InVent หน่วยลงทุนของบริษัท Intouch ประกาศลงทุนในบริษัท Wongnai สตาร์ตอัพรีวิวร้านอาหารและร้านค้า โดยเป็นการลงทุนระดับ Series B ครั้งแรกของ InVent ด้วย
นายธนพงษ์ ณ ระนอง ผู้บริหาร InVent บอกว่าตลาดสตาร์ตอัพในไทยกำลังเติบโต แต่ส่วนใหญ่ยังเน้นที่ระดับ Seed และ Series A กันเยอะ แต่ยังไม่มีใครลงทุนระดับ Series B ขึ้นไปมากนัก ในปีนี้ InVent จึงพยายามหันมาเน้นที่การลงทุน Series B และกรณีของ Wongnai ก็ถือครั้งแรกที่บริษัทคนไทยลงทุน Series B ในบริษัทคนไทยด้วยกัน ถือเป็นประวัติศาสตร์ของวงการสตาร์ตอัพไทยด้วย
InVent มองว่าบริษัทที่มียอดผู้ใช้และรายได้แบบ Wongnai ย่อมได้รับความสนใจจากนักลงทุนอยู่แล้ว Wongnai ไม่ได้เป็นแค่เว็บไซต์ แต่เป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่ที่มีลูกค้าและเนื้อหาจำนวนมาก ไปหาใครก็มีแต่คนอยากลงทุน แต่สุดท้าย Wongnai บรรลุข้อตกลงกับ InVent เพราะมองในแง่มูลค่าเชิงยุทธศาสตร์ธุรกิจ นอกเหนือจากเงินลงทุนเพียงอย่างเดียวด้วย ทาง InVent ก็คุยกับบริษัทในเครืออย่าง AIS ว่าบริการเชิงไลฟ์สไตล์แบบ Wongnai มีประโยชน์แค่ไหน ซึ่ง AIS ก็มองว่าช่วยเสริมจุดเด่นเรื่อง CRM เช่นกัน
นายยอด ชินสุภัคกุล ซีอีโอของ Wongnai เล่าสถิติของ Wongnai มีสมาชิก 2.2 ล้านคน มีฐานข้อมูลธุรกิจชนิดต่างๆ ประมาณ 2 แสนรายการ น่าจะครอบคลุมประมาณ 90% ของร้านอาหารในไทย มีรูปภาพและรีวิวประมาณ 4 ล้านชิ้น ข้อมูลเกือบทั้งหมด (99%) เป็น user-generated content ที่ผู้ใช้เป็นผู้สร้างเนื้อหาขึ้นมา
Wongnai ระบุว่าเป็นแอพแนวไลฟ์สไตล์ที่มีคนใช้งานมากที่สุดในไทย มียอดผู้ใช้งานมากกว่า 5 แสนคนต่อเดือน (MAU - monthly active users)
นอกจากนี้ Wongnai พยายามกระจายสำนักงานไปทั่วประเทศไทย ตอนนี้มีสำนักงานในเชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต หาดใหญ่ มีพนักงานทำงานประจำ ทั้งในแง่ local content คอยรีวิวร้านท้องถิ่น และมีทีมเซลส์คอยคุยกับร้านในพื้นที่ด้วย
นายยอด บอกว่าตอนนี้สถานะของ Wongnai ไม่ถือเป็นสตาร์ตอัพแล้ว เพราะมีโมเดลธุรกิจชัดเจน มีรายได้ที่สเกลได้ มีรายได้เติบโต 250% ในปีที่แล้ว
ขั้นต่อไปของ Wongnai หลังรับทุน Series B จะทำเพิ่ม 3 เรื่อง
นายยอด บอกว่า Wongnai ยังไม่สนใจออกไปต่างประเทศ สนามแข่งขันของ Wongnai คือเมืองไทย ซึ่งนักลงทุนที่มีศักยภาพลง Series B และเป็นนักลงทุนไทย ก็มี InVent ที่เด่นชัดที่สุด เมื่อบวกกับฐานลูกค้าของ AIS จำนวนมหาศาลก็ยังมีศักยภาพให้ Wongnai เติบโตได้อีก
Wongnai ยังมองเรื่อง Big Data และ Analytics จากข้อมูลจำนวนมหาศาลที่มีอยู่ โดยจะเริ่มทำเรื่องนี้ผ่านความร่วมมือกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่องการทำ data mining ข้อมูลให้เกิด personalization กับลูกค้าแต่ละคนได้มากขึ้น