube ทั้งบนเว็บและในสมาร์ทโฟนได้อย่างสะดวก หรือจะดูจากคลิปบันทึกงานที่ถ่ายทอดสดไปแล้วก็ได้
ตอนนี้มีเทศกาลดนตรี การแสดง กีฬา จำนวนมากที่หันมาถ่ายทอดสดผ่าน YouTube เรียบร้อยแล้ว เลือกชมกันได้หลากหลาย
Twitter เองก็มีบริการถ่ายทอดสดผ่านมือถือชื่อ Periscope ถึงแม้เป็นแอพที่ต้องติดตั้งเพิ่ม แต่เปิดแอพขึ้นมา กดบันทึกวิดีโอแล้วส่งขึ้น Twitter ได้เลย เหมาะกับการรายงานข่าวสดๆ ที่เกิดขึ้นแบบเรียลไทม์มาก
ถึงแม้ Instagram ยังไม่มีแผนการรองรับวิดีโอแบบถ่ายทอดสด แต่ก็อนุญาตให้ผู้ใช้อัพโหลดคลิปวิดีโอขนาดสั้นๆ ได้มานานแล้ว (และบรรดาเซเล็บ ดารา นักร้อง เน็ตไอดอล ต่างก็นิยมใช้ฟีเจอร์นี้กันอย่างมาก) แถมเมื่อเร็วๆ นี้ Instagram เพิ่งขยายระยะเวลาคลิปให้เป็น 60 วินาที ส่งผลให้เจ้าของบัญชี IG ดังๆ สามารถสร้างสรรค์วิดีโอขนาดยาวได้มากขึ้นกว่าเดิม
นอกจากบริการถ่ายทอดสดแบบ Live หรือคลิปสั้นแล้ว ช่วงนี้เรายังเห็นบริการดูหนังออนไลน์แบบถูกลิขสิทธิ์ มาเปิดบริการในบ้านเราอย่างคึกคัก ทั้งผู้ให้บริการจากต่างประเทศ และในประเทศไทยเอง ไม่ว่าจะเป็น Netflix, iflix, Primetime, Hollywood HD, HOOQ, Doonee เป็นต้น
เท่านั้นยังไม่พอ ถ้าไม่อยากดูหนังแบบสตรีมมิ่ง ก็ยังสามารถซื้อหนังเป็นเรื่องๆ ได้จาก iTunes, Google Play หรือ Windows Store ได้ด้วย เรียกว่าโลกออนไลน์ยุคนี้ถือเป็นสวรรค์ของคนชอบดูหนังอย่างแท้จริง
จะเห็นว่าเนื้อหาแบบวิดีโอกำลังกลายเป็นกระแสหลักของอินเทอร์เน็ต ครั้นจะดูผ่านเครือข่าย 3G/4G ที่คิดตามปริมาณข้อมูล อาจไม่คุ้มค่านัก ทางออกที่ดีกว่าคือการติดอินเทอร์เน็ตแบบไฟเบอร์ออปติกส์ที่มีคุณภาพสูง เพื่อความรวดเร็วในการโหลดวิดีโอแบบไร้กังวัล ไม่ต้องสนใจว่าปริมาณข้อมูลจะเกินโควต้าหรือไม่
C internet เป็นบริการอินเทอร์เน็ตไฟเบอร์จาก CAT Telecom ผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตรายใหญ่ของไทย ที่มีชื่อเสียงมายาวนานด้านอินเทอร์เน็ตสำหรับองค์กร ส่งผลให้เชื่อมั่นได้ในคุณภาพและเสถียรภาพของการให้บริการ
บริการเน็ตไฟเบอร์ C internet เริ่มต้นที่ 690 บาทสำหรับผู้ใช้ตามบ้าน ได้เน็ตฝั่งดาวน์โหลด 15 Mbps และฝั่งอัพโหลด 1 Mbps ส่วนผู้ใช้กลุ่มองค์กรที่อาจต้องแชร์เน็ตกันหลายคนหน่อย แพ็กเกจเริ่มต้น 30 Mbps/3 Mbps ในราคาเพียง 1,500 บาท
รายละเอียดดูเพิ่มได้จาก http://catinternet.com, Facebook C internet หรือ Call Center 1322